ตร.รวมหัวบิ๊กอสมท.กดดันนักข่าวช่อง 9 เป็นพยานกล่าวหา สนธิหมิ่นฯ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2549 19:41 น.

ตำรวจคุกคามสื่อไม่เลิก รวมหัว มิ่งขวัญ กดดันนักข่าวช่อง 9 เป็นพยานกล่าวหา"สนธิ"หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พร้อมติดต่อไปยังสื่อมวลอีกหลายแห่งแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ระบุ ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังสมาคมนักข่าววิทยุฯ แล้ว

วันนี้ ( 5 เม.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สอบปากคำทีมข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท. ทีทำข่าวคำให้สัมภาษณ์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อวันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2549 ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ทางทีมข่าวได้ปฏิเสธการให้ปากคำไปหลายครั้ง แต่ได้มีความพยายามโดยประสานไปยังนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ผอ.อสมท. ให้สั่งการและบังคับให้ทีมข่าวไปให้การกับทางตำรวจ แต่ไม่มีการสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งจะส่งผลให้ทีมข่าวอาจต้องไปเป็นพยานในชั้นศาลต่อไป

แหล่งข่าวแจ้งอีกว่า ก่อนหน้านี้ทีมสอบสวนชุดนี้พยายามติดต่อไปยังสื่อมวลชนอีกหลายแห่ง ที่ได้ร่วมสัมภาษณ์นายสนธิ ในวันนั้น แต่ก็ไม่มีสื่อแห่งใดให้ความร่วมมือ เนื่องจากเห็นว่า เป็นดุลยพินิจของผู้สื่อข่าวและช่างภาพแต่ละคน

ทีมข่าวช่อง 9 ที่ถูกสอบปากคำในครั้งนี้ ได้มีการส่งเรื่องร้องเรียนไปยังสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยไปให้รับทราบแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการคุกคามสื่ออีกรูปแบบหนึ่ง แหล่งข่าวระบุ

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2549 16:54 น.

ตำรวจยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสรุปสำนวนเอาผิด สนธิ ที่มีผู้ไปแจ้งความกล่าวหาว่าหมิ่นเบื้องสูงได้เมื่อใด โดยมีผู้เข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้ว 82 ราย แต่สอบปากคำพยานไปได้เพียง 62 ราย รวมทั้งยังไม่ฟันธงจะออกหมายเรียกหรือไม่

วันนี้ (5 เม.ย.) พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วย ผบ.ตร. โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ตามที่ นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันที่ 24 หน้า 18 ลงไว้ว่า ขณะนี้มีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์แล้วจำนวน 82 ราย จึงให้พนักงานสอบสวนทั่วประเทศที่รับแจ้งความรีบเสนอผลการแจ้งความร้องทุกข์ และรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้คณะพนักงานสอบสวนชุดใหญ่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่งตั้ง ซึ่งมี พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อรวบรวมให้เป็นเรื่องเดียวกัน

พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าของคดีมีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 62 ปาก ขณะที่ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกหลายปากที่จะต้องสอบปากคำ ซึ่งคดีนี้มีพยานหลักฐานมากมาย พนักงานสอบสวน 20 คน ต้องแยกกันสอบในแต่ละประเด็น ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถสรุปสำนวนได้เมื่อใด ส่วนจะมีการออกหมายเรียกนายสนธิหรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งหากจะออกหมายเรียกได้เมื่อใดจะแจ้งให้ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามแทรกขึ้นว่าจะมีการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในการปิดถนนชุมนุมในทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ตอบว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานต่างๆ ทั้งภาพถ่ายและวิดีทัศน์ ทั้งนี้ ได้เคยแจ้งให้ทราบไปหลายครั้งแล้วว่าการชุมนุมปิดถนนกีดขวางการจราจรเป็นความผิด ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน แต่ละพื้นที่ที่มีความผิดเกิดขึ้น

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันที่ 7 เม.ย.นี้ว่า ทราบว่า ทาง บช.น.ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะใช้พื้นที่ตรงจุดไหน ต้องรอทางแกนนำแถลงอีกครั้ง โดยที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่าจะใช้พื้นที่บริเวณลานพระบรมรูป แต่ติดงานกาชาด ขณะที่อีกกระแสว่าจะมีการรวมตัวบริเวณสนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) ก่อนจะเดินไปตามจุดต่างๆ

ประเทศไทยมีชื่อเสียงมาก การชุมนุมแบบคนไทยผิดบ้างพลั้งบ้างก็ให้อภัย มีลักษณะประนีประนอมกันมาก ตำรวจในฐานะคนกลางอยากให้ทุกฝ่ายสมานฉันท์ โดยยอมเป็นเครื่องมือรองรับอารมณ์ของทุกฝ่าย ใครจะตำหนิตำรวจก็ไม่ว่า ซึ่งที่ผ่านมามีการประคับประคองสถานการณ์มา 2 เดือนแล้ว หากจะประคองอีกวันคงไม่เป็นไร พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ย้ำ

ส่วนการที่พนักงานในเครือเนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป เข้าแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มคาราวานคนจนในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังนั้น พล.ต.ท.อชิรวิทย์แถลงให้ทราบว่า ทาง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น.รับไปดำเนินการ โดยล่าสุดมีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน ซึ่งมี พล.ต.ต.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน และพ.ต.อ.ชาญ ชุณหวงศ์ รอง ผบก.น.5 ที่รับผิดชอบในพื้นที่ร่วมกับพนักงานสอบสวนของ สน.บางนา ร่วมกันสอบสวน โดยขอยืนยันว่าตำรวจจะดำเนินการตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ

สำหรับกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปิดล้อมอาคารศรีจุลทรัพย์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา โฆษก ตร.กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ได้รับความเดือนร้อนเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรเพียงรายเดียวเท่านั้น ซึ่งทางพนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ และยังไม่รายงานความคืบหน้ามายังตน