ขสมก.ขู่ฟ้อง พ่อ-หมูแฮมหยามความรู้ต่ำทำองค์กรเสียชื่อ

สหภาพแรงงาน ขสมก.เตรียมแจ้งความ 2 พ่อลูกไฮโซ ดูหมิ่นเหยียดหยามพนักงานความรู้ต่ำ


ทำองค์กรเสื่อมเสีย ผบก.น.5 มั่นใจพยานหลักฐานมัดแน่นเอาผิด "หมูแฮม" ซิ่งเบนซ์ชนคนตาย ด้าน ผกก.คลองตัน เผยหลังผู้ต้องหาออกจาก รพ.ต้องส่งตัวตรวจสภาพจิต ขณะที่มารดาเข้าเยี่ยมอาการนักศึกษาหอการค้าไทย พร้อมรับปากจะดูแลเหยื่อทุกราย


หลังจากที่ นายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ หรือ "หมูแฮม" อายุ 20 ปี

ลูกชายของ นางสาวิณี ปะการะนัง อดีตนางสาวไทย ขับรถเบนซ์พุ่งชนคนที่ยืนอยู่บนฟุตบาท เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอีกหลายคน หลังจากทะเลาะกับพนักงานขับรถโดยสารสาย ปอ.513 ซึ่งต่อมานายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ บิดาของนายกัณฑ์พิทักษ์ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลายแขนง โดยกล่าวหาและดูหมิ่นเหยียดหยามพนักงานเก็บค่าโดยสารสาย ปอ.513 และพนักงานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่าเป็นคนชั้นล่าง ไม่มีการศึกษา ความรู้ต่ำ ล่าสุดสหภาพแรงงาน ขสมก.เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับสองพ่อลูกแล้ว  

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม นายสนาน บุญงอก ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก.กล่าวว่า

ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ สหภาพจะแจ้งความดำเนินคดีกับนายกัณฑ์พิทักษ์ และนายกัณฑ์เอนก ในข้อหาดูหมิ่นเหยียดหยามพนักงาน ขสมก. ทำให้ได้รับความเสียหายต่อเกียรติภูมิและชื่อเสียงองค์กร และทำให้สังคมเกลียดชังและเป็นจำเลยทางสังคม  “สหภาพเห็นว่าการกล่าวหาให้ร้ายดูหมิ่นเหยียดหยามของนายกัณฑ์เอนก

โดยการกล่าวหาว่าคนรัฐวิสาหกิจความรู้ต่ำนั้น เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างร้ายแรง

พนักงานที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นสมาชิกสหภาพ ผ่านการอบรมเรื่องมารยาทการให้บริการมาตลอด และได้รับใบรับรองมาตรฐานไอเอสโอ แม้ความรู้จะต่ำ แต่มีคุณธรรม จริยธรรมต่อเพื่อนร่วมงานและผู้ใช้บริการ” นายสนาน กล่าว


นายวีระพงษ์ วงศ์แหวน รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก.กล่าวว่า


ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อกับผู้เสียหาย คือ พนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสาร สาย ปอ.513 เพื่อรวบรวมข้อมูลรายละเอียด ก่อนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายกัณฑ์เอนก และนายกัณฑ์พิทักษ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “ผู้เสียชีวิตและผู้เสียหายทั้งสองคนเป็นสมาชิกสหภาพ การกล่าวหาพนักงานขสมก.ว่าเป็นคนชั้นล่าง ไม่มีการศึกษา นอกจากจะกระทบต่อสมาชิกแล้ว ยังเสื่อมเสียต่อองค์กรอีกด้วย การเป็นคนดีไม่ได้อยู่ที่วุฒิการศึกษา แต่อยู่ที่การกระทำมากกว่า” นายวีระพงษ์ กล่าว


อย่างไรก็ตาม วันที่ 11 กรกฎาคม

สหภาพจะเข้าพบ นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อหารือถึงกรณีที่สองพ่อลูกทำร้ายและดูหมิ่นเหยียดหยามพนักงาน ขสมก.ด้วย


ส่วนกรณีที่มีครอบครัวของเหยื่อบางรายไม่พอใจเกี่ยวกับการช่วยเหลือของครอบครัวปัจฉิมสวัสดิ์ ซึ่งเรื่องนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเล็งเห็นถึงปัญหา จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายประสานระหว่างผู้เสียหายและพ่อแม่ของผู้ต้องหาในเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายแล้ว


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 กรกฎาคม พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวว่า

ขณะนี้มารดาของนายกัณฑ์พิทักษ์ ผู้ต้องหา ติดต่อขอประกันตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุมัติการประกันตัวไปแล้ว ส่วนขั้นตอนต่อจากนี้จะประสานติดต่อขอสอบปากคำแพทย์เจ้าของไข้อีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบโรงพยาบาลของทางราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ทำการรักษาโรคทางจิตประสาทในลักษณะนี้ เพื่อนำมาประกอบสำนวนการสอบสวน นอกจากนี้ยังสั่งการไปยัง พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.5 เพื่อประสานฝ่ายผู้เสียหาย และบิดา มารดาของผู้ต้องหา เพื่อดูแลหรือชดใช้ค่าเสียหายตามสมควร


ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เวลาในการสอบปากคำนายกัณฑ์พิทักษ์

เป็นเวลาถึง 1 เดือน ซึ่งอาจจะนานเกินไปหรือไม่นั้น พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า คงไม่ให้เวลานานขนาดนั้น อาจจะอยู่ในระยะเวลาสัปดาห์นี้ อย่างช้าน่าจะไม่เกินต้นสัปดาห์หน้า และคิดว่าไม่น่าจะให้ระยะเวลายืดเยื้อจนถึง 1  เดือน ซึ่งภายในสัปดาห์นี้หากสามารถสอบปากคำได้ก็จะดำเนินการสอบปากคำทันที โดยในส่วนการสอบปากคำนี้ หากแพทย์ บิดา มารดา หรือทนาย ต้องการจะเข้าร่วมในการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยินดี


ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ กล่าวถึงการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีนายกัณฑ์พิทักษ์

ที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาหนัก 3 ข้อหา คือ ฆ่าคนตายโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น และทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บว่า เบื้องต้นมีประจักษ์พยานและหลักฐานแน่นหนา เชื่อว่าจะเอาผิดนายกัณฑ์พิทักษ์ ตามที่พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาได้อย่างแน่นอน


ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาอาจใช้เรื่องอาการป่วยทางจิตประสาทมาต่อสู้คดี


ผบก.น. 5 กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ต้องคิดต่อไปว่า คนที่มีอาการทางจิตประสาท เมื่อฆ่าคนตายแล้วจะมีความผิดหรือไม่ โดยตำรวจจะประสานขอสอบปากคำแพทย์สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ที่ให้การรักษานายกัณฑ์พิทักษ์ รวมทั้งแพทย์โรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี


ขณะที่ พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า

การสอบปากคำนายกัณฑ์พิทักษ์ ได้สอบสวนเบื้องต้นไปแล้วในวันที่นำหมายจับไปแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบที่โรงพยาบาล โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และอ้างว่ายังไม่พร้อมที่จะให้การเนื่องจากยังเจ็บป่วยอยู่ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็มีพยานหลักฐานในการเอาผิดผู้ต้องหาได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องนัดสอบปากคำอีก แต่ถ้าหากว่านายกัณฑ์พิทักษ์ต้องการจะให้ปากคำเพิ่มเติมอย่างไร สามารถติดต่อพนักงานสอบสวนสอบปากคำอีกครั้ง


ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า

ส่วนคนเจ็บนั้น มารดาของผู้ต้องหาติดต่อกับพนักงานสอบสวนไว้แล้วว่า หากคนเจ็บสามารถมาแจ้งยืนยันค่ารักษาได้ก็ให้มาแจ้ง ส่วนการสอบปากคำคนเจ็บ ตอนนี้คนเจ็บยังกระจัดกระจายรักษาตัวอยู่ตามโรงพยาบาล และเชื่อว่าคงยังไม่สามารถให้การได้ ต้องใช้เวลาในการรักษา ซึ่งการส่งสำนวนจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับคนเจ็บแต่ละราย เพราะการรักษายังไม่สิ้นสุดและยังไม่ปิดบิลค่ารักษา ส่วนค่าทำขวัญก็แยกต่างหากไป แต่อย่างไรก็ตาม การรวบรวมพยานหลักฐานก็ทำไปเกือบหมดแล้ว


พ.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าวอีกว่า

กรณีที่มารดาของนายกัณฑ์พิทักษ์อ้างว่าลูกชายมีความเจ็บป่วยทางจิตจึงกระทำการดังกล่าวไปนั้น โดยหมอที่รักษายังอยู่ที่ต่างประเทศนั้น ทราบว่าขณะนี้ยังไม่เดินทางกลับมา ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายผู้ต้องหาที่จะอ้างหรือพาดพิงไปถึงหมอคนดังกล่าว ที่จะต้องมายืนยันให้ผู้ต้องหาใช้ในการต่อสู้คดี อย่างไรก็ตาม เมื่อนายกัณฑ์พิทักษ์ออกจากโรงพยาบาลพนักงานสอบสวนต้องนำตัวส่งให้แพทย์ตรวจสอบสภาพจิตอยู่ดี


มีรายงานว่า

วันเดียวกันนี้ นางสาวิณี ปะการะนัง มารดานายกัณฑ์พิทักษ์ ได้ประสานพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อให้ติดต่อไปยังผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่อาการไม่สาหัส มาเจรจาเรื่องช่วยเหลือค่าเสียหายแล้ว


เมื่อเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน นางสาวิณี เดินทางไปโรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำ

เพื่อเข้าเยี่ยม น.ส.หทัยทิพย์ ครุฑธจร หรือน้องแอน อายุ 19 ปี นักศึกษาปีที่ 2 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หนึ่งในเหยื่อรถเบนซ์ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนางขวัญเรือน ครุฑธจร มารดาของ น.ส.หทัยทิพย์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุแสดงความรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลและดูแลบุตรสาวจนหายเป็นปกติ


นางสาวิณี กล่าวว่า

พร้อมจะให้ความช่วยเหลือเหยื่อที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ในช่วงเย็น จะไปโรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อติดตามอาการของนายกัณฑ์พิทักษ์ต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์