‘ผู้ใหญ่บ้าน’ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ แต่งชุดลายพรางขอค้นบ้าน จ่อยิงเรียงหัว-สาหัสอีก3คน
โหดอำมหิต บุกฆ่าล้างครัวผู้ใหญ่บ้าน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมลูกเมียกับครอบครัวน้องเมียตายหมู่ 8 ศพ บาดเจ็บ 3 คน แก๊งทมิฬ 6-7 คน แต่งชุดลายพรางอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายในบ้าน คุมตัวทุกคนไม่ให้ออกไปไหน รอจนผู้ใหญ่บ้านกลับ มาถึงตอนค่ำ จับล็อกกุญแจมือเค้นถามเจรจาอะไรบางอย่าง ก่อนเรียงคิวจ่อยิงหัวสุดเลือดเย็นไม่เว้นแม้ แต่เด็กหญิง 5 คน ตกเป็นเหยื่อกระสุนด้วย สุดสลด ผญบ.กับเมียและลูกสาว 3 คน ตายเรียบ แฉปมมรณะทั้งเรื่องการทำงานทวงคืนที่ดิน นสล. จนมีคดีฟ้องร้องชาวบ้านกับนักการเมืองท้องถิ่น กับอีกประเด็นที่ไปสนับสนุนการก่อสร้างโรงโม่หินจนถูกชาวบ้านต่อต้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่เร่งคลี่คลายคดีด้วยตัวเอง มั่นใจนักฆ่า มืออาชีพวางแผนมาอย่างดี สำนักข่าวต่างประเทศตีข่าวสะเทือนขวัญไปทั่วโลก
แก๊งนักฆ่าทมิฬก่อคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ บุกจ่อยิงเรียงหัวฆ่ายกครัว ผญบ.พร้อมลูกเมียและครอบครัวน้องเมียรวม 8 ศพ เปิดเผยเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 11 ก.ค. ร.ต.อ.สุวิทย์ แก้วปรีชา รอง สว. (สอบสวน) สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย ภายในบ้านเลขที่ 14/3 เป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จึงรายงานให้ พล.ต.ต.วรวิทย์ ปานปรุง ผบก.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.สส.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.อ.กฤษณัฐ วงษ์กล้าหาญ ผกก.สภ.อ่าวลึก นำกำลังฝ่ายสืบสวน พร้อมแพทย์เวร รพ.อ่าวลึก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน หน่วยกู้ภัยเทศบาลอ่าวลึกใต้ และกู้ภัยกองหิน ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวต่อเติมออกมาเป็นหลังใหญ่นับสิบห้อง ปลูกอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด ชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันมามุงดูจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห้ามเข้าไปเด็ดขาด ตรวจสอบภายในบ้านพบภาพสยดสยองของผู้เสียชีวิต 5 ศพ นอนจมกองเลือดอยู่บนเตียงและบนพื้นภายในห้องนอน 3 ห้อง ประกอบด้วย นางดวงพร สังหลัง อายุ 30 ปี ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน ด.ญ.เพชรดาว สังหลัง อายุ 11 ขวบ ลูกสาวของนางดวงพร น.ส.แอนนา บุตรเติบ อายุ 26 ปี น้องสาวของนางดวงพร นายสุริยา พัฒแก้ว อายุ 38 ปีสามีของ น.ส.แอนนา และนายสุทธิพงศ์ พริกดำ อายุ 28 ปี น้องเขยของนางดวงพร ถูกจ่อยิงด้วยปืน .38 ที่ศีรษะทั้ง 5 ศพ
นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 6 คนทั้งหมดถูกจ่อยิงที่ศีรษะเช่นกัน ถูกช่วยเหลือนำส่ง รพ.อ่าวลึก แพทย์ปฐมพยาบาลก่อนนำส่งต่อ รพ.กระบี่ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมาอีก 3 ศพ ประกอบด้วย นายวรยุทธ สังหลัง อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง ด.ญ.กิ่งเทียน สังหลัง อายุ 8 ขวบ และ ด.ญ.แพรไหมทอง สังหลัง อายุ 13 ปี ทั้งคู่เป็นลูกสาวของนายวรยุทธกับนางดวงพร ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คนคือ ด.ญ.รัญชิดา พริกดำ อายุ 13 ปี ด.ญ.