พ่อโวยลูกพิการถูกข่มขืน แต่คดีเงียบกริบ (ชมคลิป)

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม พ่อโวยลูกพิการถูกข่มขืน แต่คดีเงียบกริบ (ชมคลิป)

น.ส.เสาวลักษณ์ วิจิตร ผอ.กลุ่มส่งเสริมศูนย์บริการคนพิการกรุงเทพมหานคร กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ(พก.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านพักบริเวณเขตสาทรของหญิงพิการรายหนึ่ง หลังพ่อของหญิงพิการร้องเรียนว่าลูกสาวถูกข่มขืนตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2558 โดยเข้าแจ้งความแล้ว แต่คดีความไม่คืบหน้า

พบนายเอ นามสมมติ อายุ 53 ปี เปิดเผยว่า ลูกสาวของตน อายุ 21 ปี มีปัญหาบกพร่องทางการเรียนรู้ตั้งแต่กำเนิด ในวันเกิดเหตุหลังจากตนกับภรรยาเลิกงานและกลับถึงบ้าน ลูกสาวเล่าให้ฟังว่าถูกเพื่อนร่วมงานของตนบังคับข่มขืน โดยขับรถขยะของสำนักงานเขตสาทรมาจอดเทียบหน้าบ้าน แล้วปีนขึ้นไปทางหน้าต่างชั้น 2 ก่อนเข้าไปหลบอยู่ในห้องน้ำ เมื่อลูกสาวตนเดินผ่านก็ออกอุบายหลอกพาขึ้นรถไป แล้วใช้กำลังบังคับข่มขืนลูกสาวตนบนรถ จากนั้นก็นำลูกสาวตนมาปล่อยไว้หน้าปากซอยเข้าบ้าน แล้วให้เดินกลับเข้าบ้านเพียงลำพัง โดยกล้องวงจรปิดจากร้านค้าฝั่งตรงข้ามสามารถจับภาพขณะเพื่อนร่วมงานคนดังกล่าวขับรถขยะมาจอดไว้ได้

นายเอ กล่าวต่อว่า ตนจึงพาลูกสาวไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ สน.ยานนาวา ในวันเกิดเหตุทันที และพาไปตรวจร่างกายที่ ร.พ.ตำรวจ ซึ่งผลออกมาว่ามีร่องรอยการมีเพศสัมพันธ์จริงจากนั้นตนจึงนำคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดพร้อมใบรับรองแพทย์มอบให้เจ้าหน้าที่ไว้เป็นหลักฐานด้วย ต่อมาพนักงานสอบสวนได้นัดสอบปากคำ 2 ครั้ง และแจ้งว่าจะออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่อีกเลย เป็นเวลานานกว่า 6 เดือน แล้วหลังแจ้งความก็ไม่มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุเลย ตนจึงเข้าไปปรึกษามูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เพื่อให้ช่วยติดตามคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดี เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า

"ผมไม่สบายใจและกังวลมาก เนื่องจากต้องพบหน้าผู้ที่ข่มขืนลูกสาวผมทุกวัน เพราะทำงานที่เดียวกัน ส่วนที่มั่นใจว่าเป็นเพื่อนร่วมงานคนนี้ เพราะจำรูปพรรณสัณฐานได้ แล้วเขารู้จักกับครอบครัวผมและรู้จักบ้าน อีกทั้งลูกสาวก็บอกชื่อเขาว่าเป็นคนทำ ทางหัวหน้าฝ่ายที่ทำงานก็เรียกตนไปสอบถามว่าจะพูดคุยยอมความกันหรือไม่ ผมยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด สภาพจิตใจตอนนี้แย่มาก เพราะคดีล่าช้าไม่มีความคืบหน้า โทรศัพท์ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยากมาก เพราะเขาไม่รับโทรศัพท์ อ้างว่าออกไปศาล ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุข้างนอก หรือติดต่อเจ้าของคดีไม่ได้ ขณะนี้คดียังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งทำคดีให้เร็วขึ้นและนำตัวคนผิดมารับโทษให้ได้" นายเอกล่าว

ด้าน น.ส.เสาวลักษณ์ กล่าวว่า หลังจากทราบว่าน้องถูกกระทำความรุนแรง ทาง พก. ได้มอบหมายให้ตนมาเยี่ยมบ้านและให้กำลังใจผู้เสียหาย พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าผู้เสียหายเป็นผู้พิการกลุ่มออทิสติกและมีบัตรประจำตัวคนพิการ ซึ่งต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง จึงให้คำแนะนำด้านสิทธิทางการแพทย์แก่ครอบครัว พร้อมมอบถุงยังชีพและเงินสงเคราะห์ให้ครอบครัวผู้เสียหาย จำนวน 2,000 บาท ส่วนเรื่องคดีความ ทาง พม.คงต้องทำงานร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลและสถานีตำรวจเจ้าของคดี เบื้องต้นให้คำแนะนำกับครอบครัวว่าให้ทำหนังสือสอบถามความคืบหน้าของคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าไม่ได้รับการตอบกลับก็ให้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมตามลำดับชั้น

ชมคลิป

WWW