เตือนทาอายแชโดว์-เสี่ยงตาบอด

แนวโน้มความเสี่ยงด้านจุลชีววิทยาในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางรอบดวงตา


เมื่อวันที่ 28 ส.ค. น.ส.สิริมา สายรวมญาติ กองเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นำเสนอผลการวิจัยในการประชุมวิชาการกรมวิชาการแพทย์ ครั้งที่ 15 เรื่อง แนวโน้มความเสี่ยงด้านจุลชีววิทยาในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางรอบดวงตา จากผู้ผลิตทั้งในประเทศ ต่างประเทศ โดยเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางรอบดวงตา ตั้งแต่เดือนก.ค.2547-ก.พ.2549 ประกอบด้วย อายแชโดว์ อายไลเนอร์ ดินสอเขียนขอบตา อายครีม อายเจล มาสคาร่า และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรอบดวงตา รวมจำนวน 265 ตัวอย่าง พบผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน 13 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 4.9 โดยพบเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคได้ เช่น Clostridium spp., Pseudomonas seruginosa และ Streptococ-cus casseliflavus มาถึง 10 ตัวอย่าง

น.ส.สิริมา กล่าวต่อว่า จากการเก็บตัวอย่างอายแชโดว์

ซึ่งเป็นเครื่องสำอางประเภท oil-based มีส่วนผสมเป็นน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งมีปริมาณน้ำอิสระอยู่ จึงเป็นสภาวะที่เชื้อแบคทีเรียไม่สามารถที่เจริญเติบโตได้ แต่ขณะเดียวกัน เชื้อราและสปอร์ของเชื้อแบคทีเรียสามารถทนต่อสภาวะนี้ได้ และเมื่อผู้บริโภคนำผลิตภัณฑ์ที่มีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์มาใช้ทารอบดวงตา ก็ทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้ เพราะเชื้อรา แบคทีเรีย สามารถเจริญเติบโตอยู่ในสภาพผิวหนังของผู้ใช้ได้ต่อ

หากทาอายแชโดว์ หรือใช้อายไลเนอร์ ที่มีการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม Clostridium ในปริมาณมากๆ

"และใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน จะเป็นอันตรายต่อดวงตา ทำให้ตาอักเสบจากการติดเชื้อ และอาจทำให้ตาบอดได้ในที่สุด รวมถึงอุปกรณ์ในการตกแต่งรอบดวงตา ทั้ง แปรงปัดขนตา พู่กัน ก็ควรจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่บอบบาง เป็นเนื้อเยื่ออ่อน มีความเสี่ยงที่จะเกิดบาดแผลรอบตาได้ง่าย และหากมีบาดแผลแล้วไปใช้เครื่องสำอางที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนก็ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ดวงตาได้ง่ายยิ่งขึ้น" น.ส.สิริมากล่าว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์