โจรบุกร้านทองผูกคอตายคาห้องขัง

คนร้ายตัดสินใจผูกคอตายที่ห้องขัง


จากกรณีคนร้ายใช้ปืนพกสั้นบุกเดี่ยวเข้าชิงทรัพย์ที่ร้านทองฮะเส็ง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองร้อยเอ็ด เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา กวาดทองรูปพรรณไปมูลค่าเกือบ 1.5 แสนบาท แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายสมภพ พานทรัพย์ อายุ 39 ปี อดีตเสี่ยเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง จึงเร่งออกติดตามแกะรอยคนร้ายอย่างกระชั้นชิด
  
กระทั่งสืบทราบว่านายสมภพได้หลบ หนีไปเข้าพักอยู่ที่โรงแรมพิมาย โฮเต็ล

ตั้งอยู่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ดังนั้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงนำกำลังบุกเข้าจับกุมได้ พร้อมของกลางทองรูปพรรณที่เหลือบางส่วน นำตัวกลับมาควบคุมไว้ที่ สภ.อ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อเตรียม    นำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันรุ่งขึ้น  ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าธุรกิจเจ๊งไม่มีเงินใช้ประกอบกับป่วยเป็นโรคร้าย จึงตัดสินใจก่อเหตุชิงทองดังกล่าว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ผู้ต้องหาน่าจะกลัวความผิดเลยตัดสินใจเช่นนั้น


ต่อมาเวลา 05.00 น. วันที่ 19 ส.ค. พ.ต.ต.สุริยา แสงอ่อนตา สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สิบเวรว่า มีผู้ต้องหาผูกคอตายในห้องขัง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเข้าตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ. พรหมาตร วิวัฒนภาพร รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พ.ต.อ.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผกก. และแพทย์เวร รพ.ร้อยเอ็ด พบศพนายสมภพ ผู้ต้องหา ใช้เชือกรัดขอบกางเกงกีฬาที่ใส่ซ้อนอยู่ในกางเกงยีน ผูกคอตัวเองกับลูกกรงเหล็กของห้องขัง เสียชีวิตในท่านั่งตรงที่ปลดทุกข์ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง ขณะที่ญาติผู้ตายได้เดินทางมาดูศพ และไม่ติดใจในสาเหตุการตาย เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง
 
นายแก้ว (ขอสงวนนามสกุล) ญาติผู้ตาย เปิดเผยว่า

ก่อนนั้นผู้ตายเคยมีอาชีพเป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง จัดได้ว่าเป็นผู้มีฐานะร่ำรวยคนหนึ่ง แต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนัก กิจการขาดทุนยับจนถึงขั้นต้องปิดบริษัทไป แถมยังประสบปัญหาด้านสุขภาพ ป่วยเป็นโรคร้าย ไม่มีเงินรักษาตัว คาดว่าเป็นสาเหตุทำให้เครียดหนัก จึงตัดสินใจเป็นโจรชิงทรัพย์ หวังนำเงินมาใช้จ่ายและรักษาตัว แต่ไปไม่รอดถูกตำรวจตามจับกุมได้ในที่สุด.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์