ยังไม่ลดโทษให้ 8 คุก!! คดีน้องมะปิน การขออุทธรณ์ เป็นเพียงแค่ทำตามขั้นตอน

หลังจากที่มีข่าว การขออุทธรณ์ของ นายกิตติกร หรือ ตั้ม วิกาหะ นักโทษคดีสะเทือนขวัญ ฆ่าน้องมะปินเพื่อปล้นทรัพย์ ซึ่งขณะนี้โดนตัดสินให้ประหารชีวิต โดยศาลพิจารณา จากพยานหลักฐานเห็นว่าพฤติกรรมของจำเลย มีการพกพาอาวุธไปในเมือง ชิงทรัพย์และร่วมกันฆ่า เป็นความผิด และเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม และทำผิดหลายครั้งยากที่จะปรับแก้นิสัย จึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษ และตัดสินให้ลงโทษหนักสุด คือ ลงโทษประหารชีวิต โดยศาลยังระบุว่า จำเลยให้การรับสารภาพไม่ใช่เพราะสำนึกผิดแต่เป็นการรับสารภาพ เพราะจำนนต่อหลักฐาน กล้องวงจรปิด จึงไม่สมควรลดโทษให้

ทั้งนี้กลายเป็นประเด็นสุดร้อนในโซเชียลอีกครั้ง เมื่อพ่อของน้องมะปินได้โพสต์เนื้อหาใจความ เกี่ยวกับการตัดพ้อต่อศาล

และล่าสุดทาง เฟสบุ๊คเพจ Fight For Mapin ซึ่งเป็นเพจสาธารณะที่ติดตามข่าวเรื่องคดี น้องมะปิน มาโดยตลอดได้โพสต์ข้อความเคลือบแคลงใจดังต่อไปนี้...

ช่วยกันแชร์ ศาลส่งเอกสารคำยื่นอุทรณ์ของฆาตกร ขอให้ลดโทษเป็นสถานเบา และส่งมาแบบกระดาษเปล่าไม่ใส่ซอง !!!

คือถ้าเอกสารหาย หรือชำรุด คดีนี้นักโทษก็จะได้รับอุทรณ์อย่างนั้นหรือ? ระบบยุติธรรมของเราเป็นแบบนี้ใช่ไหม? ยังโชคดีที่คุณพ่อของมะปินพบเอกสารในฉบับที่สมบูรณ์ และตอนนี้กำลังดำเนินเรื่องเพื่อแย้งคำอุทรณ์นี้อยู่ ซึ่งแจ้งว่าต้องทำเรื่องภายใน 15 วัน ผลจะเป็นเช่นไรพวกเราจะมารายงานให้ทราบต่อไป

โดยคำอุทรณ์มีเนื้อหาคร่าวๆว่า ขอลดโทษจากศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิตเป็นโทษสถานเบา เพื่อจำเลยจะได้ออกมาบำเพ็ญประโยชน์ให้ชาติและบวชทดแทนคุณให้มะปิน โดยอ้างเหตุผลที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบไม่ได้ไต่ตรองไว้ก่อน

ช่วยกันแชร์ต่อๆไป และหวังว่าศาลคงไม่เห็นด้วยกับการอุทรณ์ครั้งนี้ ไม่อยากจะคิดวาถ้าไม่เจอเอกสารจะเกิดอะไรขึ้น แล้วคดีอื่นๆนอกจากคดีนี้ ก็เป็นแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า นักโทษคดีร้ายแรงถึงกลายเป็นเบา และออกมาจากคุกกันอย่างง่ายดาย
#FightForMapin

ทั้งนี้ ตามกระบวนการยุติธรรม จำเลยผู้ซึ่งมีโทษสูงสุด หรือ ประหารชีวิต มีสิทธิในการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลเพื่อขอลดโทษได้ เพราะ เป็นสิ่งที่จำเลยพึงกระทำได้ตามกฎหมาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาอุทธรณ์ ซึ่งอุทธรณ์ได้หรือไม่นั้นก็อยู่ในดุลพินิจของศาลต่อไป...