อ.ภาคปรัชญา ฉะเพจฟักโกสต์สุดเกรียนจี้จัดการ-ซัดไม่เชื่อแต่อย่าเหยียดหยามคนอื่น

อ.ภาคปรัชญา ฉะเพจฟักโกสต์สุดเกรียนจี้จัดการ-ซัดไม่เชื่อแต่อย่าเหยียดหยามคนอื่น

"ดร. เวทิน" ลั่นต้องปรามเพจ "ฟักโกสต์" เหตุพฤติกรรมสุดเกรียน ชี้ไม่เชื่อไม่ว่าแต่อย่าเหยียดหยามคนอื่น เชื่อทุกมหาวิทยาลัยรับพฤติกรรมไม่ได้

วันนี้ ( 20 ก.ค.58 )  ดร. เวทิน ชาติกุล อาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทีนิวส์ในประเด็นร้อน เพจ FuckGhost ฟักโกสต์ : สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย ได้เผยแพร่ภาพบุคคลแสดงกิริยาไม่เหมาะสมกับนางกวัก และนางตะเคียน ที่ทำให้เกิดเสียงพิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก

โดย ดร.เวทิน ระบุว่า

ทีนิวส์ : สอบถามเรื่องที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้ครับที่อาจารย์ออกมาคอมเม้นท์เพจฟักโกสต์

เวทิน : เห็นรูปแล้วใช่ไหมครับ

ทีนิวส์ : เห็นเรียบร้อยแล้วครับ สิ่งที่เขาทำแบบนี้มันเป็นการลบหลู่หรืออย่างไรครับ

เวทิน : เป็นลักษณะของความเชื่อ ความเชื่อแบบไหนผมไม่ยุ่งนะ เข้าใจไหม คือคุณจะเชื่อว่าผีมี ผีไม่มีไม่เกี่ยว แต่ถึงเราไม่เชื่อการที่เราไปทำด้วยกริยาแบบนั้นซึ่งมันเป็นการเหยียบหยามหรือว่าการแสดงว่าของที่ตัวเองไม่เชื่อมันต่ำ มันอะไรแบบนี้ เป็นของที่เราควรสนับสนุนให้ลูกศิษย์ไปสนับสนุนของพวกนี้ไหมเข้าใจไหมครับ หมายถึงว่าลูกศิษย์เห็นพวกนี้แล้วก็อาจจะสนุกด้วยอะไรด้วย แล้วไปกดถูกใจ ผมคิดว่าไม่ควร ผมคิดว่ามันเป็นการแสดงความดูถูกความเชื่อคนอื่นด้วยกริยาที่ เขาเรียกว่าด้วยคนที่มีสามัญสำนึกเขาไม่ทำกันอ่ะ

ทีนิวส์ : อาจารย์คิดว่าเพจฟักโกสต์เป็นยังไงบ้างครับ

เวทิน : คือเป็นเพจที่เขาปฏิเสธเรื่องของพวกสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรื่องอะไรแบบนี้นะครับ ในหลายๆ อันถ้าเกิดเขามีวิธีการที่เช่นว่าทำเหมือนอาจารย์เจษฎาถูกไหมครับ เอาวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์อะไรยังไงแบบนี้ซึ่งบางส่วนเขาก็มีนะ อันนี้ก็โอเค พิสูจน์ได้แต่การลบหลู่คนละเรื่องกัน แต่มันก็คล้ายๆ ประเด็นถ้าฝรั่ง อาจจะไม่เชื่อเรื่องพระพุทธเจ้าแบบนี้ เขาเอานางแบบเปลือยมาถ่ายรูปกับพระพุทธรูป เราก็คงรู้สึกไม่ดีอะไรอย่างนั้นใช่ไหมครับ แต่ทีนี้คือว่าคนที่ไม่เชื่อนางกวักเขาอาจจะไม่รู้แต่โดยสามัญสำนึก ดูกันแล้วว่าคนปกติเขาทำแบบนั้นไหม

ทีนิวส์ : อาจารย์คิดว่าควรทำอย่างไรกับเพจนี้

เวทิน : คือผมคิดว่าต้องมีการปราม แล้วต้องมีการเฝ้าดู คือไม่ให้การทำแบบนี้ คือคุณพิสูจน์ความเชื่อ คุณพิสูจน์ไปใช่ไหมครับ แต่การพิสูจน์ต้องอยู่ในขอบเขตแห่งความเหมาะควร

ทีนิวส์ : ซึ่งตอนนี้เขาเกินเส้นนั้นอยู่ใช่ไหมครับ

เวทิน : ก็ดูรูปคิดได้ไหมครับว่ามันเกินไม่เกิน เอาให้เราไม่เชื่อมันก็ควรไหมล่ะ

ทีนิวส์ : ประเด็นเรื่องการดรอปเรียนที่อาจารย์พูดถึงจริงไหมครับ

เวทิน : จริงๆ ดรอปเรียนเป็นแบบนี้ครับ โดยผมอาจจะใช้คำพูดที่แรงไปนิดนึง คือตอนนี้มันไม่มีการเรียนการสอน มันปิดเทอมอยู่ ผมยังไม่รู้เลยว่าจะไปดรอปใครหรือดรอปในวิชาอะไร แต่จริงๆ ผมคิดว่าถ้าเกิดมีนิสิตไปกดถูกใจใช่ไหมครับ แล้วเขาไปแชร์ คือจริงๆ ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อนนะครับการถูกใจการแชร์เป็นเรื่องสาธารณะ ผมคิดว่าถ้าเขาไปกด แล้วผมคุยด้วยแล้วเขาคุยปรับความเข้าใจกันได้ ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเขาเถียงหรือเขาทำกริยาอาการอย่างนั้นขึ้นมา