รยิดาน์ พริกดำ อายุ 5 ขวบ ลูกสาวของนายสุทธิพงศ์ ทั้งคู่อาการสาหัส แพทย์เร่งช่วยชีวิตเป็นการด่วน และนางอัญชลี บุตรเติบ อายุ 30 ปี น้องสาวของนางดวงพรและเป็นภรรยาของนายสุทธิพงศ์ ถูกยิงกระสุนถากขมับขวา แกล้งทำเป็นเสียชีวิตจึงรอดมาได้ อาการพ้นขีดอันตราย ตำรวจเตรียมเข้าไปสอบปากคำถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 4 โมงเย็น วันที่ 10 ก.ค. ได้มีกลุ่มคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ประมาณ 6-7 คน แต่งกายด้วยชุดลายพรางคล้ายทหาร พร้อมอาวุธครบมือ ขับรถยนต์ 2 คัน เป็นรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำ ทะเบียนจังหวัดสงขลา และรถกระบะไม่ทราบสี ยี่ห้อ และทะเบียน เข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่มาขอตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย ขณะนั้น นางดวงพร พร้อมลูกๆ 3 คน และครอบครัวน้องสาวอยู่ในบ้าน ส่วนนายวรยุทธ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้เป็นสามียังไม่กลับจากทำงาน กลุ่มคนร้ายควบคุมตัวทุกคนให้อยู่ในบ้านไม่ให้ออกไปไหน
กระทั่งเวลาประมาณ 2 ทุ่ม นายวรยุทธขับรถกลับมาถึงบ้าน พอเข้าไปในบ้านถูกกลุ่มคนร้ายใช้ปืนจี้บังคับจับล็อกตัวใส่กุญแจมือและใช้ผ้าคลุมใบหน้า คาดว่ามีการพูดคุยเจรจาอะไรกันบางอย่างแต่ตกลงกันไม่ได้ จนเวลาประมาณเที่ยงคืน คนร้ายจึงจ่อยิงศีรษะเรียงคิวทุกคนที่อยู่ในบ้านทั้งหมด 11 คน ไม่เว้นแม้แต่เด็กผู้หญิง เพื่อฆ่าปิดปาก หลังก่อเหตุพากันหลบหนีไปโดยไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินภายในบ้าน แต่ชิงเอารถเก๋งโตโยต้ายาริส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กค 533 กระบี่ ของนายวรยุทธไปด้วย
ต่อมาช่วงสายวันที่ 11 ก.ค. ญาตินำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 8 ศพ ไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่บ้านมารดาของนางดวงพร เลขที่ 70 หมู่ 1 ต.บ้านกลาง มีชาวบ้านมาร่วมพิธีจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ของกลุ่มคนร้ายที่ลงมือสังหารได้แม้กระทั่งเด็กหญิงตัวน้อยที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ขณะที่เฟซบุ๊กของนางดวงพร ที่ลงภาพถ่ายครอบครัวกับสามีและลูกๆทั้ง 3 คน มีเพื่อนๆและคนรู้จักเข้ามาเขียนข้อความแสดงความเสียใจจำนวนมาก
ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ. 8 พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.กระบี่ ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ และชุดสืบสวน สภ.อ่าวลึก เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง พบปืน .38 ตกอยู่ 1 กระบอก เป็นปืนของนายวรยุทธ ผู้ใหญ่บ้าน ภายในลูกโม่พบปลอกกระสุนที่ยิงไปแล้ว 3 ปลอก และปลอกกระสุนปืนตกกระจายตามห้องต่างๆ ที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอีก 8 ปลอก จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน คาดว่าคนร้ายเป็นแก๊งนักฆ่ามืออาชีพเตรียมวางแผนปฏิบัติการโหดมาเป็นอย่างดี ใช้ปืนของนายวรยุทธจ่อยิงศีรษะเหยื่อทั้งหมดโดยไม่ได้ใช้ปืนของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นหลักฐานมัดตัว นอกจากนี้ ยังพบว่าคนร้ายได้ถอดเอาเซิร์ฟเวอร์ของกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในบริเวณบ้านออกไปทั้งกล่อง เพื่อไม่ให้ตำรวจเปิดดูภาพวงจรปิดได้
