ตีนแมวปีนบ้านเสี่ย ลักสมเด็จบางขุนพรหมองค์ละแสน เร่ขายหลักร้อยตามตลาดนัด

ตีนแมวปีนบ้านเสี่ย ลักสมเด็จบางขุนพรหมองค์ละแสน เร่ขายหลักร้อยตามตลาดนัด

เมื่อเวลา 00.15น. วันที่ 28 ก.ค. ที่พักสายตรวจตู้ยามนาพร้าว ร.ต.ท.ชัชพิมุข พงษ์พจน์พิพัฒน์  และร.ต.ท.รุ่งโรจน์  พรนลินทร์ทิพย์ รองสวป.สภ.ศรีราชา ทำหน้าที่สายตรวจนาพร้าว ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคนร้ายลักทรัพย์ในเคหสถาน 

 โดยก่อนการจับกุมนั้นพ.ต.ท.สุทิน นิลแย้ม พนักงานสอบสวนสภ.ศรีราชา รับแจ้งจาก นายสมพงษ์ โกมารกุล ณ นคร อยู่บ้านเลขที่ 181/8 หมู่ 1 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าในช่วงกลางวัน มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านได้ทรัพย์สินเป็นพระเครื่องมีราคาจำนวนหลายองค์ ซึ่งมีพระสมเด็จบางขุนพรหมราคาหลายแสนบาทด้วย 1 องค์ รวมถึงสิ่งของมีค่าอีกหลายชิ้น 

 หลังรับแจ้งได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจในพื้นที่ศรีราชาให้ตรวจสอบตามแผงพระและตลาดนัดที่มีการวางแผงพระจำหน่าย

 จนสายตรวจนาพร้าวออกตรวจตามตลาดนัดในช่วงเย็นได้พบเห็นชายวัยรุ่นนำพระเครื่องมาวางขายในตลาดนัดจึงเข้าตรวจสอบพบว่ามีพระเครื่องจำนวนมากที่มีราคาเช่าหากันในราคาแพง และหนึ่งในนั้นมีพระเครื่องสมเด็จบางขุนพรหม ซึ่งมีราคาซื้อขายราคานับแสนบาทอยู่ด้วยและพระเครื่องที่มีราคาแพงจำนวนหลายองค์ด้วยซึ่งเป็นที่น่าสงสัยเพราะลักษณะท่าทางการแต่งตัวไม่น่าจะมีพระเคริ่องราคาแพงมาเร่ขายตามตลาดนัด จึงได้เข้าไปสอบแถมยังบอกขายพระสมเด็จบางขุนพรหมในราคาไม่กี่ร้อยบาท เมื่อสอบถามที่มาของพระแต่ชายวัยรุ่นกลับมีท่าทางพิรุธพูดจาวกไปวนมา ทางสายตรวจนาพร้าวจึงควบคุมชายวัยรุ่นคือนายทศพร พรมดี อายุ 24 ปีอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 1128/54 หมู่ 7 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 

เมื่อนำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพบสิ่งของอีกจำนวนหนึ่งและพระเครื่องจึงตรวจยึดและนำมาที่พักสายตรวจนาพร้าว 

หลังจากนั้นได้ทำการสอบสวนเป็นเวลานานคนร้ายก็ยังไม่ยอมเปิดปากจนผ่านไปเวลานานในที่สุดคนร้ายก็ได้ให้การรับสารภาพว่าช่วงสาย ได้แอบเข้าไปที่บ้านเลขที่ 181/8 หมู่ 1 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยแอบเข้าไปช่วงที่เจ้าบ้านไม่อยู่เดินเข้าทางด้านหลังบ้านพบมีดวางอยู่จึงใช้เป็นอาวุธงัดแงะประตู้หลังบ้านเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สินที่ห้องนอนภายในบ้านลักขโมยได้พระเครื่องจำนวนหนึ่ง และแว่นตาโอคเล่ย์  โมเดลรถยนต์ สร้อยคอเครื่องประดับ 

 หลังจากขโมยเสร็จได้เดินออกมาทางหลังบ้านและได้นำสิ่งของที่ขโมยมาได้ไปวางขายในตลาดนัดนาพร้าวในช่วงเย็นจนโดนตำรวจจับกุมดังกล่าว 

และทางตำรวจชุดจับกุมได้โทรศัพท์ติดต่อให้นายสงพงษ์ผู้เสียหาย ให้มาดูพระเครื่องว่าใช่ของตนเองหรือไม่ เมื่อนายสมพงษ์ มาเห็นพระเครื่องสมเด็จบางขุนพรหม กล่าวด้วยความดีใจว่าเป็นพระเครื่องเป็นของตนเองจริง นอกจากนี้ยังมีพระเครื่องอีกองค์ที่มีราคาซื้อขายกันหลักหมื่นบาทจนถึงหลักแสนบาท โดยกล่าวขอบคุณตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายและได้ของกลางคืนได้อย่างรวดเร็วพระเครื่องไม่สูญหายสักองค์ รวมถึงทรัพย์สินอื่นเนื่องจากคนร้ายยังไม่ได้ขายทรัพย์สินทางตำรวจไปพบเสียก่อน 

 สอบสวนเพิ่มเติมทราบว่านายทศพร เพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำได้ไม่นานในคดีลักทรัพย์ในเคหสถานเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บันทึกการจับกุมตัวและควบคุมส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์