มือมืดโทรป่วนขู่ บึมดีเอสไอ เผ่นหนีอลหม่าน

เหตุคนร้ายโทรศัพท์ขู่วางระเบิดที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ


เมื่อเวลา 08.45 น.วันที่ 29 ส.ค. ร.ต.ท.ภิญญวรรธน์ ปราบเถื่อน รอง สวป. สน.เตาปูน รับแจ้งเหตุคนร้ายโทรศัพท์ขู่วางระเบิดที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เลขที่ 499 อาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น แขวงและเขตบางซื่อ กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ มี นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ศานุจารย์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 และหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ วัตถุระเบิด บก.ตปพ. เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม


ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 28 ชั้น เป็นที่ทำการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ในอาคารกว่า 1 พันคน ทราบข่าวการลอบวางระเบิด ต่างแตกตื่นวิ่งหนีออกจากอาคาร บางรายวิ่งลงมาทางบันไดหนีไฟ ส่วนเจ้าหน้าที่อีกกลุ่มขับรถออกเพื่อจะกลับบ้าน ทำให้การจราจรบริเวณถนนประชาชื่น หน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษติดขัดไปกว่า 1 ชั่วโมง


ต่อมาจากการตรวจสอบบริเวณลานจอดรถชั้น 9 บี พบซองเอกสารสีน้ำตาลขนาดเอ 4 ด้านหน้าเขียนคำว่าระเบิด

วางสอดอยู่ระหว่างล้อหลังรถเบนซ์ รุ่น 230 อี สีน้ำเงิน ทะเบียน งธ 1441 กรุงเทพมหานคร ของ พ.ต.อ.เบญพล จันทร์สุวรรณ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 สำนักคดีอาญาพิเศษ ซึ่งจอดรถทิ้งไว้ 2 วันแล้ว เนื่องจากไปงานสัมมนาจัดแผนยุทธศาสตร์ ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังนำยางรถยนต์มาครอบซองเอกสารดังกล่าว พร้อมใช้เครื่องตรวจวัตถุระเบิดเอ็กซเรย์ พบถ่านไฟฉาย 2 ก้อน พันด้วยสก็อตเทปสีดำมีสายไฟฟ้าเชื่อมต่อกับนาฬิกาปลุก แต่ไม่มีเชื้อปะทุระเบิด หลังตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วจึงแน่ใจว่าเป็นระเบิดลวง จากนั้นจึงเก็บซองเอกสารดังกล่าวไปตรวจสอบ


สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลา 08.48 น. มีชายลึกลับโทรศัพท์มายังสำนักงานเลขานุการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ


แจ้งว่าวางระเบิดไว้ที่ลานจอดรถชั้น 9 บี ให้ไปจัดการด้วย เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบและพบซองกระดาษดังกล่าว ขณะที่ลานจอดรถไม่มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ใช้เป็นสถานที่เก็บรถราชการ ขณะเกิดเหตุ รปภ.ประจำลานจอดรถเดินไปตรวจความเรียบร้อยที่อื่น จึงเปิดโอกาสให้คนร้ายเข้ามาก่อกวน


นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า

สั่งการให้ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหม์เสน่ห์ ผอ.ส่วนสืบสวนสะกดรอย ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษดีเอสไอ เข้าคลี่คลายคดีหาตัวคนร้าย ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากปัญหาภายในหรือภายนอก เพราะคดีที่ดีเอสไอรับไว้ดำเนินการมีผลกระทบต่อบุคคลสำคัญ จึงต้องนำหลักฐานและเหตุการณ์ทั้งหมดมาวิเคราะห์ ที่ผ่านมามีบุคคลลึกลับมาข่มขู่ดีเอสไอเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับปัญหาภายในยอมรับว่ามีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งในดีเอสไอค่อนข้างมาก ทั้งในด้านระบบการทำงานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จนมีผู้สูญเสียผลประโยชน์และโอกาส แต่ยืนยันว่าก่อนมีการประกาศใช้ระเบียบใหม่ ได้สอบถามไปยังสำนักคดีทุกสำนักก็ไม่มีการคัดค้านหรือโต้แย้ง

ส่วนประเด็นการเรียกรถราชการคืน จนเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา

รถนายพรชัย อัศววัฒนาพร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ฝ่ายบริหาร ถูกราดน้ำมันเบรกนั้น ไม่น่ามีน้ำหนักพอ เพราะผู้บริหารได้คืนรถให้เจ้าหน้าที่ใช้งานแล้ว ประเด็นการทำคดีของดีเอสไอ ยังไม่ได้ตัดทิ้งเช่นกัน คนร้ายต้องการให้เป็นข่าว เพราะทุกครั้งที่ก่อเหตุจะมีการแจ้งไปยังสื่อ ส่วนการรักษาความปลอดภัยจะเร่งติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบพื้นที่ภายในเพิ่มขึ้น


ด้านนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า

สาเหตุของการข่มขู่ กำลังหาแนวทางการสืบสวนอยู่ แต่จะไม่มีการตัดประเด็นใดออกไป ต้องร่วมมือกับตำรวจเพื่อทำคดีร่วมกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาการปรับย้ายและสับเปลี่ยนตำแหน่งภายในกรมดีเอสไอ เป็นชนวนเหตุครั้งนี้หรือไม่ นายจรัญกล่าวว่า ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ต้องทำความเข้าใจกับอดีตข้าราชการตำรวจที่ย้ายมาสังกัดดีเอสไอให้มากขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบกับหน่วยอื่นถือเป็นเรื่องเล็กมาก ทั้งนี้ จะหารือกับนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม และนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อทำความเข้าใจ จะได้ ไม่เกิดปัญหาความขัดแย้งภายในข้าราชการทุกคน


พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 กล่าวว่า

นำวัตถุสิ่งจำลองคล้ายระเบิดไปตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานที่ สน.เตาปูนแล้ว คดีนี้เป็นคดีเล็ก แค่ขู่วางระเบิด ตำรวจจะเป็นผู้รับผิดชอบสอบสวนคดีดังกล่าว เพราะดีเอสไอ จะต้องทำเฉพาะคดีใหญ่


ต่อมาในช่วงเย็น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ซองเอกสารที่ตำรวจเก็บไปมีเอกสารอยู่ 7 แผ่น

ซึ่งเป็นคำพิพากษาระหว่างพันตรีหญิงสินเสริม เลขะวนิช และนางสุภา วงศ์เสนา เป็นโจทก์ฟ้องแพ่งนางทีปสุรางค์ ภักดีธนากุล ภรรยาของนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม และนางจินดา สุนทรพันธ์ มารดาของนางทีปสุรางค์ เกี่ยวกับเรื่องที่ดินเพิกถอนนิติกรรม เรียกทรัพย์สินคืน ที่ศาลจังหวัดสงขลา เมื่อปี 40 และเรื่องร้องเรียนภรรยานายพรชัย อัศววัฒนาพร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ฝ่ายบริหาร ไปเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกดีเอสไอแจ้งดำเนินคดีไว้แล้ว ผู้สื่อข่าวจึงพยายามโทรศัพท์สอบถามนายจรัญ ภักดีธนากุล และนายพรชัย อัศววัฒนาพร เกี่ยวกับเอกสารดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อทั้ง 2 คนได้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์