นายจเร บุตรเติบ อายุ 54 ปี พ่อตาของนายวรยุทธเผยว่า ชนวนฆ่ายกครัวเชื่อว่ามาจากความขัดแย้งเรื่องการทำงานของลูกเขย โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ใหญ่บ้านดำเนินการทวงคืนที่ดิน นสล. หรือหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง บริเวณทุ่งหนองเขียด ที่ถูกชาวบ้านหลายครอบครัวบุกรุกพื้นที่กว่า 100 ไร่ เพื่อจะนำกลับมาเป็นของรัฐ และได้ฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ของรัฐรวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นหลายคนในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ยอมร่วมมือนำที่ดินผืนดังกล่าวกลับคืนมา กับอีกประเด็นเรื่องที่ผู้ใหญ่บ้านให้การสนับสนุนโรงโม่หินแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 2 ต.บ้านกลาง แต่ถูกชาวบ้านคัดค้านจนมีการฟ้องร้องกันอยู่ในขณะนี้ ส่วนประเด็นอื่นก็เป็นความขัดแย้งเรื่องการทำงานเพราะผู้ใหญ่บ้านเป็นคนพูดจาโผงผางตรงไปตรงมา ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งคลี่คลายคดีติดตามจับกุมคนร้ายและผู้บงการให้ได้โดยเร็ว
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวก่อนเดินทางไป จ.กระบี่ ว่า ขณะนี้ยังฟันธงไม่ได้ว่าปมสังหารมาจากสาเหตุอะไร แต่ลักษณะก่อเหตุแบบนี้ต้องเตรียมการมาก่อนและต้องมีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง เท่าที่ทราบมีปัญหาเรื่องการฟ้องร้องเรื่องพื้นที่ ส่วนกรณีที่กลุ่มคนร้ายสวมชุดลายพรางก็เป็นการวางแผนมาแล้ว คดีนี้มีทางเดินทุกประเด็นสำคัญหมด ตำรวจอยากจับกุมคนร้ายให้ได้เร็วที่สุดเพราะเป็นเหตุสะเทือนขวัญเป็นที่สนใจของประชาชน ยอมรับว่ามีความกังวลเพราะเป็นคดีที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อีกทั้งยังไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า คาดว่ากลุ่มคนร้ายมีมากกว่า 5 คน จากการซักถามพยานทราบว่าแต่งกายคล้ายทหารไม่ทราบฝ่าย ส่วนจะเป็นการกล่าวอ้างหรือไม่จะต้องมีการพิสูจน์ทราบต่อไป การรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดำเนินการในทุกมิติ ผบ.ตร.สั่งการให้เร่งสืบสวนจับกุมกลุ่มคนร้ายให้ได้เร็วที่สุดเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ สำหรับมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุ ผบ.ตร.สั่งการให้ชุดสืบสวนกองปราบปรามลงพื้นที่คลี่คลายคดี โดย พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. จัดชุดสืบสวนฝีมือดี นำโดย พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา พ.ต.ท.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ พ.ต.ท.ชัยฎิภูมิ อำนวยชัย รอง ผกก.5 บก.ป.ลงพื้นที่ทันที จากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายเป็นมืออาชีพและมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี เนื่องจากใช้เวลาในการก่อเหตุนานมากเพื่อรอจนกว่าผู้ใหญ่บ้านจะเดินทางกลับมาถึงบ้าน อีกทั้งไม่ทิ้งหลักฐาน หรือเบาะแสที่สาวไปถึงตัวได้เลย โดยเฉพาะการเก็บฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดเพื่อไม่ให้ตำรวจติดตามได้
ส่วนปมสังหารโหดยกครัวครั้งนี้เบื้องต้นชุดสืบสวนตั้งไว้ 4 ประเด็น ประเด็นแรก ปมขัดแย้งกับนักการเมืองท้องถิ่นระดับนายก อบต.คนหนึ่ง ประเด็นที่สอง เรื่องการร้องเรียนการสร้างโรงโม่หินที่มีกรณีพิพาทกันและทวีความรุนแรงมานานกว่า 1 เดือน ประเด็นที่สาม ปัญหาความขัดแย้งเรื่องการบุกรุกที่ดินที่นายวรยุทธ ผู้ใหญ่บ้านเป็นโจทก์ยื่นฟ้องไล่ที่ชาวบ้าน 8 ราย ขณะนี้เรื่องยังอยู่ในชั้นศาล และประเด็นที่สี่คือความขัดแย้งเรื่องธุรกิจที่ไม่เปิดเผยบางอย่าง นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลว่า เมื่อไม่นานมานี้นายวรยุทธได้ร่วมกับผู้นำอีกหลายหมู่บ้านยกขบวนลูกบ้านไปขับไล่ครูคนหนึ่งซึ่งมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมให้ออกนอกพื้นที่ด้วย