ทีนิวส์ : ถ้านักศึกษาไปกดถูกใจหรือว่า ไปติดตามเพจนี้ซึ่งเขาอาจจะติดตามเพื่อศึกษาข้อมูลต่างๆ แต่ว่าไม่ไปทำแบบนี้คืออาจารย์ก็ไม่ซีเรียสใช่ไหมครับ

เวทิน : ก็ดูที่ผมเขียนสิครับ ถ้าไปกดถูกใจแล้วมันเด้งให้ผมเห็น ผมก็ไม่ได้บอกว่าถ้าคุณไปอะไรตัวนี้คือบางคนก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกับผมในเฟซบุ๊กผมก็ไปอะไรกับเขาไม่ได้ เอาง่ายๆ แล้วกัน เป็นการแจ้ง คือผมยังไม่มีการดรอปนะ ผมแจ้งล่วงหน้า จริงๆ ต้องถามลูกศิษย์ผม เขาตลกด้วยซ้ำ ไม่มีใครเป็นทุกข์เป็นร้อนด้วยซ้ำ เขายังบอกด้วยว่าไม่เห็นเดือดร้อนเลย ทำไมคนอื่นเดือดร้อนกันจัง มันมีขั้นตอนอยู่ครับ ไม่ใช่อยู่ๆ ผมจะไปทำอะไรตามอำเภอใจได้หรอก เป็นอำนาจหน้าที่หนึ่งของคนที่ต้องกำกับดูแลการสอนที่จะต้องให้การสอนเป็นไปโดยตลอดทั้งคลาส

ทีนิวส์ : จะมีการเรียกมาพูดคุยกันก่อนใช่ไหมครับ ถ้าเกิดกรณีที่เจอจริงๆ

เวทิน : ก็ถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็คิดว่า แต่ผมคิดว่าผมกับนักศึกษาส่วนใหญ่ก็คุยกันรู้เรื่อง ถ้าคุยไม่รู้เรื่องจะให้ทำไงครับ ถ้าเกิดเขาเชื่อแบบนั้นคือผมก็เปิดกว้างรับฟังนะครับ ถ้าทัศนคติของเขามองเรื่องศาสนาเป็นเรื่องดูแคลนไปแล้ว ก็คงยากที่จะไปทำความเข้าใจศาสนาอื่นที่ตนเองไม่เชื่อ

ทีนิวส์ : ในฐานะอาจารย์มีแนวทางปฏิบัติไหมครับ สมมติว่าเราเจอคนที่มีความเชื่อแบบนั้น เราควรจะทำยังไงให้เขา

เวทิน : ความเชื่อเปลี่ยนแปลงยาก คือดรอปเป็นเรื่องอะไรที่น้อยที่สุดแล้วนะ นี่คือผมประกาศก่อนยังไม่มีใครถูกดรอป คือผมแจ้งล่วงหน้าก่อนเท่านั้นเองว่าอย่าทำแบบนั้นนะผมไม่สนับสนุน แต่ถ้าคุณยังยืนยันหรือคุณยังจะกวน.. ผมก็แค่ประกาศอย่างนั้นแหละ อาจจะเป็นการใช้คำพูดมันดูว่าผมใช้คำพูดที่มันดูแล้วกระแทกกระเทือนผมขออภัย อาจจะเป็นการใช้คำพูดที่สะเทือน แต่จริงๆ แล้วลูกศิษย์เขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับผม เขาก็ยังมีการถกเถียงเรื่องนี้กันด้วยซ้ำว่าอะไรยังไง แบบที่เราคุยกันแบบนี้แหละครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

ทีนิวส์ : แนวทางปฏิบัติของอาจารย์ก็คือไม่เห็นด้วยกับสิ่งพวกนี้อยู่แล้วใช่ไหมครับ

เวทิน : ไม่เห็นด้วยและไม่สนับสนุน เอาอย่างนี้ครับมหาลัยจะยอมได้ไหมครับที่จะมีลูกศิษย์แล้วจบออกไปไปทำแบบนั้น แล้วในฐานะคุณเป็นอาจารย์มหาลัยคุณเฉยๆ คุณทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ผมไม่ทราบนะครับ แต่ผมคิดว่าประสบการณ์ที่ผมผ่านมาโดยส่วนตัวผมยอมไม่ได้หรอก ถ้ามหาลัยยอมผมก็ไม่รู้อ่ะ

ทีนิวส์ : อาจารย์อยากจะฝากอะไรถึงคนที่ทำแบบนี้ตอนนี้อยู่ครับ

เวทิน : ไม่ฝากครับ ไม่ฝากครับ เรื่องนี้ผมคิดว่าสุดท้ายแล้วสังคมจะดูเองครับว่ามันเหมาะควรหรือเปล่า สังคมจะดูเองแหละครับว่าเป็นสิ่งที่ควรทำหรือไม่ เราเห็นสองรูปนั้นแล้วผมว่าคำตอบมันอยู่ในสองรูปนั้นด้วยสำนึกคนที่ไม่ต้องเรียนสูง ชาวบ้านอะไรแบบนี้ก็รู้ว่าควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร ถ้าเราสอนให้ลูกศิษย์ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรไม่ได้ผมคิดว่าการศึกษาของสังคมนี้ลำบากครับ

ขอบคุณข่าวจาก TNEWS

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์