ตั้งปมการเมือง-ขัดแย้งธุรกิจ เหตุยิงอดีตสส.แรมโบ้อีสาน

ผบก.จว.นครราชสีมา ระบุ เบื้องต้นตั้ง 2 ประเด็น เหตุไล่ประกบยิง"อดีตสส.แรมโบ้อีสาน"


ทั้งความขัดแย้งการเมืองและขัดแข้งธุรกิจในพื้นที่ เจ้าตัวเชื่อสาเหตุคู่แข่งทางการเมืองในพื้นที่เลือกตั้ง เผย เชื่อฝีมือ"เสรีพิศุทธ์"จับคนร้ายได้


ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายสุพร อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตสส.พรรคไทยรักไทย

ถูกคนร้ายไล่ประกบยิงบนถนนสายครบุรี-เสิงสาง กม.10-11 บ้านเทพนิมิตร ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เมือกลางดึกวานนี้(1กค.) ว่า หลังรับแจ้งจากผู้ใต้บังคับบัญชา พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม ผบก.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบก.จว.นครราชสีมา ได้รุดไปที่เกิดเหตุพร้อมตำรวจวิทยาการภูธรจังหวัดนครราชสีมา เพื่อตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐาน และพล.ต.ต.อำนาจ ได้เข้าสอบปากคำนายสุพร ด้วยตนเองขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ รพ.ครบุรี

หลังสอบปากคำ พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า จากการสอบสวนพบว่า

นายสุพรขับรถมาคนเดียวเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายที่ขับรถมาทิศทางเดียวกันได้แซงขึ้นมาแล้วใช้อาวุธปืนยิง จากนั้นนายสุพรก็จอดรถแล้วชักปืนพกยิงต่อสู้ไป 2 นัด แล้วเปิดประตูวิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทาง ส่วนสาเหตุนั้นจากการสอบปากคำนายสุพรได้ขอเวลาทบทวนเหตุการณ์และรวบรวมรายละเอียดที่เกิดขึ้นก่อน ซึ่งตำรวจได้ตั้งประเด็นการสอบสวนไว้ 2 ประเด็น คือเกิดจากการความขัดแย้งการทำงานทางการเมืองและธุรกิจในครอบครัวของนายสุพร และอีกประเด็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไปโดยจะใช้เวลาคลี่คลายคดีเร็วที่สุด



ทั้งนี้ตนได้ตั้งพ.ต.อ.กรกต สาริยา รอง ผบก.จว.นครราชสีมา เป็นหัวหน้าชุดสอบสวน


และ พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบก.จว.นครราชสีมา เป็นหัวหน้าชุดในทีมสืบสวน โดยจะทำงานร่วมกับชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรอำเภอครบุรีเพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 5 ปาก

ด้านนายสุพร อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา เขต 12 พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า

ก่อนเกิดเหตุตนลงพื้นที่พบปะประชาชนตามปกติที่ อ.เสิงสาง จากนั้นก็ไปรับประทานอาหารกับผกก.เสิงสาง ตั้งแต่เวลาสองทุ่มของคืนวันที่ 1 ก.ค.ถึง 5 ทุ่ม ก็เดินทางกลับบ้านที่บ้านเฉลียง อ.ครบุรี โดยขับรถมาเพียงคนเดียว

ระหว่างทางก็ขับรถมาเรื่อยๆไม่ได้ขับเร็ว เมื่อรถวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุก็มีรถกระบะสีบร์อนทองยี่ห้ออีซูสุรุ่นดีแม็ค

ที่วิ่งตามมาจาก อ.เสิงสางโดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนแซงประกบข้างแล้วคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนขึ้นไป ได้ยิงกระหน่ำใส่รถตน เมื่อรู้ว่าถูกยิงที่ไหล่รถตนยังไม่เสียหลักและตนเห็นรถกระบะกำลังจะเลี้ยวกลับมายิงซ้ำพอดีตนเอาปืนพกวางไว้ข้างเบาะจึงชักปืนยิงต่อสู้และเปิดประตูวิ่งหนีเข้าป่ามันสำปะหลังข้างทาง คนร้ายเห็นว่าตนมีปืนจึงไม่กล้าวิ่งไล่ หลังตนวิ่งเข้าป่าได้หันมาเห็นรถกระบะวิ่งหนีไปทางอ.เสิงสาง


จากนั้นตนทิ้งช่วงประมาณครึ่งชั่วโมงก็เลยออกจากป่ามันสำปะหลังเดินข้ามถนนลัดเลาะตามทุ่งนา

ไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้านบ้านเทพนิมิตใกล้ที่เกิดเหตุ และนำตัวส่งมารักษาที่ รพ.ครบุรี ทั้งนี้ตนฟันธงเลยว่าที่ตนถูกยิงครั้งนี้มาจากประเด็นการเมืองฝ่ายตรงข้ามเพราะว่าฝ่ายตรงข้ามค่อนข้างคาดหวังสูงอยากที่จะมาเป็น ส.ส.เขตนี้แทนตน เป็นคู่แข่งการเมืองระดับชาติในพื้นที่ซึ่งกำลังจะลงสมัครแข่งขันเร็วๆนี้ และมีความอาฆาตแค้นส่วนตัวกับตนในหลายๆ เรื่องทั้งเรื่องกล่าวหาว่าตนไปกลั่นแกล้งธุรกิจและการขัดผลประโยชน์อะไรต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาสมัยที่ตนอยู่พรรคร่วมรัฐบาลได้ผลักดันให้ตั้งโรงงานเอทานอลให้เกิดขึ้นในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรก็อาจไปขัดประโยชน์กับธุรกิจของบางโรงงานโดยเฉพาะเกี่ยวกับธุรกิจมันสำปะหลังหลายประเด็นที่เป็นความขัดแย้งทำให้คู่แข่งไม่พอใจตนเองดังกล่าว


