ตุ๋นแม่ค้าข้าวแกงนับร้อย-ลวงถอดสร้อย

มหาภัยแม่ค้าข้าวแกง นักตุ๋นแสบหลอกเชิดทรัพย์สินร่วม 2 แสนหนีลอยนวล แฉอุบายแยบยล ทำทีขับรถเก๋ง แต่งตัวภูมิฐาน มาติดต่อว่าจ้างให้ทำกับข้าวหม้อใหญ่ไปเลี้ยงคนงานโรงกลั่น แต่ต้องไปเอาหม้อจากโรงงานมาใส่แกง ฝ่ายแม่ค้าหลงเชื่อขึ้นรถตามไปด้วย พอถึงหน้าโรงกลั่นก็บอกให้ถอดทรัพย์สินสร้อยทอง โทร.มือถือให้หมด อ้างเป็นสื่อทำลายเครื่องจักร แล้วฉวยโอกาสเผ่นหนี ตร.เต้นระบุแค่ไม่ถึง 2 เดือน จอมตุ๋นรายนี้ก่อเหตุจนมีเจ้าทุกข์แม่ค้าร้านอาหารตามสั่งเกือบ 100 คนเข้าไปแล้ว รวมทรัพย์สินที่ถูกฉกไปร่วม 2-3 ล้าน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ก.ย. ร.ต.ต.ชำนาญ ก่อเกิด ร้อยเวรสภ.ต.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ได้รับแจ้งจากน.ส.วรัชยา ศรีราชบัวผัน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/18 ถนนสุรศักดิ์ 3 ต.ศรีราชา อ.ศรีราชาว่า ขณะที่กำลังช่วยน้าสาวขายอาหารตามสั่งอยู่ที่ร้านครัวข้าวหอม ตั้งอยู่ข้างวัดใหม่เนินพะยอม หมู่ 1 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา อยู่นั้น ได้มีชายหนุ่มอายุประมาณ 40 ปี รูปร่างท้วม สูงประมาณ 165 ซ.ม. แต่งตัวภูมิฐาน ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีขาวรุ่นเก่า ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้ามาที่ในร้าน แจ้งว่าทางโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ต้องการสั่งทำอาหารเป็นหม้อจำนวนหลายอย่างเพื่อไปเลี้ยงคนงานในบริษัทในช่วงเย็น และให้ตนเองรีบขึ้นรถไปด้วยกัน เพื่อไปช่วยกันขนหม้อขนาดใหญ่ที่ในโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์มาใส่อาหารที่สั่งทำ โดยชายคนดังกล่าวอ้างว่าต้องรีบไป เพราะว่าจะต้องรีบกลับไปทำงานอีก

น.ส.วรัชยากล่าวว่า ตนเองก็ไม่ได้เฉลียวใจ หลวมตัวขึ้นรถเก๋งคันดังกล่าวไปด้วย
 
เมื่อถึงบริเวณหน้าโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ชายดังกล่าวบอกให้ตนเองถอดสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท นาฬิกายี่ห้อเกรซฝังเพชรในตัวเรือน 1 เรือน และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโมโตโรล่า 1 เครื่องออก ให้ฝากทรัพย์สินเหล่านั้นไว้ที่ชายคนดังกล่าว อ้างว่าทางโรงกลั่นห้ามนำเครื่องประดับและโทรศัพท์เข้าไปภายในโรงกลั่น เพราะจะเป็นสื่อทำให้เครื่องยนต์เสียหาย ตนเองหลงเชื่อจึงถอดทรัพย์สินออกฝากไว้ จากนั้นชายคนดังกล่าวบอกให้ตนลงจากรถ เดินเข้าด้านหลังโรงกลั่นเพื่อไปหาเจ้าหน้าที่ข้างในเพื่อขนหม้อไปใส่อาหารที่สั่งไว้ ส่วนตัวเขาจะขับรถเข้าทางด้านหน้าโรงกลั่นเพื่อไปรอรับ

เมื่อตนเองเดินไปถามหาทางเข้าด้านหลังปรากฏว่าไม่มี พอเดินกลับมาที่เดิมรออยู่ก็ไม่พบชายคนดังกล่าว

