จับเจ้าแม่ร่างทรง จ้างฆ่าเจ๊จู ปมโหด-ฮุบที่ดิน

จากเหตุการณ์ 2 มือปืนบุกยิงนางสุกัญญา หรือเจ๊จู ยงพิศาลภพ อายุ 50 ปี

ภรรยานายสมชาติ ยงพิศาลภพ อายุ 52 ปี เสี่ยเจ้าของโรงไม้ทวีกิจพาณิชย์ อ.เมืองนครปฐม เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุตำรวจจับกุมคนร้ายได้ทันควันคือ นายคณิต สังข์ทอง อายุ 20 ปี คนขี่รถ จยย. และนายสมบัติ ภมรวงศ์ อายุ 42 ปี มือปืนผู้ลั่นไก

ทั้งคู่สารภาพว่า

รับว่าจ้างจากนายธาดา เวชวงศ์ อายุ 48 ปี ให้สังหารผู้ตาย ต่อมาตำรวจจับกุมตัวนายพิศิษฐ์ ห่อทอง อายุ 47 ปี เพื่อนร่วมแก๊งที่เป็นคนจัดหาอาวุธปืนได้อีกคน ส่วนนายธาดาหนีรอดไปได้ คาดว่าปมสังหารมาจากการที่ญาติผู้ตายนำตัวนายสมชาติที่ป่วยเป็นโรคจิตส่งสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพราะเชื่อว่าถูกเจ้าแม่ร่างทรงคนหนึ่งปอกลอกเอาทรัพย์สินนั้น

ล่าสุดตำรวจภาค 7 สามารถแกะรอยสืบสวนตามล่าทีมสังหารได้ยกแก๊ง รวมทั้งเจ้าแม่ร่างทรงจอมบงการอำมหิต

โดยเมื่อเวลา 08.30 น. วานนี้ (30 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 จ.นครปฐม พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.รชต เย็นทรวง รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผบก. ภ.จ.นครปฐม พร้อมชุดสืบสวนภาค 7 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งสังหารนางสุกัญญา ผู้ต้องหา 9 คนประกอบด้วย

• นายมนตรี หรือโต้ง ดาเปรม อายุ 39 ปี
• นายชูชีพ สดใส อายุ 50 ปี
• นายธาดา หรือพร เวชวงศ์ อายุ 48 ปี
• นายชาตรี ไพศาลย์ อายุ 48 ปี
• นายประพันธ์ น้อยสะอาด อายุ 43 ปี
• นายสมบัติ ภมรวงศ์ อายุ 42 ปี และ
• นายคณิต สังข์ทอง อายุ 20 ปี
ทั้ง 7 คน ให้การรับสารภาพและถูกนำตัวมาแถลงข่าว


ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ

นางนวลพร บันเทิงจิตอายุ 47 ปี เจ้าแม่ร่างทรงผู้จ้างวานฆ่า และ
• นายพิศิษฐ์ ห่อทอง อายุ 47 ปี คนจัดหาอาวุธปืน

ยังให้การปฏิเสธ ทั้ง 2 ถูกแยกควบคุมตัวไว้สอบสวน โดยนางนวลพรถูกคุมตัวอยู่ที่ สภ.อ.เมืองนครปฐม ส่วนนายพิศิษฐ์ถูกคุมตัวไว้ที่ สภ.ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม

สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาร่วมกัน คือ

ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดด้วยการใช้ จ้าง วาน ให้ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนนายสมบัติ มือปืน และนายคณิต คนขี่ จยย. ถูกตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต

พล.ต.ต.รชต เย็นทรวง รอง ผบช.ภ.7 หัวหน้าชุดจับกุม เปิดเผยถึงแนวทางการสืบสวนแกะรอยตามล่ากลุ่มผู้ต้องหาว่า

หลังจากตำรวจจับกุมตัวนายสมบัติ มือปืน และนายคณิต คนขี่ จยย. นำมาสอบสวนทั้งคู่ สารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายธาดา และไปรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุและเงินค่าจ้าง 3 หมื่นบาท จากนายพิศิษฐ์ จากนั้นตำรวจขอหมายศาลบุกจับกุมตัวนายพิศิษฐ์ได้เป็นคนต่อมา ส่วนนายธาดาหลบหนีไปได้ กระทั่งเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็สามารถตามล่าจับกุมนายธาดา ได้ที่ร้านข้าวต้ม ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 


จากการสอบสวนนายธาดายอมเปิดปากรับสารภาพถึงเรื่องทั้งหมดว่า

ก่อนเกิดเหตุ 1 สัปดาห์ ได้รับการติดต่อจากนายชาตรี ไพศาลย์ มือปืนรุ่นเก่าให้จัดหามือปืนยิงนางสุกัญญา โดยรับเงินค่าจ้างมา 3 แสนบาท แต่มาว่าจ้างนายธาดา อีกทอดในราคา 2.5 แสนบาท ให้จัดหามือปืน ต่อมานายธาดาไปว่าจ้างนายเล็ก ภมรวงศ์ น้องชายของนายสมบัติ มือปืน รับงานยิงในราคา 9 หมื่นบาท

