อลงกรณ์ คุ้ยทรัพย์สิน เยาวภา พิรุธเงินงอกพันล.ทั้งที่ธุรกิจขาดทุน

อลงกรณ์ คุ้ยทรัพย์สิน เยาวภา พิรุธเงินงอกพันล.ทั้งที่ธุรกิจขาดทุน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 เมษายน 2549 16:53 น.

อลงกรณ์ ตามคุ้ย เยาวภา พบร่ำรวยผิดปกติ เงินงอกเพิ่มอีกกว่าพันล้านบาท หลังถ่ายโอนทรัพย์สินให้ลูกทั้ง 3 คน งงรวยมาจากไหนนักทั้งที่ธุรกิจหลักขาดทุนนับร้อยล้านบาท เตรียมยื่น ป.ป.ช.-ปปง.ตรวจสอบฐานจงใจปกปิดทรัพย์สินและฟอกเงิน

วันนี้ (9 เมษายน) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบของคณะทำงานปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันของพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับทรัพย์สินของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย ที่ปรึกษานายกฯ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน และครอบครัว พบว่าน่าจะมีความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 303 และ 295 ที่เข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติและจงใจไม่ยื่นทรัพย์สินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ป.ป.ช.

โดยมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ก่อนเข้ารับตำแหน่งและระหว่างรับตำแหน่ง ส.ส. และที่ปรึกษานายกฯ นางเยาวภาได้โอนทรัพย์สินให้บุตรชาย และบุตรสาว 3 คน จากนั้นใน 2546-2547 บุตรทั้ง 3 คนได้เข้าไปถือครองหุ้น 3-4 บริษัท รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่จากการตรวจสอบรายงานประจำปีดังกล่าวของบริษัท เอ็มลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จากสำนักงาน ก.ล.ต.ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของครอบครัววงศ์สวัสดิ์ พบว่ามีผลประกอบการขาดทุนกว่า 123 ล้านบาท

นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค.47 น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาวของนางเยาวภา ได้เข้าไปซื้อหุ้นจากบริษัท สยาม สตริปมิลล์ จำกัด (มหาชน) 210 ล้านหุ้น มูลค่า 236 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 26 พ.ย.46 ได้มีการเปิดตัวโครงการ ชินณิชา วิลล์ มูลค่า 3,000 ล้านบาท โดยโครงการนี้ซื้อมาจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) และกองทุนรวม วีแคปปิตอล มูลค่า 800 ล้านบาท ซึ่งครอบครัวนี้ถือหุ้นอยู่ 40% และในวันที่ 11 มีนาคม น.ส.ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ และ น.ส.ชินณิชา เข้าไปเทกโอเวอร์บริษัท ทราฟฟิก คอร์นเนอร์ฯ ซื้อหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงจำนวน 140 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3 บาท รวมเป็นเงิน 420 ล้านบาท

อยากถามว่าครอบครัววงศ์สวัสดิ์นำรายได้จากไหนมาซื้อหุ้นกว่าพันล้านบาท เพราะรายได้จากการดำรงตำแหน่ง ส.ส. ที่ปรึกษานายกฯ และปลัดกระทรวงคงไม่สามารถมีรายได้มากพอ รวมทั้งการแจ้งผลประกอบการของบริษัท เอ็มลิ้งค์ ณ วันที่ 31 ธ.ค.2546 มีผลขาดทุนกว่าร้อยล้านบาท ในส่วนของบุตรทั้ง 3 คนไม่ได้ประกอบอาชีพหลักอะไร แล้วเอาเงินมาจากไหน จากหลักฐานเบื้องต้นเชื่อได้ว่ามีการซุกทรัพย์สิน หรือมีการฟอกเงิน ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 303 กำหนดไว้ชัดเจนว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถ้าร่ำรวยผิดปกติก็ต้องถูกลงโทษและถูกยื่นถอดถอน ซึ่งกรณีนี้เหมือนกับกรณีซุกหุ้นภาค 1 และถ้าหากโยงไปถึงความผิดมูลฐานการฟอกเงินก็อาจนำไปสู่การยึดทรัพย์ได้ อย่างไรก็ตาม ภายใน 2 สัปดาห์ พรรคประชาธิปัตย์จะส่งหลักฐานทั้งหมดในเบื้องต้นไปที่ ป.ป.ช. และ ปปง.ดำเนินการต่อไป นายอลงกรณ์ กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์