เกย์ไทยผวา!! หนุ่มเช็คแพร่ HIV สารภาพ ชอบนอนกับผู้ชาย

เกย์ไทยผวา!! หนุ่มเช็คแพร่ HIV สารภาพ ชอบนอนกับผู้ชาย

จากกรณี ตำรวจสากลประเทศไทยได้รับแจ้งจากองค์การตำรวจสากลสากลและตำรวจสากลแห่งสาธารณรัฐเช็คว่า นาย ซเดเน็ค ไฟเฟอร์ (Zdenek Pfeifer) สัญชาติเช็ค ติดเชื้อเอชไอวี และมีพฤติการณ์รักร่วมเพศ แต่คนร้ายได้หลบหนีออกจากประเทศสาธารณรัฐเช็คแล้วได้มีเพศสัมพันธ์ในลักษณะรักร่วมเพศอย่างต่อเนื่อง

 

เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 18 ม.ค.60 พ.ต.อ.เสริม ขวัญนิมิตร ผกก.สภ.เชิงทะเลและหน้าหน้าที่ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องได้สอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมก่อนจะนำตัวส่งศาลภูเก็ตในวันนี้ เพื่อเสียค่าปรับในคดีอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเกินกฏหมายกำหนดก่อนนำตัวส่งด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป

 

สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาในการแพร่เชื้อเอดส์ถือว่าเป็นบุคคลอันตราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนในเรื่องดังกล่าวอยู่ แต่จากการสอบถามในเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ต้องหาคนดังกล่าวไม่ชอบผู้หญิง แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ โดยผู้ต้องหาให้การว่า ชอบผู้ชาย และตนเองเป็นเกย์ ถ้าผู้ชายคนไหนจะให้จ่ายเงินเสียค่าบริการ ตนก็จะไม่หลับนอนด้วย แต่ถ้าผู้ชายคนไหนให้ร่วมหลับนอนฟรีก็จะร่วมหลับนอนทันที จากตรวจสอบข้อมูลการเดินทางของผู้ต้องหา พบว่า ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2558 ทางด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ ประเภทวีซ่า ผ.30 และขออยู่ต่อที่ ตม.จว.ภูเก็ต อนุญาตถึง วันที่ 4 ส.ค.2558 อยู่เกิน 504 วัน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา "เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด" พร้อมได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยกรณีดังกล่าวว่า สำหรับกระแสข่าวที่ว่าชายคนดังกล่าวได้เข้ามาและมีพฤติกรรมแพร่เชื้อ HIV นั้น ในเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด หากมีผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนจะมีการตรวจสอบว่า ชายคนดังกล่าว มีเชื้อ HIV อยู่ในร่างกายหรือไม่นั้นเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาว่ามียินยอมหรือไม่อย่างไร โดยผู้ต้องหามีสิทธิ์จะพบทนายสองต่อสอง และมีสิทธิ์ในการรักษาพยาบาล โดยเจ้าหน้าที่จะพิจรณาคดีที่เกี่ยวข้องเป็นกรณีไป ส่วนกรณีที่อาจมีการเผยแพร่เชื้อนั้นเจ้าหน้าที่จะพิจารณาอีกครั้งว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมายข้อใดบ้างซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคติดต่อโดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ขอบคุณ khaosod.co.th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์