ที่ยอมสึกเพราะเกรงกลัวต่อกม.บ้านเมือง อดีตพระเกษมยอมสึกยอมติดคุก จิตสำนึกพระ ใต้สำนึกศิษย์

ที่ยอมสึกเพราะเกรงกลัวต่อกม.บ้านเมือง อดีตพระเกษมยอมสึกยอมติดคุก จิตสำนึกพระ ใต้สำนึกศิษย์

จากกรณีการใช้มาตรา44 ประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษวัดพระธรรมกาย เพื่อเข้าตรวจค้นจับกุมพระธัมมชโย ผู้ต้องหาตามหมายจับในหลายคดี ทั้งบุกรุกป่า ทั้งรับของโจรร่วมกันฟอกเงิน กระนั้นมาถึงวันนี้พระธัมมชโย ก็ยังคงหลบหนี ไม่ยอมออกมามอบตัวต่อสู้คดี ทั้งบรรดาลูกศิษย์ไม่ว่าพระและฆราวาสก็ยังออกมาปกป้องขัดขวางเจ้าหน้าที่พร้อมยืนกรานว่าหลวงพ่อไม่ผิด ซึ่งเรื่องนี้ไม่เพียงสั่นคลอนต่อความศรัทธาในพระพุทธศาสนา หากแต่ยังสะเทือนไปถึงกระบวนการยุติธรรม หรือกฎหมายบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าที่ถูกโจมตี วิพากษ์วิจารณ์สร้างความเคลือบแคลงสงสัยในการทำหน้าที่ก็คือ เจ้าคณะปกครองสงฆ์ตั้งระดับสูงเรื่อยลงมา นับเนื่ององค์กรที่ดูแลสงฆ์อย่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)กระทั่ง มหาเถรสมาคม (มส.) ก็ถูกตั้งคำถามถึงมาตรฐาน เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับคดีอื่นๆ หนึ่งในนั้นคือ อดีตพระเกษมอาจิณณสีโล เจ้าสำนักสงฆ์สามแยก จ. เพชรบูรณ์ ย้อนไปเมื่อ 2ปีก่อน วันที่ 17 ม.ค.2558 นายธัญเทพ หมื่นพุทธ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่าพระราชปริยัติบัณฑิต เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ มีคำสั่งให้พระปกครองท้องที่อำเภอน้ำหนาว ไปดำเนินการให้พระเกษม อาจิณณสีโล เจ้าสำนักสงฆ์ป่าสามแยก พ้นจากความเป็นพระ เพราะผิดวินัยร้ายแรง หลังยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์กับลูกศิษย์ใกล้ชิด แต่อ้างว่าทำไปโดยไม่รู้ตัว จึงถือว่าขาดจากความเป็นพระ ถ้ายังไม่ยอมสึก สำนักงานพระพุทธศาสนา จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์

 