เมื่อนายเล็กรับเงินไปแล้ว แต่ไม่กล้าลงมือทำงาน กลับเผ่นหนีออกจากบ้านไป

ภายหลังนายสมบัติทราบเรื่องจึงตัดสินใจรับงานแทนน้องชายที่เบี้ยวงานหนีไป โดยขอค่าจ้างเพิ่มอีก 3 หมื่นบาท นายธาดาก็ยอมตกลง จากนั้นได้ติดต่อนายประพันธ์ น้อยสะอาด จัดหาโทรศัพท์และรถ จยย.ให้ในราคา 6 หมื่นบาท และติดต่อนายพิศิษฐ์ จัดหาอาวุธปืนให้ในราคา 3.5 หมื่นบาท 

รอง ผบช.ภ.7 กล่าวต่อไปว่า

นายธาดายังเปิดเผยอีกว่า นายชาตรี ไพศาลย์ รับงานมาอีกทอดหนึ่งจากนายชูชีพ สดใส มือปืนรุ่นพี่อยู่ในเขต อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จากนั้นตำรวจกระจายกำลังตามล่าจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยว ข้องแต่ละคนไว้ได้ เมื่อได้ตัวนายชูชีพมาแล้ว เค้นสอบสวนทราบว่า รับงานมาอีกทอดหนึ่งจากนายมนตรี ดาเปรม คนขับรถของนางนวลพร บันเทิงจิต เจ้าแม่ร่างทรง จึงไปจับกุมตัวนายมนตรีได้ที่ ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี คุมตัวมาสอบสวนจนยอมรับสารภาพว่า นางนวลพร บันเทิงจิต เจ้าแม่ร่างทรงเป็นผู้ว่าจ้างให้จัดหาทีมสังหารนางสุกัญญา ในราคา 3.5 แสนบาท จึงไปติดต่อพรรคพวกที่อยู่ในซุ้มมือปืนช่วยจัดการจนสำเร็จ 

สำหรับชนวนเหตุสังหารโหด พล.ต.ต.รชตกล่าวว่า

จากการสอบสวนนายมนตรีให้การว่า นางนวลพรต้องการฮุบสมบัติของนายสมชาติ สามีของนางสุกัญญา เพราะมีธุรกรรมเรื่องที่ดินด้วยกันหลายสิบแปลง โดยที่ดินที่ เป็นชื่อของนายสมชาติ จะมีชื่อของนางนวลพรเข้าร่วมในเอกสารโฉนดที่ดินร่วมทั้งหมด หากนางสุกัญญาเสียชีวิต นางนวลพรจะสามารถควบคุมนายสมชาติได้ หรืออาจจะย้อนรอยมาฆ่านายสมชาติในภายหลัง จะทำให้ทรัพย์สินที่มีชื่อร่วมกันตกเป็นของนางนวลพรทั้งหมด

หลังจากนายมนตรีรับสารภาพ

ตำรวจได้ขอหมายศาลเข้าจับกุมตัวนางนวลพรได้ที่บ้านใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อกลางดึกวันที่ 29 มิ.ย. จากการตรวจค้นในบ้านพบโฉนดที่ดินและใบ ภบท.5 ของนายสมชาติ อยู่ในกระเป๋าเอกสารของนางนวลพรหลายฉบับรวมเป็นที่ดินหลายร้อยไร่ ตำรวจได้ยึดเอกสารทั้งหมดไว้ตรวจสอบเพื่อเป็นหลักฐานต่อไป ถึงแม้ว่านางนวลพรจะยังให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานมัดแน่นสามารถดำเนินคดีได้แน่นอน

ต่อมาในช่วงเย็น พล.ต.ต.รชต เย็นทรวง รอง ผบช.ภ.7 นำกำลังพร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้นร้านขายของชำชื่อร้านน้ำฝน

เลขที่ 74/194-5 หมู่บ้านริเวอร์แคว ถนนแม่น้ำแคว หมู่ 1 ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี ของนางนวลพร บันเทิงจิต เจ้าแม่ร่างทรงจอมบงการฆ่าโหด เมื่อไปถึงพบนายกำพล แซ่ลิ้ม อายุ 52 ปี คนใกล้ชิดของนางนวลพร อยู่เฝ้าร้านที่เปิดขายของตามปกติ ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ตำรวจได้ตรวจยึดเอกสารเกี่ยวกับการเงินไปตรวจสอบ อาทิ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร เอกสารคำสวดภาวนาเพื่อรอดพ้นภัยพิบัติ แผ่นซีดีการสนทนาระหว่างนางนวลพรกับนายสมชาติ สามีผู้ตาย ที่บันทึกไว้เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา และซองใส่ปืนยาว 1 อัน

พล.ต.ต.รชตเปิดเผยว่า

เดินทางมาตรวจค้นร้านของนางนวลพร เพื่อหาหลักฐานประกอบสำนวนการสอบสวน เช่น เอกสารเกี่ยวกับการเงิน คงต้องใช้เวลาตรวจสอบต่อไป  ด้านการสอบสวนไม่มีปัญหา ตำรวจดำเนินการไปตามพยานหลักฐานที่พบ ถึงแม้คดีนี้จะมีนักการเมืองใหญ่พยายามข่มขู่และกดดันการทำงานของตำรวจ ในฐานะที่รับผิดชอบการสอบสวนยืนยันว่าทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรหนักใจ หากหลักฐานพาดพิงไปถึงใครก็พร้อมจะดำเนินการอย่างเต็มที่


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์