พยานโผล่!เล่าเหตุการณ์ นาทีหมอยอร์นชนรปภ.หวิดดับ!

            กรณี นพ.ยอร์น จิระนคร สาธารณสุขนิเทศน์ เขต 12 กระทรวงสาธารณสุข ขับรถเก๋งพุ่งชน นายสมชาย หรือ นัท ยามดี อายุ 22 ปี รปภ.ประจำประตู 2 ด้านสถาบันบำราศนราดูร จนได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ทาง พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาเพื่อจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีนายทรงชัย บุตรงาม ลูกจ้างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) พยานปากสำคัญที่อยู่ในที่เกิดเหตุกรณีหมอขับรถชน รปภ. ให้ข้อมูลด้วย 

นายทรงชัย เผยว่า ตนขับรถเก๋งมารับน้องสาวที่กระทรวงสาธารณสุข โดยขับตามรถเก๋งสีขาวของหมอยอร์นมาตั้งแต่ปากซอย ซึ่งขับมาด้วยความเร็วขนาดตนขับความเร็วที่ 40 กม./ชม.ยังขับไม่ทัน จนมาถึงใกล้กับประตู 2 ทางเข้ากระทรวงก็ไม่เห็นเบรกรถ จนประตูเปิดออก ตนยังคิดว่า รปภ.คงจะเปิดให้เราเข้าออกปกติ แต่เมื่อมาถึง 50 ม. ก่อนถึงประตู ก็มีรถสวนออกมาบอกให้ตนช่วยดู เมื่อเปิดไฟสูงมองไปยังรถ ตอนแรกคิดว่าเป็นกันชนหลุด แต่สรุปเป็นคนนอนใต้หน้ารถ และรถของหมอยอร์นยังได้จอดอยู่ประมาณ 10 วินาทีแล้วขับเลื่อนไป จนจอดยังจุดสุดท้าย เขาก็ยังจอดรถอีกสักพักแล้วลงมามองร่างของผู้บาดเจ็บ โดยหันมามองตนแล้วพยายามดึง รปภ.ออกจากใต้ท้องรถ แต่ดึงไม่ออก หลังจากนั้นจึงมีรปภ.คนอื่นๆ เข้ามาที่เกิดเหตุ ตนจึงลงมาดูเช่นกัน เห็นหมอยอร์นหน้าตาดูมึนๆ นิ่งๆ ได้ยินเสียงพูดไม่เต็มคำ เสียงหมอจะคล้ายลิ้นแข็งๆ ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุได้มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาพูดคุยตอบโต้กับหมอ โดยหมอเรียกว่าอาจารย์ ตนก็ไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร นั่งในรถมาด้วยหรือไม่...

"มองว่าถ้าเป็นหมอก็น่าจะรู้จักวิธีการช่วยเหลือที่ถูก ไม่ใช่ดึง รปภ.ออกเพียงอย่างเดียว น่าจะรู้จักการปฐมพยาบาลผู้ป่วย ผมเป็นคนปกติยังไม่กล้าดึงออกเลย ไม่รู้ผู้บาดเจ็บเขามีอาการมากน้อยขนาดไหน ส่วนที่มีคนถามว่าทำไมผมถึงกล้าออกมาเป็นพยานในเรื่องนี้ คือผมมองว่า ในที่เกิดเหตุมีแค่ผมกับหมอยอร์น 2 คนเท่านั้นที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้นผมจึงอยากให้มีความเป็นธรรมเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย หากจะมีผู้มีอิทธิพลนำเงินมามอบให้หรือใช้อำนาจในการเปลี่ยนรูปคดี ผมก็คงไม่รับและยังยืนยันคำให้การต่อตำรวจเช่นเดิม" พยานปากสำคัญคดีหมอชน รปภ. กล่าวทิ้งท้าย.... 

Cr:::dailynews.co.th