ก่อนหน้านี้สำหรับพระเกษม เคยโด่งดังจากพฤติกรรมใช้เท้าถีบโต๊ะ และทำท่าเตะพระลูกวัด รวมทั้งคลิปห้ามกราบไหว้พระพุทธรูป โดยใช้เท้าถีบพระพุทธชินราชจำลอง จนถูกฟ้องข้อหาหมิ่นศาสนา กระทั่งออกมายอมรับมีเพศสัมพันธ์กับลูกศิษย์ใกล้ชิด ทำให้ลูกศิษย์แตกออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกเห็นว่าพระเกษมผิดจริงต้องปาราชิก ส่วนอีกกลุ่มอยากให้ทำการสอบสวนตามพระธรรมวินัยก่อน เพื่อหาข้อเท็จริง ขณะที่พระเกษมยังคงปฏิบัติศาสนกิจภายในสำนักสงฆ์ตามปกติ ต่อมาวันที่ 18 ม.ค. พระเกษม ได้ลาสิกขา โดยกล่าวกับลูกศิษย์ว่า พยายามเข้าฌานสมาธิแต่ไม่สามารถเข้าได้ จึงสำนึกว่าตนได้ปาราชิก และขอสึกจากความเป็นพระ แต่ยังขอถือศีล 8 นุ่งขาวห่มขาว ปฏิบัติธรรมอยู่ที่สำนักสงฆ์ต่อไปในชื่อนายเกษม ดวงแพงมาต แต่ก่อนหน้านั้น2วัน คณะศิษย์และพระลูกวัดสำนักสงฆ์ป่าสามแยกได้ร่วมประชุมเพื่อเปิดการไต่สวนอดีตพระเกษม หลังถูกกล่าวหาว่าเสพเมถุนกับลูกศิษย์หนุ่มใกล้ชิด ซึ่งอดีตพระเกษมยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์กับลูกศิษย์ชายรายนี้ขณะไปรับกิจนิมนต์ที่กรุงเทพฯ แต่ทำไปโดยไม่รู้สึกตัว มาทราบภายหลังก็มีเพศสัมพันธ์กันแล้ว ทำให้ลูกศิษย์ถึงกับตกตะลึง บางส่วนรับไม่ได้ถึงขั้นประกาศผ่านเว็บไซต์สำนักสงฆ์ป่าสามแยกว่าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับอดีตพระเกษมอีก และขอถอนตัวจากการดูแลเว็บไซต์ และบรรดาลูกศิษย์แม้เห็นพ้องว่าต้องปาราชิก ควรสึกออกไป แต่ยังมีเสียงคัดค้าน โดยอ้างเหตุผลว่าทำไปโดยไม่รู้ตัว จึงมีมติให้พระสงฆ์ผู้ใหญ่และบุคคลภายทำการสอบสวนเรื่องดังกล่าว

 

ขณะที่พระเกษม กล่าวว่า ที่ยอมสึกเนื่องจากเกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองข้อหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้กระทำผิดเนื่องจากทำไปโดยไม่รู้ตัว และลูกศิษย์ก็พร้อมใจด้วย หลังจากนั้นนายเกษม ก็นุ่งขาวห่มขาวและถือศีล 8 ออกมารับอาหารที่โรงทานเหมือนทุกวัน และเล่าถึงสาเหตุที่ต้องถูกปรับถึงขั้นอาบัติปาราชิก และยังอ้างว่าทำไปโดยไม่รู้ตัว และอารมณ์ชั่ววูบ มารู้สึกตัวเมื่อสำเร็จความใคร่แล้ว โดยได้ร่วมเสพเมถุนมาเป็นสิบครั้งเพื่อเป็นการลองวิชา บรรดาลูกศิษย์ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ยึดติดที่ตัวบุคคล แต่ยึดถือคำสอนในพระไตรปิฎกเท่านั้น เมื่อผิดก็ว่ากันไปตามผิด แต่ลูกศิษย์ส่วนมากก็ยังคงให้ความนับถืออดีตพระเกษมในฐานะอาจารย์ที่เคยสั่งสอนมาก และยังคงจะทำการศึกษาพระไตรปิฎกที่วัดนี้ต่อไป เรื่องราวของอดีตพระเกษม หรือนายเกษม ดวงแพงมาต ไม่ได้สิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ เพราะเขายังตกเป็นจำเลยในคดีเหยียดหยามวัตถุทางศาสนา โดยถูกกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2551 เป็นผู้นำแผ่นป้ายข้อความว่า "ทองเหลืองหล่อนี้ไม่ใช่พระพุทธเจ้าแน่ ไม่ต้องไปกราบมัน" ไปติดไว้ที่ฐานพระพุทธรูปในวัดป่าสามแยก และวันที่ 28 พฤษภาคม 2551 ใช้เท้าเหยียบฐานพระพุทธชินราชจำลอง และใช้มือตบบริเวณพระพักตร์ของพระพุทธรูป เผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดีย และออกรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ในวันที่ 21 กันยายน 2554 จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำด้วยประการใดๆ แก่วัตถุอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาพุทธ อันเป็นการเหยียดหยามศาสนา เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 206

