จับลูกนายพล กับนายแพทย์ แลกเงินเก๊ ร่วมพันล้าน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี นำโดย พ.ต.ท. โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย สว.สส. ร.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง สว.สส. ร.ต.ท.พีรรัฐ โยมา พงส. (สบ 1) กับพวกจับกุมนายเอกรินทร์ ญาณอุบล อายุ 38 ปี ลูกชาย พล.ต.ท. แหลมทอง ญาณอุบล อดีต ผบช.ภ.3 นางธนาอร สุวรรณเกตุ อายุ 50 ปี สมุห์บัญชีบริษัทเอเชียนแอร์ทาวเวอร์ ย่านรัชดาภิเษก และ นพ.สุรเชษฐ์ กฤตยเรืองโรจน์ อายุ 46 ปี กรรมการบริษัทเอเชียนแอร์ทาวเวอร์ และเจ้าของโรงพยาบาลนายแพทย์สุรเชษฐ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ทั้งยังเป็นอดีต ส.จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางธนบัตรดอลลาร์ สหรัฐฯ ปลอมฉบับละ 100 ดอลลาร์ จำนวน 119,800 ดอลลาร์ พันธบัตรดอลลาร์สหรัฐฯ ปลอมฉบับละ 1 ล้านดอลลาร์ จำนวน 29 ใบ ธนบัตรมาเลเซียปลอมฉบับละ 1,000 ริงกิต จำนวน 82 ใบ และธนบัตรเยนญี่ปุ่นปลอมฉบับละ 10,000 เยน อีก 80 ใบ คิดเป็นเงินไทยมูลค่าทั้งหมดประมาณ 991 ล้านบาทเศษ
 

เบื้องหลังการจับกุมแก๊งธนบัตรปลอมรายมหึมาครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีสายลับรายงานว่า

จะมีชายหญิงคู่หนึ่งนำเงินดอลลาร์ปลอมไปแลกเป็นเงินไทยที่ร้านแลกเปลี่ยนเงินซุปเปอร์ริช ตลาดบางกอกบาซาร์ ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินีจึงนำกำลังไปซุ่มดักสังเกตการณ์อยู่ราว 1 ชั่วโมง พบชายหญิงที่มีลักษณะตรงกับสายรายงานเดินถือกระเป๋าสะพายเข้าไปขอแลกเงิน กำลังตำรวจนอกเครื่องแบบเลยแสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม ทราบชื่อนายเอกรินทร์ ญาณอุบล ลูกชายอดีตนายพลชื่อดัง และนางธนาอร  สุวรรณเกตุ   ทั้งคู่ถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก โดยมี พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.5 ร่วมสอบปากคำขยายผล โดยนายเอกรินทร์ยอมรับว่า เป็นลูกชายของ พล.ต.ท. แหลมทองจริง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นบิดาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนไปทำธุรกิจส่วนตัวและรู้จักกับ นพ.สุรเชษฐ์ กฤตยเรืองโรจน์ เจ้าของโรงพยาบาล นายแพทย์สุรเชษฐ์ที่ว่าจ้างให้นำเงินดอลลาร์ไปแลกเป็นเงินไทย คิดค่าจ้าง 8 หมื่นบาท ส่วนนางธนาอรจะได้ 3 หมื่นบาท และไม่ ทราบว่าเงินดังกล่าวเป็นธนบัตรปลอม 

เจ้าของโรงพยาบาลชื่อดังได้ขับรถเบนซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน 3ณ-7499 กรุงเทพมหานคร มาพบตามนัด เพราะมั่นใจว่า ธนบัตรมูลค่ามหาศาลนั้นเป็นของแท้ ชุดสืบสวนจึงขอตรวจค้นรถพบกระเป๋าถือสีดำซ่อนอยู่ท้ายกระโปรงรถเป็นธนบัตรดอลลาร์ปลอมอีกจำนวนมาก มีนายบุญส่ง เกียรติอมรเวช เจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกาไปร่วมตรวจสอบและยืนยันว่าธนบัตรมูลค่าเกือบพันล้านบาทไทยทั้งหมดนั้นเป็นของปลอมแน่นอน ทำเอา นพ.สุรเชษฐ์หน้าซีดเผือด

อดีตนักการเมืองท้องถิ่น จ.บุรีรัมย์ ยืนกรานว่า ไม่รู้มาก่อนว่าเป็นธนบัตรปลอม

อ้างรับเงินมาจากนายณัฐศักดิ์ ไม่ทราบนามสกุล เพื่อนนักธุรกิจแร่กวงซึ่งรู้จักกันที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยนายณัฐศักดิ์มอบธนบัตรจำนวนดังกล่าวให้มาแลกเป็นเงินไทยเพื่อนำไปซื้อแร่ในประเทศพม่าส่งกลับไปให้ที่เมืองจีน ครั้งแรกก็รู้สึกเอะใจเหมือนกันว่าทำไมถึงกล้าไว้ใจให้หอบเงินจำนวนมหาศาลมาแลกมากมายขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่ออยู่ระหว่างสอบสวนเพื่อสาวถึงขบวนการค้าธนบัตรปลอมรายใหญ่นี้ พร้อมดำเนินคดีข้อหาร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้  ซึ่งธนบัตรรัฐบาลต่างประเทศออกให้ใช้โดยรู้ว่า เป็นของปลอม ที่กองปราบปราม
วันเดียวกัน พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รักษาการ ผบก.ป. แถลงข่าวจับกุม นายธนกร เจริญ อายุ 34 ปี น.ส.เบญจทิพย์ โพนสิม อายุ 23 ปี และนายพิพัฒน์ คำแก้ว หรือดำมี่ อายุ 30 ปี

ของกลางธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวนกว่า 700 ฉบับ รวมเป็นเงินประมาณ 700,000 บาท พร้อมอุปกรณ์ผลิตธนบัตรปลอมอีกหลายรายการ โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 100/27 หมู่บ้านเอกธานี ต.นาอาน อ.เมืองเลย และบ้านเลขที่ 27 ถ.สายไร่ทาม-สงเปลือย ต.น้ำสวย อ.เมืองเลย หลังจากชุดสืบสวน กก. 2 บก.ป. แกะรอยติดตามมานาน ผู้ต้องหารับสารภาพว่าร่วมกันทำโปรแกรมผลิตธนบัตรไทยปลอมแล้วนำมาขายในเขตพื้นที่ภาคอีสานหลายเดือนแล้ว