ขนโคโมโซมมนุษย์! แก๊งอุ้มบุญกำเริบ!!

ขนโคโมโซมมนุษย์! แก๊งอุ้มบุญกำเริบ!!


ผงะ! ศุลกากรหนองคายตรวจสอบของกลางที่ยึดได้ "แก๊งอุ้มบุญ" พบไม่ใช่แค่อสุจิหรือตัวอ่อนเหมือนที่ผ่านมา แต่เป็น"โครโมโซม"มนุษย์ระบุเพศชาย-หญิงเรียบร้อย เร่งส่งตรวจสอบด่วนก่อนดำเนินคดีเพิ่ม จับตาเตรียมขยายผลฟัน 4 คลินิกใหญ่ในไทย หลังได้เค้ารวมหัวคลินิกลาว-เขมร รับงาน "อุ้มบุญ" พาคนข้ามฝั่งไปฝังตัวอ่อน-อสุจิ ก่อนรับตัวกลับมาอุ้มท้องรอคลอดในไทย

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 22 พฤษภาคม ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อม นายพิชิต ลีลาศ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ เจ้าหน้าที่ด่านอาหารและยาหนองคาย ได้เข้าตรวจสอบของกลางที่ตรวจยึดได้จากแก๊งอุ้มบุญที่เดินทางกลับจาก สปป.ลาว เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม โดยเฉพาะในกล่องโฟมที่มีการบรรจุหลอดรูปทรงกรวยความยาว 2 ซ.ม.ปิดผนึกด้านหน้า 46 แท่ง ด้านบนฝากรวยปิดผนึกแน่นหนา มีตัวอักษรระบุ yy/xy/xx และวันที่ไว้ ซึ่งจะมีการนำไปส่งตรวจพิสูจน์ที่ห้องปฏิบัติการว่าภายในหลอดมีการบรรจุสิ่งใด

ผงะ!แก๊งอุ้มบุญขน"โครโมโซม"

นายพิชิต กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าหลอดรูปทรงกรวยเหล่านี้จะเป็นโครโมโซมมนุษย์ ไม่ใช่อสุจิเหมือนอย่างที่เคยถูกจับได้ โดยดูจากรหัสที่เขียนได้ด้านบนฝาผนึก คล้ายกับรหัสที่ระบุโครโมโซมเพศหญิงเพศชาย ซึ่งตามปกติโครโมโซมมนุษย์จะมี 23 คู่ 46 แท่ง โดย 44 แท่ง เป็นโครโมโซมปกติ ส่วนอีก 2 แท่ง จะเป็นโครโมโซมระบุเพศชายหรือหญิง และจำนวนที่พบก็ตรงจำนวน 46 แท่ง ตามหลักทางการแพทย์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า จำเป็นต้องตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการ

หรืออีกนัยหนึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่า จะเป็นสารเคมีที่อาจจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการฝังตัวอ่อน หรืออุ้มบุญ ก็ได้เช่นกัน ประกอบกับการเก็บรักษาในกล่องโฟมรักษาอุณหภูมิในห้องเย็นด้วยการใส่น้ำแข็งแห้งจำนวนมาก คล้ายห้องเย็นปลอดเชื้อ จึงคาดว่าภายในหลอดเป็นสารหรือองค์ประกอบสำคัญในกระบวนการอุ้มบุญ โดยจะได้ติดต่อทางโรงพยาบาลหนองคายว่าสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ หากไม่สามารถดำเนินการได้ก็จะส่งไปยังส่วนกลางพิจารณาตรวจสอบให้

ส่งข้อมูลสบส.แจ้งความกองปราบ

นายพิชิต กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันได้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจับกุม ส่งให้กับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับอำนาจจากกระทรวงสาธารณสุข เป็นเจ้าทุกข์ กล่าวโทษกับกองปราบให้ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย

เล็งแจ้งข้อหาเพิ่มผิดพรบ.อุ้มบุญ

ขณะที่ นายนิมิตร นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวเพิ่มเติม ว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค.60 ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้เดินทางมาขอเอกสารการจับกุม และข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากศุลกากรไปแล้ว เพื่อนำไปประกอบการดำเนินคดี ซึ่งในวันนี้หลังจากส่งมอบของกลางในกล่องโฟมแล้ว ก็ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางห้องแล็บปฏิบัติการ หากว่าเป็นโครโมโซมมนุษย์จริง ก็จะเรียกตัว นายนิคม สิมารัตน์ คนขับรถที่พาหญิงสาว 6 คน ไปทำอุ้มบุญมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558

ทำแผนผังโยง4คลินิกใหญ่

พร้อมกันนี้ได้ทำแผนผังเส้นทางการเคลื่อนไหวของขบวนการอุ้มบุญ ที่มีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า คลินิกใหญ่ 4 แห่งในไทย ประสานกับคลินิกในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งใน สปป.ลาว และกัมพูชา จากนั้นว่าจ้างกลุ่มบุคคลนำตัวอ่อนหรือเชื้ออสุจิไปทำการผสม ขณะเดียวกันก็มีคนจีนซึ่งอาจจะรับจ้างจากคนจีนในประเทศจีนหรือต่างประเทศ ที่ต้องการมีบุตรแล้วเข้าสู่กระบวนการอุ้มบุญ โดยคนจีนที่เป็นตัวกลางก็จะหาเครือข่ายหญิงไทยที่มีสามีและมีลูกแล้วรับอุ้มบุญ แล้วพาไปทำการฝังตัวอ่อนที่คลินิกในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วค่อยพาตัวกลับมาอุ้มท้องในประเทศไทยรอการคลอด ซึ่งเชื่อว่าเมื่อใกล้คลอดจะพาหญิงเหล่านี้ไปคลอดยังต่างประเทศ โดยหญิงไทยบางคนที่อยู่ในขบวนการมีประวัติเดินทางไปยังประเทศจีนมาก่อน เมื่อคลอดแล้วหญิงไทยที่รับจ้างอุ้มบุญจึงจะได้รับเงินค่าจ้างคนละ 100,000 - 300,000 บาท


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์