ต่อมาเวลา 17.30 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมคณะเดินทางไปถึง จ.กระบี่ เข้าไปตรวจภายในบ้านที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะห้องต่างๆที่คนร้ายลงมือสังหารเหยื่อ พร้อมตรวจสอบบริเวณรอบบ้านที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมทั้งตรวจรถยนต์ฮอนด้าซีอาร์วี สีขาว ทะเบียน กง 3665 สิงห์บุรี เป็นรถของนายวรยุทธอีกคันที่ใช้เป็นประจำจอดอยู่ในบริเวณบ้าน จากนั้น ผบ.ตร.เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่ามีคนร้ายหลายคนเข้ามาก่อเหตุ ตอนนี้ยังไม่สามารถฟันธงปมสังหารได้ แต่มั่นใจว่าคนร้ายวางแผนมาอย่างดี ตั้งใจจะมาทำร้ายคนในบ้าน ขอเวลาให้ตำรวจสืบสวนหาพยานหลักฐานก่อนมั่นใจว่าจะสามารถคลี่คลายคดีได้ จากนั้น ผบ.ตร.เดินทางไปที่ สภ.อ่าวลึก เรียกชุดสืบสวนเข้าร่วมประชุมเพื่อวางแนวทางคลี่คลายคดี ทั้งนี้ มีรายงานว่า ตำรวจได้สเกตช์ภาพหนึ่งในกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยต่อสื่อมวลชน
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงเหตุการณ์ กลุ่มคนร้ายสวมชุดลายพรางคล้ายทหารบุกฆ่ายกครัว 8 ศพที่ จ.กระบี่ ว่ายังไม่ได้รับรายงาน แต่ตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินการและรายงานขึ้นมา เมื่อเหตุเกิดเจ้าหน้าที่จะสอบตั้งแต่เกิดเรื่อง สื่อต้องดูว่าเขาฆ่ากันเรื่องอะไร ทำไมวันนี้ฆ่ากันง่าย ส่วนที่มีการอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ก็ต้องสอบหมด ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่จริงก็ต้องจับมาติดคุก มันจะยากตรงไหน ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า คงต้องให้ตำรวจสืบสวนก่อน ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นใครที่แต่งตัวคล้ายทหารแล้วไปมีเรื่องอะไรกันหรือไม่ หากได้ความชัดเจนแล้วจะบอก
สำนักข่าวต่างประเทศทั้งเอเอฟพี รอยเตอร์ส และบีบีซี รายงานข่าวครึกโครมไปทั่วโลกว่า เกิดคดีฆ่าหมู่ยกครัวสุดสยอง 8 ศพ ในจำนวนนี้มีเด็ก 3 ศพ ที่ จ.กระบี่ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังทางภาคใต้ของไทยเมื่อ 10 ก.ค. โดยคนร้ายในชุดพราง 6-7 คน บุกเข้าไปจับตัวประกัน 10 คน เป็นสมาชิกครอบครัวของผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง มัดมือและใช้ผ้าผูกตาเหยื่อนานหลายชั่วโมง รอให้ผู้ใหญ่บ้านกลับเข้าบ้าน จากนั้นจ่อยิงเหยื่อเสียชีวิตคาที่ 5 ศพ ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 3 ศพ ก่อนขึ้นรถยนต์หลบหนีไป ตำรวจเชื่อว่าสาเหตุมาจากความขัดแย้งส่วนตัว สื่อต่างประเทศยังรายงานว่า คดีฆ่าหมู่ยกครัวหลายศพเช่นนี้ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักในประเทศไทย แม้จะมีอัตราผู้ครอบครองอาวุธปืนและอัตราผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนสูง โดยข้อมูลจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันในสหรัฐฯ ในปี 2559 ระบุว่า ประเทศไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับอาวุธปืนสูงที่สุดใน 10 ประเทศเอเชีย สูงกว่าฟิลิปปินส์ที่ติดอันดับ 2 ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
