พบโอนหุ้นให้สาวปริศนาอีก40ล. ยันเสี่ยรับเหมาถูกปลอมลายเซ็น

พบโอนหุ้นให้สาวปริศนาอีก40ล. ยันเสี่ยรับเหมาถูกปลอมลายเซ็น

17 ก.ค. 58 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ อายุ 54 ปี พร้อมด้วย นายกันต์ แซ่ตั้ง อายุ 22 ปี พี่สาวและลูกชายของนายชูวงษ์ แซ่ตั้ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน และประธานกลุ่มวิทยาตลาดทุน กิจการเพื่อสังคม (วตท.) รุ่นที่ 20 และนายอเนก คำชุ่ม ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ที่เกี่ยวข้องและมีส่วนรู้เห็นการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ให้กับบุคคลที่ 3โดยไม่ชอบ โดยนำเอกสารเกี่ยวกับการโอนหุ้นดังกล่าว มามอบไว้เป็นหลักฐาน
 
นายอเนก กล่าวว่า ทางนางวันเพ็ญ และนายกันต์ เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ให้กับบุคคลที่ 3 หลังจากทางครอบครัวพบความผิดปกติในการโอนหุ้นดังกล่าว ทั้งนี้ เมื่อ 2 วันที่แล้ว พวกตนได้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีพร้อมขอให้ตำรวจตรวจสอบการโอนหุ้นมูลค่า 228 ล้านบาท ที่ถูกโอนไปยังผู้หญิงรายหนึ่งเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นการแจ้งความเพิ่มเติมในส่วนของการโอนหุ้นหลักทรัพย์จำนวน 3 รายการมูลค่า 40 ล้านบาท ที่ถูกโอนไปยังผู้หญิงอีกรายเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากทางครอบครัวได้นำลายเซ็นการโอนหุ้นไปให้พนักงานในบริษัทตรวจสอบได้รับการยืนยันว่าไม่ใช่ลายเซ็นของนายชูวงษ์ แน่นอน อย่างไรก็ดี ในรายละเอียดของลายเซ็นว่าจริงหรือเท็จ หรือเป็นของบุคคลใดนั้น ขอให้ตำรวจกองปราบช่วยตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้การแจ้งความดำเนินคดีกับใครบ้างนั้น ตนยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ แต่ยอมรับว่ามีจำนวนมากกว่า 1 คน

นายอเนก กล่าวอีกว่า ในเรื่องการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ นั้น เบื้องต้นทางครอบครัวยังไม่ได้เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุหรือการฆาตรกรรม แต่ยอมรับว่ายังมีอีกหลายประเด็นที่ติดใจ จึงขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสรุปข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเป็นอย่างไร และมีใครเกี่ยวข้องหรือไม่ ทั้งนี้กรณีที่เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.บรรยิน เข้าพบ ผบ.ตร. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจนั้น ก็ถือเป็นสิทธิตามปกติ ในส่วนของข้อเท็จจริงก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน
 
"ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างนายชูวงษ์ กับ พ.ต.ท.บรรยิน เท่าที่ทราบ พบว่าเคยมีการร่วมลงทุนซื้อที่ดินที่จังหวัดนครสวรรค์ มูลค่าประมาณ 80-90 ล้านบาท ซึ่งเป็นการซื้อร่วมกันในอัตราส่วน 60-40 โดยใส่ชื่อภรรยาของนายชูวงษ์ เป็นผู้ถือครองโฉนดดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบว่ามีการร่วมลงทุนซื้อที่ดินจังหวัดพิษณุโลกอีก 1 แห่ง โดยนายชูวงษ์ได้วางเงินมัดจำร่วมกับ พ.ต.ท.บรรยิน ไปแล้วจำนวน 5 ล้านบาท ก่อนที่ต่อมาทางญาติและครอบครัวจะไม่เห็นด้วยกับการลงทุนกับที่ดินผืนดังกล่าวจึงได้พยายามถอนเงินมัดจำกลับคืนจาก พ.ต.ท.บรรยง 2 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ย ส่วนเรื่องการที่นายชูวงษ์ ไปรับเหมาก่อสร้างบ้านให้กับ พ.ต.ท.บรรยิน นั้น ขณะนี้ได้ยุติการดำเนินการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทาง พ.ต.ท.บรรยิน ได้ขอเปลี่ยนผู้รับเหมารายใหม่ดำเนินการสร้างบ้านให้แทน" นายอเนก กล่าว

นายอเนก กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ และความคืบหน้าเรื่องการดำเนินคดีอาญา ขณะนี้กำลังรอผลการตรวจชันสูตรศพจากสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข เป็นผู้ดำเนินการต่อไป ที่ผ่านมาทางครอบครัวของนายชูวงษ์ ไม่เคยพูดหรือระบุว่าการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เกิดจากการฆาตรกรรม เพียงแค่ตั้งข้อสงสัยและอยากให้มีการพิสูจน์ทราบผลการเสียชีวิตออกมาเป็นที่กระจ่างชัดเท่านั้น ขณะเดียวกันเบื้องต้นทราบจากพนักงานสอบสวน บก.ป.ได้เชิญตัวโบรคเกอร์มาสอบปากคำแล้ว 1 ราย ซึ่งในรายละเอียดขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินการ รวมทั้งทราบว่าเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกด้วย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์