แอร์โฮสเตส! ดิ่งตึก 7 ชั้นดับสยอง คาดเครียดปัญหาสุขภาพ-จริงจังกับชีวิต

แอร์โฮสเตส! ดิ่งตึก 7 ชั้นดับสยอง คาดเครียดปัญหาสุขภาพ-จริงจังกับชีวิต

"แอร์โฮสเตส" สาวดิ่งชั้น 7 ห้างดังดับสยอง! พี่ชาย-แฟนหนุ่ม ชี้ไม่มีเรื่องขัดแย้งกับใคร คาดสาเหตุจากอาการป่วย ที่ส่งผล กระทบกับการทำงาน อีกทั้งไปทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นมาแล้วปรากฏว่าไม่เท่ากัน ต้องไปผ่าตัดแก้ไขหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา จนมีแผลรอยผ่าตัด ติดแผ่นปลาสเตอร์แปะติดอยู่ ตร.คาดตั้งใจฆ่าตัว ตรวจวงจรปิดแล้วพบขับเก๋งมาที่ห้างเพียงลำพัง ก่อนขึ้นไปจอดชั้นสูงสุด ที่ไม่เชื่อมต่อกับตัวอาคาร ทั้งๆ ที่ชั้นล่างก็ว่าง เตรียมเชิญพ่อ-แม่สอบปมเหตุอีกครั้ง

จากข่าวเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมาได้มีเหตุหญิงสาวพลัดตกจากที่สูงเสียชีวิต ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง


ที่เกิดเหตุบริเวณด้านนอกอาคารลานจอดรถชั้น 1 ทางขึ้นลานจอดรถศูนย์การค้า พบศพหญิงสาวสภาพนอนหงาย สวมเสื้อคอกลมสีชมพู สวมกางเกงวอร์มขายาวสีดำ ไม่สวมรองเท้า มีบาดแผลกะโหลกศีรษะด้านหลังแตก แขนขวาหักผิดรูป บริเวณใต้ท้องน้อยพบรอยผ่าตัด มีแผ่นปลาสเตอร์แปะแผล ติดอยู่

จากนั้นเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบบนอาคารลานจอดรถชั้น 7 บริเวณช่องจอดรถ 7 บี 1 พบรถยนต์เก๋งฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆพ 143 กทม. จอดอยู่สภาพประตูรถหน้าขวาของคนขับเปิดคาทิ้งไว้ ส่วนบริเวณด้านหลังรถพบรองเท้าแตะสีดำ 1 คู่ถอดวางอยู่ริมกำแพงอาคารลานจอดรถ ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่จุดพบศพผู้ตายตรวจสอบภายในรถพบบัตรผ่านชั่ว คราวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หมายเลข 34 ระบุชื่อ น.ส.พิมลพรรณ เจริญศรี อายุ 30 ปี ทำงานเป็นแอร์โฮสเตส สายการบินแห่งหนึ่งวางอยู่ และใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาที่สน.โชคชัย เพื่อนชายคนสนิท ผู้ตาย เดินทางเข้าให้ปากคำตำรวจว่า น.ส.พิมลพรรณ เป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินชื่อดังแห่งหนึ่ง แผลที่บริเวณใต้ท้องน้อยที่พบเกิดจากการผ่าตัดแก้ไขทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น ที่น.ส.พิมลพรรณไปทำการศัลยกรรมมาแล้วปรากฏว่าตาทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน จึงต้องไปผ่าตัดแก้ไขหลายครั้งตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังเป็นคนจริงจังกับชีวิต

จากนั้นเวลา 18.00 น. พ.ต.ท.อลงกรณ์ ศิริสงคราม รอง ผกก. (สอบสวน) สน.โชคชัย เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำพี่ชายและแฟนผู้ตายไปแล้ว 2 ปาก ทราบว่าผู้ตายไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งกับใคร สาเหตุหลักน่าจะเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพร่างกาย ทำให้เกิดผล กระทบต่อการทำงาน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าผู้ตายเดินทางมาที่ลานจอดรถเพียงลำพังในเวลา 07.45 น. โดยขับขึ้นไปที่ชั้น 7 บี ซึ่งกล้องวงจรปิดที่ชั้น 7 เอ บันทึกไว้อย่างชัดเจนว่าผู้ตายไม่ได้จอดในชั้นนี้ทั้งๆ ที่มีพื้นที่จอดรถว่าง แต่ขับรถตรงขึ้นไปจอดที่ชั้น 7 บี ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดและเป็นชั้นที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับส่วนของอาคารศูนย์การ ค้า จนกระทั่งมีคนมาพบศพเวลา 08.00 น. คาดว่าน่าจะจงใจมาก่อเหตุอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามจะเรียกพ่อและแม่ผู้ตายมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจไม่สะดวกมาให้ปากคำได้

 


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์