คืบหน้าคดี อุ้มฆ่าสาวหล่อ! สอบคำให้การ”อดีตผกก.บ้านโป่ง-พวก”

คืบหน้าคดี อุ้มฆ่าสาวหล่อ! สอบคำให้การ”อดีตผกก.บ้านโป่ง-พวก”

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ถนนทุ่งมังกร เขตตลิ่งชัน ศาลนัดพร้อมสอบคำให้การคดีดำที่อ.1375/60 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายนิวัฒน์ หรือโจ๊ก สวยทอง นายภูมิทัศน์ พิบูลณ์สวัสดิ์ น.ส.กรรณิกา หรือดาว กรุมรัมย์ พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ อดีตผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และนายสนอง สมสิทธิ์ อดีตกำนัน ต.ลาดบัวขาว เป็นจำเลยที่1-5 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยปกปิดความผิดของตนและไตร่ตรองไว้ก่อน ข่มขืนใจผู้อื่น หน่วงเหนี่ยวกักขังและซ่อนเร้นทำลายศพ

ในคดีที่น.ส.สุภัคสรณ์ หรือหญิง พลไธสง อายุ28 ปี ลักษณะคล้ายผู้ชาย ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มไปจากห้องพักย่านฝั่งธนบุรี ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจตามแกะรอยและออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน นำโดยพ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี(ขณะเกิดเหตุ) และตามจับกุมน.ส.กรรณิกา หรือดาว กรุมรัมย์ นักร้องสาว รวมถึงนิวัฒน์ สวยทอง และนายภูมิทัศน์ พิบูรณ์สวัสดิ์ ทีมอุ้ม จากนั้นตามไปขุดพบศพ น.ส.สุภัคสรณ์ ที่รีสอร์ตร้างริมแม่น้ำแควกลางเมืองกาญจนบุรี สภาพถูกฆ่าฝังดินและโบกปูนทับอีกชั้น โดยคาดว่ามีปมขัดแย้งเรื่องกู้ยืมเงินจำนวน4ล้านบาทและเรื่องชู้สาว โดยนำศพไปซ่อนฝังดินที่จ.กาญจนบุรี

โดยในวันนี้นายบุญชู พลไธสง นางสมพิศ ตรัยจันทร์แดง พ่อและแม่ของนางสาวสุภัคสรณ์ ผู้เสียชีวิต เดินทางมาศาลเพื่อรับฟังพิจารณาคดี หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ศาลได้เลื่อนนัดมาเป็นวันนี้เนื่องจากทนายฝั่งจำเลยมาไม่ครบ

โดยนางสมพิศ มารดาผู้เสียชีวิต กล่าวก่อนเข้าฟังการพิจารณาว่า วันนี้ได้ร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์และยื่นคำร้องขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จากความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งจำเลยไม่รับสารภาพ กล่าวคือผู้เสียชีวิตเป็นกำลังหลักในบ้านเคยส่งเสียเงินให้บ้านเดือนละหลายหมื่นบาท เมื่อถูกฆ่าตายก็ขาดรายได้ ปัจจุบันตนเจ็บป่วยไม่มีรายได้ ต้องหยิบยืมญาติๆ จนเดือดร้อนการเงิน จึงขอให้จำเลยชดใช้เงิน11.5ล้านบาทเป็นค่าสินไหมและค่าขาดไร้อุปการะแก่บิดามารดาด้วย ตอนนี้จำเลยทั้งหมดยังไม่ได้ประกันและตำรวจยังตามจับคนร้ายที่เหลือ ตนจึงขอให้จำเลยรับชดใช้ความเสียหายด้วย ส่วนโทษทางอาญาขอให้เป็นดุลยพินิจของศาล


นายบุญชู บิดาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อปลายปีที่แล้ว ยังไม่เคยได้รับการติดต่อจากกลุ่มผู้ต้องหา เพราะคู่กรณียังคงให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน อย่างไรก็ตามยังมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่าตำรวจจะสามารถจับตัวผู้ต้องหาร่วมที่เหลือได้ และพร้อมปรึกษากับทีมทนายความเพื่อยื่นเป็นโจทก์ร่วมในคดีนี้

ทั้งนี้ ก่อนเข้าห้องพิจารณาคดีนายบุญชู และนางสาวสมพิศ ได้จุดธูปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลตลิ่งชัน ช่วยบันดาลให้จับคนร้ายที่เหลือที่ยังหลบหนีให้ได้ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับบุตรสาว


ที่มา มติชน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์