 

 

ต่อมาวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 ศาลจังหวัดหล่มสักอ่านคำพิพากษายกฟ้อง เพราะเชื่อว่าจำเลยไม่มีเจตนากระทำแก่วัตถุอันเป็นที่เคารพในทางศาสนา อันเป็นการเหยียดหยามศาสนา เนื่องจากเจตนาของจำเลยที่เชิญนักข่าวมาเพื่อจะให้อ่านพระไตรปิฎกและอธิบายถึงเหตุผลของการติดป้ายข้อความ ไม่ได้มีเจตนาเชิญนักข่าวมาบันทึกภาพการเหยียบฐานพระพุทธรูปและตบพระพักตร์ แต่เนื่องจากมีนักข่าวขอให้จำเลยพาขึ้นไปบนศาลา จำเลยจึงพาขึ้นไปและมีการอธิบายถึงสิ่งต่างๆ ว่าพระธาตุนี้ให้กราบไหว้ได้ แต่พระพุทธรูปนี้ไม่ใช่พระศาสดา โดยเจตนาที่พยายามอธิบายและสอนธรรมะแก่นักข่าว จำเลยเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่ากำลังกระทำแก่ทองเหลืองที่เป็นวัตถุ มิใช่กระทำแก่สิ่งอันเป็นที่เคารพในทางพุทธศาสนา เจตนาโดยแท้จริงของจำเลยต้องการแสดงไม่ให้ชาวพุทธยึดติดกับวัตถุ 13 มีนาคม 2555 ศาลจังหวัดหล่มสักนัดอ่านคำพิพากษาที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษา ในคดีดำหมายเลข 839/2553 หรือคดีแดง หมายเลข 3943/2554 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2554 พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำอันไม่สมควร และเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามพุทธศาสนา จำเลยมีความผิดตามฟ้ออง จำเลยบวชเป็นพระมานานแล้ว ย่อมรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร การอธิบายว่าพระพุทธเจ้าสอนไม่ให้ยึดติดในวัตถุ ควรมีวิธีสอนหรือยกตัวอย่างให้เห็น โดยไม่จำต้องกระทำดังที่จำเลยกระทำมา จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าพระพุทธรูปเป็นที่เคารพในทางศาสนาของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป ย่อมแสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยอันเป็นการเหยียดหยามต่อพุทธศานา

 

 

ศาลได้พิพากษากลับเป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 206 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกรรมเป็นกระทงความผิดไป กระทงละ 1 ปี และปรับกระทงละ 10,000 บาท รวม 2 กระทงจำคุก 2 ปี และปรับ 20,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เมื่อคำนึงถึงพฤติการณ์แห่งคดีและสภาพความผิดแล้ว เห็นสมควรให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 2 ปี และหลังทราบคำพิพากษา อดีตพระเกษม ก็ยืนยันที่จะสู้ถึงชั้นฎีกา เพราะมั่นใจว่าสิ่งที่ตนทำนั้นถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ไม่ให้ยึดติดกับรูปเคารพ

 

 

 

 


ที่ยอมสึกเพราะเกรงกลัวต่อกม.บ้านเมือง อดีตพระเกษมยอมสึกยอมติดคุก จิตสำนึกพระ ใต้สำนึกศิษย์


ที่ยอมสึกเพราะเกรงกลัวต่อกม.บ้านเมือง อดีตพระเกษมยอมสึกยอมติดคุก จิตสำนึกพระ ใต้สำนึกศิษย์


ที่ยอมสึกเพราะเกรงกลัวต่อกม.บ้านเมือง อดีตพระเกษมยอมสึกยอมติดคุก จิตสำนึกพระ ใต้สำนึกศิษย์


ที่ยอมสึกเพราะเกรงกลัวต่อกม.บ้านเมือง อดีตพระเกษมยอมสึกยอมติดคุก จิตสำนึกพระ ใต้สำนึกศิษย์

ข้อมูล ทีนิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์