ที่ผ่านมาผมเป็นส.ส.3 สมัยในพื้นที่ไม่เคยเกิดเหตุยิงกันรุนแรงอย่างนี้


"ผมทำหน้าที่ไม่เคยใช้อิทธิพลไม่เคยรังแกและคิดร้ายกับใคร จึงไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเหตุร้ายกับผมเช่นนี้ ต่อไปนี้ผมคงจะระวังตัวมากขึ้นและปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจที่จะหาตัวผู้กระทำมาลงโทษตามกฎหมายและผมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่"นายสุพร กล่าว

ที่ผ่านมาตนเคยมีความขัดแย้งกับคู่แข่งจริงแต่เมื่อมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในจ.นครราชสีมา

มาเคลียร์เรื่องก็จบกันไป ตนยืนยันว่าเมื่อคุยกันแล้วจบก็คือจบจับมือกันอย่างลูกผู้ชาย แต่ตนไม่รู้ว่าเขาจะจบหรือเปล่าไม่ทราบ สำหรับอนาคตการเมืองของตนนั้นตนเป็นอดีตกก.บริหารพรรคไทยรักไทยและเป็น 1 ใน 111 คน ที่ถูกตัดสิทธิ์เว้นวรรค 5 ปี แต่ทางการเมืองตนยังสู้ต่อและหาคนลงสมัคร ส.ส.แทนตน และตนได้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนทุกวันไม่ได้หยุด ซึ่งตนมีฐานและมีแกนนำชาวบ้านที่ให้ความเชื่อถืออยู่มากถึงแม้ตนไม่ได้ลงสมัครส.ส.ถ้าตนส่งใครชาวบ้านก็ต้องเลือกเพราะชาวบ้านรักตน หลังเกิดเหตุยังไม่ได้หารือผู้ใหญ่ทางการเมืองเลย แต่ตนจะไม่ท้อและจะขอทำงานการเมืองรับใช้พี่น้องประชาชนต่อไป

"ผมมีความเชื่อมั่นว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. เป็นคนดีและผมให้ความเคารพนับถือและยกย่องท่านมาตลอด

จึงขอฝากให้ท่านส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้ได้ตัวคนร้ายและผู้บงการที่แท้จริงมาลงโทษให้ได้ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเป็นข้อครหาว่าขนาดเป็นถึงอดีต ส.ส.ที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนยังถูกคุกคามและถูกอิทธิพลครอบงำ"นายสุพร กล่าว


สำหรับนายสุภรณ์ ซึ่งเปลี่ยนชื่อใหม่ว่าสุพร อัตถาวงศ์ อายุ 43 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นอดีต ส.ส.เขต 12 นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย

ก่อนหน้าจะเป็น ส.ส.พรรคไทยรักไทย เคยลงสมัคร ส.ส.เขตดังกล่าว สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่สอบตก ต่อมาย้ายสังกัดพรรคไทยรักไทย ในปีพ.ศ. 2544 จนได้เป็น ส.ส.เขต 12 ติดต่อกัน 3 สมัย ช่วงเป็น ส.ส. ได้เคลื่อนไหวทางการเมืองปกป้องเป็นองค์รักษ์พิทักษ์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทยมาโดยตลอด


นายสุพร มีชื่อดังขึ้นอีกครั้ง หลังคมช.ยึดอำนาจเมื่อ 19 ก.ย.49

ได้เกิดคลื่นใต้น้ำมีเหตุเผาโรงเรียนหลายแห่งในเขตรับผิดชอบสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่ง ร.ร.สกัดนาก ตั้งอยู่ใน ต.สุขไพบูลย์ อ.เสิงสาง นครราชสีมา เป็น ร.ร.ขยายโอกาส อยู่ในพื้นที่เขตเลือกตั้งของนายสุพร ได้ถูกคนร้ายลอบวางเพลิง เมื่อปลายปี 49 ที่ผ่านมา การสอบสวนเจ้าหน้าที่ยืนยันเป็นการลอบวางเพลิง แต่ไม่สามารถจับคนร้ายได้


นายสุพร ได้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ด้วยการประกาศมอบเงิน 1 แสนบาท

ให้ผู้ที่แจ้งเบาะแสในการจับคนร้ายได้ และมอบเงินส่วนหนึ่งสร้างอาคารเรียนทดแทนหลังที่ถูกเพลิงไหม้ ต่อมาได้ออกมาแสดงตนว่าไม่เคยเคลื่อนไหวเป็นคลื่นใต้น้ำ เป็นส.ส.คนแรกในซีกอำนาจเก่า ที่อยู่ภาคอีสาน ออกมารายงานตัวกับกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี ทั้งๆที่ยังไม่ได้เชิญตัวมาสอบปากคำแต่อย่างใด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์