2 มือปืนแรมโบ้อีสานชิงมอบตัวต่อสู้คดี

ยืนกรานปฏิเสธเด็ก รง.แป้งกัน ตร.ยันไม่ใช่แพะ ตร.ยันไม่ได้ จับแพะ

มีพยานหลักฐานพร้อม หลังสองผู้ต้องหายิง "แรมโบ้อีสาน" มอบตัวสู้คดี หลังถูกออกหมายจับเพียงไม่กี่ชั่วโมง พร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เผยคนหนึ่งเป็นคนขับรถเจ้าของโรงงานแป้งมัน
ขณะที่อีกคนเป็นคนขับรถอดีต ส.ว. ซึ่งเป็นสามีนายกเล็กหญิงที่เป็นคู่แข่งทางการเมือง

กับอดีต ส.ส.แรมโบ้ ตร.ยกกำลังร่วม 100 นายบุกตรวจค้นโรงงานแป้งมันทันที แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ด้านอดีต ส.ว.โวยลั่น ตร.ตั้งธงล่วงหน้า ตั้งข้อสังเกตมือปืนไม่น่าเลือกก่อเหตุใกล้บ้านพี่ชายเหยื่อ ขณะที่นายกเล็กหญิงเผยไม่เชื่อลูกน้องจะเป็นมือปืน ประกาศกร้าวกรรมใดใครก่อกรรมนั้นจะตามสนอง


ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิง นายสุพร อัตถาวงศ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน"


อดีต ส.ส.นครราชสีมา เขต 12 พรรคไทยรักไทย และอดีตรองเลขานุการอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนสายครบุรี-เสิงสาง กม.ที่ 10-11 บ้านเทพนิมิต ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ขณะขับรถเก๋งส่วนตัวกลับบ้านพัก ที่ อ.ครบุรี เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 5 ก.ค. พ.ต.อ.กรกต สาริยา รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวน

พร้อมด้วย พ.ต.อ. พงษ์เดช พรหมมิจิต รอง ผบก.ภ.จว.นครราช สีมา หัวหน้าชุดสืบสวนคดีดังกล่าว ได้นำกำลัง นปพ.สมทบกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เสิงสาง ร่วม 100 นาย พร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดนครราชสีมา และหมายจับเลขที่ 242/50 เดินทางไปยังโรงงานแป้งมันเอี่ยมเฮง เลขที่ 15 หมู่ 12 บ้านดอนไร่ ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง เพื่อจับกุมนายสนิท ศอกจะบก อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 489 หมู่ 9 ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี และ นายวิรัตน์ บำรุงโลก อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/3 หมู่ 1 ต.สัมพันธ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นคนงานอยู่ในโรงงานแป้งมันดังกล่าวมานาน

จากการเข้าตรวจค้นอย่างละเอียดภายในบริเวณโรงงานที่มีพื้นที่ร่วม 200 ไร่

ตลอดจนบ้านพักคนงานปรากฏว่าไม่พบผู้ต้องหาและของกลาง ตลอดจนสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด โดยมีนายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล และนางยลดา หวังศุภกิจโกศล พี่สาวนางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.เสิงสาง เจ้าของโรงงานพาตรวจค้นและอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี หลังจากนั้น พ.ต.อ.กรกต สาริยา เปิดเผยว่า ได้ตั้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้งสองจำนวน 4 ข้อหาด้วยกันคือ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และยิงปืนในที่สาธารณะ ทั้งนี้ตำรวจมีพยานหลักฐานที่ชี้ว่าผู้ต้องหาทั้งสองเป็นมือปืนที่ยิงถล่มนายสุพร ส่วนพยานหลักฐานจะมีความแน่นหนาเพียงใดนั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ขอยืนยันว่าตำรวจทำไปตามหน้าที่

ขณะเดียวกันนางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.เสิงสาง ที่ประกาศจะลงสมัคร ส.ส.ในสมัยหน้า

ในเขตพื้นที่ อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง ก็เดินทางมาดูการตรวจค้นในครั้งนี้ด้วย พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยว่า ตนไม่เชื่อเด็ดขาดว่าคนงานทั้งสองคนจะเป็นมือปืนก่อเหตุ เพราะคนหนึ่งเป็นคนขับรถให้สามีตนที่เป็นอดีต ส.ว. อีกคนขับรถให้นายวีระศักดิ์ ที่เป็นเจ้าของโรงงานแป้งมันเอี่ยมเฮง แต่ถ้าตำรวจมีพยานหลักฐานก็ขอให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามตนอยากให้สังคมและประชาชนทั่วไปที่รู้จักนายสุพร และรู้จักโรงงานแป้งมันเอี่ยมเฮงมานาน โปรดใช้ดุลพินิจไตร่ตรองดูว่าใครกระทำใครในครั้งนี้ และตนเชื่อว่าอีกไม่นานกาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ตนเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม ใครทำกรรมชั่วไม่นานจะได้รับการสนองตอบ

ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนิทและนายวิรัตน์ สองผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ


ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจสืบสวนภาค 3 ท่ามกลางความประหลาดใจของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว ตำรวจทีมสืบสวนของคดีนี้ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจค้นที่โรงแป้งมันเอี่ยมเฮง ซึ่งหลังการเข้ามอบตัวของผู้ต้องหา พล.ต.ต.ชลอศักดิ์ อาษา รอง ผบช.ภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้นำผู้ต้องหามาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การกับพนักงานสอบสวน

พล.ต.ต.อำนาจ เปิดเผยว่า ตำรวจมีมูลเหตุชัดเจนในการออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองคน

ซึ่งเกี่ยวโยงกับหน้าที่การงาน และเรื่องส่วนตัวที่มีความขัดแย้งกันมานาน โดยเฉพาะมีพยานบุคคลและพยานหลักฐานอื่น ๆ เพียงพอจึงออกหมายจับ ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีการจับแพะแน่นอน ขณะที่จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง เบื้องต้นให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยนายสนิทเป็นคนขับรถของนายวีระศักดิ์ เจ้าของโรงงานแป้งมันเอี่ยมเฮง และอดีตเคยเป็นคนขับรถของ นายสุพร อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส.เหยื่อกระสุนปืนอีกด้วย นอกจากนี้เมื่อ 10 ปีก่อนยังเคยเป็นทหารพรานประจำกองร้อย 26 อ.ครบุรี ก่อนออกมาทำงานให้กับเจ้าของโรงงานแป้งมันดังกล่าว

ส่วนนายวิรัตน์ ผู้ต้องหาอีกคน เป็นอดีตคนขับรถของ นายสมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล น้องชายนายวีระศักดิ์ และเป็นอดีต ส.ว.นครราชสีมา

ซึ่งการเข้ามอบตัวครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเตรียมตัวเดินทางมามอบตัวตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเดินทางโดยรถบัสประจำทางจากโรงงานแป้งมันตั้งแต่เช้า เพื่อเข้ามามอบตัวกับตำรวจ ทั้งที่ตำรวจยังไม่ได้ออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหาก็รู้ตัวก่อนแล้ว โดยอ้างว่าทราบข่าวจากสื่อมวลชน จึงพร้อมเข้ามามอบตัวสู้คดี ส่วนจะโยงใยไปถึงบุคคลอื่นที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้น คงต้องรอการสอบสวนอย่างละเอียดเสียก่อน

ทางด้านนายสมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต ส.ว.นครราชสีมา สามีนางจิตรวรรณ กล่าวว่า

ตนทราบมาว่าการออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาในครั้งนี้ เป็นการออกหมายจับตามคำให้การของนายสุพร อัตถาวงศ์ ที่เคยให้การไว้ในชั้นแรกว่าจำรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นคู่กรณีกัน ที่สำคัญในวันเวลาและที่เกิดเหตุ นาย สุพรก็อยู่ตามลำพังและมืดมาก นายสุพรจะให้ปากคำโยงใยไปถึงใครก็ได้ เพราะไม่มีประจักษ์พยานคนอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุ
"เป็นที่น่าสังเกตว่าจุดที่เกิดเหตุอยู่ใกล้ ๆ บ้านพักพี่ชายนายสุพร ซึ่งคนร้ายไม่น่าเลือกลงมือตรงจุดนั้น นอกจากนี้หลังนายสุพรถูกยิงเพียงวันเดียว ตำรวจบอกกับสื่อมวลชนว่ารู้ตัวคนร้ายแล้ว และย้ำมาตลอดว่าจะออกหมายจับได้ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ และก็เป็นจริง เหมือนเป็นการตั้งธงไว้ล่วงหน้า ฉะนั้นตำรวจที่ทำคดีนี้จะต้องพิจารณาดี ๆ อย่าตกเป็นเครื่องมือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แม้ในที่สุดผลของคดีจะออกมาในรูปใด แต่สังคมอาจมองคนดีกลายเป็นคนไม่ดีไปแล้ว ทำให้คนดีเกิดความท้อแท้ได้" อดีต ส.ว.นครราชสีมา กล่าว.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์