ศาลสั่งประหาร!! คดีสุดสะเทือนขวัญ ผัวสว่านเจาะหัว-ร่างเมียพรุนสยอง สารภาพลดจำคุก!

ศาลสั่งประหาร!! คดีสุดสะเทือนขวัญ ผัวสว่านเจาะหัว-ร่างเมียพรุนสยอง สารภาพลดจำคุก!

วันนี้ 10 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีตำรวจ สภ.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้กับกุมนายวินัย เชิดกาย อายุ 40 ปี หลังก่อเหตุฆ่า น.ส.เบญจมาศ ชัยชุมพล อายุ 22 ปี ด้วยการใช้สว่านแบบไร้สายใส่ถ่าน ทุบและเจาะศีรษะ ใบหน้า แขน และตามลำตัวหลายแผล จนเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ภายในบ้าน ม.4 บ.เสม็ด ต.ชุมแสง อ.กระสัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา


หลังเจ้าหน้าที่ตามจับกุมสามีผู้ก่อเหตุมาได้ระหว่างการหลบหนี ในสภาพเสื้อเปื้อนเลือด พูดจาวกวน และตำรวจตรวจปัสสาวะ พบว่ามีฉี่ม่วง โดยผู้ก่อเหตุได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และมีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในเวลาต่อมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ โดยองค์คณะผู้พิพากษาได้ออกนั่งพิจารณาและอ่านคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๑๐๔๒/๒๕๖๐ ที่พนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นโจทก์ฟ้อง นายวินัยหรือแสบ เชิดกาย เป็นจำเลยใน ข้อหาฆ่าภริยาของตน โดยคดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๐ เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้สว่านไร้สายพร้อมหัวสว่านปลายแหลม กรรไกรเป็นอาวุธทุบ ตี และแทงที่บริเวณศีรษะ คอและร่างกายของภริยาตนอย่างแรงหลายครั้ง เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย

เสพเมทแอมเฟตามีนและมีเครื่องกระสุนปืน ๑ นัด ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ภายหลังยื่นฟ้อง ศาลได้ดำเนินกระบวนพิจารณาคุ้มครองสิทธิ์ให้แก่คู่ความ แต่งตั้งทนายความให้จำเลย โดยจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลได้สืบพยานประกอบคำรับสารภาพ โดยมีมารดาของผู้ตายและพนักงานสอบสวนเข้าเบิกความเพื่อพิสูจน์ว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว เชื่อว่า จำเลยได้กระทำความผิด โดยใช้สว่านไร้สายทุบตี แทง พร้อมใช้ดอกสว่านเจาะเข้าไปที่บริเวณศีรษะ และใบหน้าของผู้ตาย และใช้แทงทำร้ายโดยมีเจตนาฆ่า โดยสาเหตุที่จำเลยกระทำนั้น อ้างว่าเกิดภาพหลอนจากการเสพเมทแอมเฟตามีนแล้วไปดื่มเบียร์ เข้าใจผิดว่าภริยาของตนจ้างให้บุคคลอื่นมาทำร้าย ศาลได้พิจารณาว่าเหตุตามที่จำเลยอ้างนั้นไม่อาจรับฟังได้

เพราะจำเลยเป็นผู้เสพยาเสพติดเองและผู้ตายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เมื่อจำเลยกระทำต่อภริยา แม้จะมิได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ถือว่าเป็นบุคคลในครอบครัว จึงเป็นความผิดฐานกระทำความรุนแรงในครอบครัวด้วย

นอกจากนี้ในการกำหนดโทษ ศาลพิจารณาว่า การกระทำของจำเลยที่กระทำต่อภริยาของตนโดยไม่คำนึงถึงสิทธิและหน้าที่ระหว่างสามีภริยาที่ควรให้การอุปการะเลี้ยงดู ให้ความช่วยเหลือ ประคับประคอง ร่วมทุกข์ร่วมสุขระหว่างกัน อีกทั้งการกระทำของจำเลยเป็นเรื่องโหดร้ายรุนแรง กระทบต่อสิทธิสตรีและสิทธิมนุษยชน

เห็นสมควรกำหนดโทษจำเลยในสถานหนักเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง โดยข้อหาฆ่าผู้อื่น ให้ "ประหารชีวิต" แต่จำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้ เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้ว คงจำคุกจำเลยตลอดชีวิต และปรับ ๕๐๐ บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ (๓)

คดีนี้นับแต่จำเลยถูกจับกุม ศาลสามารถพิจารณาคดีแล้วเสร็จได้ภายใน ๖ เดือน นับแต่วันที่จำเลยถูกขัง ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของสำนักงานศาลยุติธรรมที่จะพิจารณาคดีที่จำเลยถูกขังให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ถูกต้องและเป็นธรรม

ที่มา : ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์