จึงรู้ว่าถูกต้มตุ๋นเสียสุก จึงได้เดินทางมาแจ้งความดังกล่าว ทั้งนี้ ชายคนดังกล่าวแต่งตัวดีภูมิฐานมาก คำพูดน่าเชื่อถือ จนตนเองไม่ได้จดจำหมายเลขทะเบียนรถที่นั่งมาด้วย ส่วนทรัพย์สินทั้งหมดที่คนร้ายรายนี้ได้ไป มีมูลค่าเกือบ 2 แสนบาททีเดียว

ได้พาผู้เสียหายไปค้นหาภาพรูปพรรณของคนร้ายจากในเครื่องคอมพิวเตอร์ศูนย์ข้อมูลอาชญากร และทำการสเกตช์ภาพคนร้าย ได้ภาพใบหน้าคนร้ายที่ถูกต้องตามคำให้การทุกประการ ลักษณะหน้าท้วมอิ่มเอิบ อายุประมาณ 40 ปี

ร.ต.อ.กฤตพงศ์ กล่าวว่า คนร้ายรายนี้ก่อเหตุในพื้นที่แหลมฉบังบ่อยครั้งมาก

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปแจ้งเบาะแสตามร้านอาหารตามสั่งทั่วไปแล้วให้ระมัดระวังคนร้ายรายนี้ เมื่อพบเห็นพฤติกรรมน่าสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที พฤติกรรมจะไปหลอกเจ้าของร้านอาหารตามสั่งหรือร้านรับทำอาหารเป็นหม้อ โดยที่จะเลือกเจ้าของร้านหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องภายในร้านที่เป็นหญิง และมีเครื่องประดับประเภททองรูปพรรณและโทรศัพท์มือถือที่มีราคาติดตัวอยู่ วิธีการหลอกลวงต้มตุ๋นผู้เสียหายก็แนวเดียวกัน คือให้ติดตามมาเอาหม้อไปใส่อาหารที่สั่งไว้ แต่เปลี่ยนบริษัทและโรงงานไปเรื่อยๆ เพื่อให้ผู้เสียหายคล้อยตามและหลงเชื่อติดตามไป จากนั้นจะหลอกให้ถอดทรัพย์สินมีค่าฝากไว้ อ้างว่าเป็นสื่อที่จะทำให้เครื่องจักรภายในโรงงานเสียหาย แล้วก็เชิดทรัพย์สินมีค่าของเหยื่อไว้แล้วก็หลบหนีหายไป โดยรายล่าสุดนี้ เป็นหลานเจ้าของร้าน มีทรัพย์สินมีค่าติดตัว จึงตกเป็นเป้าหมายต้มตุ๋นจนได้

ร.ต.อ.กฤตพงศ์ กล่าวว่า ในพื้นที่แหลมฉบัง มีผู้เสียหายที่แจ้งความร้องทุกข์แล้วประมาณ 50 ราย ในตัวเมืองศรีราชาอีก 40-50 ราย

ซึ่งพฤติกรรมการก่อเหตุเหมือนกันและรถเก๋งที่ใช้ก็คันเดียวกัน แต่ผู้เสียหายไม่สามารถจดจำหมายเลขทะเบียนได้ ตอนนี้ภาพของคนร้ายจากคำบอกเล่าของผู้เสียหายใกล้เคียงมากที่สุด ซึ่งก็จะนำไปติดและแจกจ่ายให้แก่ประชาชนหรือตามร้านขายอาหารตามสั่ง เพื่อเป็นเบาะแสติดตามตัวคนร้ายรายนี้ โดยในระยะเวลาแค่ไม่ถึง 2 เดือน มีผู้เสียหายเกือบ 100 รายแล้ว ได้ทรัพย์สินประเภททองรูปพรรณ นาฬิการาคาแพง โทรศัพท์มือถือมียี่ห้อ รวมมูลค่าน่าจะอยู่ประมาณ 2-3 ล้านบาทแล้ว ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้วางแผนเพื่อติดตามตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้