10 วินาทีชีวิต ก่อนสยามบีชพังครืน 4ชม.ในอ้อมกอดแม่ป้องชีวิตลูกน้อยใต้ซาก

นางสาววรี สุนทรสาร หรือ แม่น้องรีออง เด็กชายวัย 3ขวบ ที่ทั้งครอบครัวประสบอุบัติเหตุอาคารโรงแรมสยามบีช เกาะช้าง จ.ตราด พังถล่ม ทับร่างตัวเอง ลูกชาย สามี และเพื่อนเสียชีวิต เปิดเผยถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่าเหตุการณ์เกิดในช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. ตัวเอง สามี และเพื่อน รวมทั้งน้องรีออง นอนอยู่ในห้องพักทั้งหมด น้องรีอองจะนอนเตียงเสริม ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงกระจกแตกที่ห้องด้านข้าง ตกใจจึงเรียกให้สามีและเพื่อนรู้ตัว และบอกว่าอย่าเดินไปที่ห้องข้าง ๆ แต่ยังไม่ทันที่จะทำอะไร ก็มีกระจกแตกที่ห้องที่ตัวเอง สามีและเพื่อนพยายามที่จะไปถีบประตู แต่เปิดไม่ออก ระหว่างนั้นคิดว่าอาคารน่าจะถล่ม จึงได้ไปหยิบหมอนที่หัวเตียงมากอดไว้พร้อมกับกอดน้องรีออง แต่คานของอาคารได้ตกลงมาเร็วมากกำแพงที่อยู่ด้านข้างก็พังถล่มมาทับที่ตัว โชคดีที่กอดน้องรีอองไว้ ทำให้ตัวเองล้มในลักษณะคว่ำหน้าส่วนน้องรีออง เงยหน้าขึ้น ส่วนเพื่อนเห็นถูกคานทับที่ศีรษะ จากนั้นไม่รู้อะไรเลย เนื่องจากมืดมาก ตัวของน้องรีอองจะมีแผ่นยิปซั่มทับลงมาด้วย และอากาศหายใจไม่มี จึงตัดสินใจใช้มือขูดแผ่นยิปซั่มให้มีอากาศเข้ามาเพื่อหายใจ

"ตอนนั้นไม่สามารถขยับร่างกายได้เพราะท่อนล่างตั้งแต่สะโพกถูกคานทับเมื่อขยับจะรู้สึกเจ็บ และมีแผ่นปูนที่มีเหล็กด้านในทับลงมาอีก ส่วนน้องรีออง ก็ตกใจและร้องไห้ได้แต่พูดปลอบน้องรีอองไม่ให้ร้องไห้ พร้อมกันนี้ก็ร้องเรียกขอความช่วยเหลือ ซึ่งช่วงนั้นคิดว่าจะไม่รอดชีวิตเนื่องจากอึดอัดและแน่นจากการถูกของที่มีน้ำหนักมากทับอยู่ แต่ตั้งสติไว้ เพราะเคยดูข่าวเหตุการณ์ในประเทศเนปาล จึงได้รวบรวมสติแล้วปลอบลูกไม่ให้กลัว 4 ชั่วโมงที่อยู่ในซากตึกคิดว่าทั้งตัวเองและลูกจะไม่รอด แต่โชคดีที่สามารถรอดชีวิตมาได้จากการช่วยเหลือของทุกคน"

นางสาววรี กล่าวพลางร่ำไห้ ว่า

 รู้สึกเสียใจกับการเสียชีวิตของ น.ส.กชกร ธรรมจักร เพื่อนสนิท เราสนิทกันมากเดินทางไปเที่ยวกันทุกปี โดยเฉพาะที่เกาะช้างมาทุกปี ปกติจะเดินทางมาในช่วงของฤดูร้อน แต่ปีนี้ติดงานจึงเลื่อนการเดินทางมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงเดือนมิถุนายน และเพื่อนก็บอกว่าให้มานอนที่โรงแรมสยามบีช เพราะมีเพื่อนเป็นเจ้าของอยู่ ระหว่างเดินทางมา รถตู้ก็เตือนเล่าเรื่องปัญหาที่มีมากบอกว่ามักมีคนตายไม่ควรไปพัก แต่เพื่อนได้มีการจองห้องพักไว้แล้ว จึงตัดสินใจมาพัก ซึ่งไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น โดยในแต่ละปี เราทุกคนจะเก็บเงินเพื่อเดินทางไปเที่ยวสักครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น เสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก ส่วนการชดเชย การช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล จะมากเท่าไรก็คงจะไม่คุ้มกับการสูญเสียเพื่อน และการเสียขวัญของลูกที่ทำให้เค้าจดจำไปได้ตลอดชีวิตกับเหตุการณ์นี้

ขณะที่นางสาวจรณี ปานดอกไม้ หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ และเพื่อนของแม่น้องรีออง เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเสี้ยวของนาทีเป็นนาทีตายว่า ได้ยินเสียงกระจกแตก จึงปลุกเพื่อนให้ตื่น เพราะรู้ว่าอาคารโรงแรมกำลังทรุด และได้ตะโกนบอกเพื่อว่าอย่าเข้าไป และเข้ายืนอยู่ใกล้ตู้เสื้อผ้า นับได้สัก 10 วินาทีคานก็หล่นลงมาทับร่าง เห็นเพื่อนถูกคานทับที่ศรีษะ และคานก็ทับที่ฝ่ามือซ้าย จากนั้นไม่เห็นอะไรอีกเลย เพราะช่วงนั้นมันมืดมาก มาทราบภายหลังว่าเพื่อนเสียชีวิต ซึ่งเราเป็นเพื่อนสนิทกัน เหตุการณ์ครั้งนี้เสียใจมากเพราะได้สูญเสียเพื่อนไป แต่ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันและไม่มีใครอยากจะให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น