เชิญเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ สอบคดี-ยิงสมยศ พบชื่อในไดอารี่จ้างว่าคดี

เชิญเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ สอบคดี-ยิงสมยศ พบชื่อในไดอารี่จ้างว่าคดี


ชุดสืบสวนคดีสังหารอดีตเจ้าพ่อคาเฟ่ "สมยศ สุธางค์กูร" เตรียมเรียกสอบนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง "ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม" หลังตรวจสอบข้อมูลในไดอารี่ของผู้ตาย พบรายละเอียดการว่าจ้างด้วยเงิน 5 ล้านบาท ให้วิ่งเต้นคดีถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง นอกจากนี้ ยังมีนักโทษยาเสพติดทุ่มเงินถึง 18 ล้านบาท ให้ช่วยเหลือคดียาเสพติด ขณะเจ้าตัวยังถูกคุมขังอยู่ที่คุกเขาบิน จ.ราชบุรี ส่วนการไล่ล่ามือปืนชุดสืบสวนนครบาลประสานชุดสืบสวนกองปราบฯ ให้ช่วยหาข่าวตามซุ้มมือปืนว่า ใครเป็นคนรับงานสังหารเหยื่อมาบ้าง

กรณี 2 มือปืนโหดบุกจ่อยิงนายสมยศ สุธางค์กูร อายุ 62 ปี อดีตเจ้าพ่อคาเฟ่เสียชีวิตคาที่ ขณะกำลังเดินมาขึ้นรถเมอร์เซเดส เบนซ์ ทะเบียน ฌร 3636 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถหลังร้านเฮง หูฉลาม ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง เมื่อค่ำวันที่ 29 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตั้งประเด็นไว้หลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นความขัดแย้งเรื่องหนี้สินการพนัน ปัญหาคดีความที่ผู้ตายรับเป็นทนายวิ่งเต้นคดี ขณะที่พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยจากภาพสเกตช์ 2 คนไว้แล้วนั้น

ความคืบหน้าจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ก.ค. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.กล่าวว่า ชุดสืบสวนสอบสวนยังตรวจสอบประเด็นการสังหารนายสมยศทุกประเด็นที่ตั้งสมมติฐานไว้ รวมถึงประเด็นธุรกิจที่ตั้งประเด็นไว้เพิ่มเติม ส่วนประเด็นความขัดแย้งในครอบครัวก็ยังไม่ได้ตัดทิ้งเช่นกัน คดีมีความคืบหน้าไปเกิน 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว การทำงานของชุดสืบสวนคลี่คลายคดีไม่ได้มีอุปสรรคอะไร ขณะนี้ตั้งไว้ทั้งหมด 5 ประเด็น ถามว่า จะสามารถจับผู้ต้องหาได้หรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ตอบว่า ได้แน่นอน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นฆ่าที่ตั้งไว้ 5 ประเด็นได้แก่ เรื่องหนี้สินการเล่นพนันกับกลุ่มนางศุภนิดา หรือก้อย นรรัตน์ อายุ 48 ปี และนายสมชัย นิตยา หรือเล็ก ชุมพร อายุ 51 ปี สามีของนางศุภนิดา ข้อพิพาทฟ้องร้องเรื่องที่ดินย่านพระราม 9 เรื่องจ้างวิ่งเต้นช่วยเหลือคดี ความขัดแย้งกันในครอบครัว และปมธุรกิจ

ด้าน พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. หัวหน้าชุดสืบสวนคลี่คลายคดีเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้าง รวมทั้งผู้จ้างวานมือปืนก่อเหตุ ส่วนจะเป็นผู้ที่ใกล้ชิดนายสมยศหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งต้องสอบพยานที่เกี่ยวข้องอีกหลายปาก ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบหาบุคคลผู้ที่รู้ความเคลื่อนไหวของนายสมยศ เพราะคนร้ายมาดักยิงที่ร้านเฮง หูฉลาม ต้องมั่นใจว่าเป้าหมายมาที่ร้านดังกล่าวแน่นอน ชุดสืบสวนสอบปากคำพยานไป 10 กว่าปากแล้ว ส่วนการติดตามตัวมือปืน ชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีเพิ่มเติม และยังเรียกพยานมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยให้น้ำหนักการสังหารเกี่ยวกับเรื่องหนี้สินการพนัน

ที่ บก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น.เผยว่า เรื่องประเด็นความขัดแย้งทางคดีความที่ผู้ตายเข้าไปเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ติดต่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการว่าจ้างให้ผู้ตายไปว่าความคดีต่างๆ ให้นำเอกสารรายละเอียดของคดีมามอบให้ รวมทั้งเข้ามาให้ปากคำแล้วโดยแยกเป็นคดีไป เนื่องจากมีทั้งหมด 10 กว่าคดี ส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติด อยู่ระหว่างอุทธรณ์และฎีกา วงเงินเป็นหลัก 10 ล้านบาทขึ้นไปต่อคดี เจ้าหน้าที่ได้แจกแจงแต่ละคดีไล่เรียงตามลำดับความสำคัญลงมา จะเรียกคดีที่มีความสำคัญมาสอบปากคำก่อน ขณะนี้ตอบรับว่าจะเข้ามาสอบปากคำ 2 รายช่วงบ่ายของวันนี้ ส่วนเรื่องที่ว่ามีประเด็นใหม่เกี่ยวกับเรื่องคดีความเข้ามาเพิ่มนั้น เป็นคดีที่มีบุคคลสำคัญรายหนึ่งติดต่อให้ผู้ตายว่าความให้ และไม่ใช่คดีเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าเป็นใคร

พล.ต.ต.สมบัติเผยต่อไปว่า สำหรับประเด็นที่ผู้ตายถูกโกงเงินพนันไพ่ 4 ล้านบาท เรียกกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำหมดแล้ว ขณะนี้ยังไม่พบว่าผู้ตายถูกโกงเงินในวงไพ่อื่นหรือไม่ ส่วนเรื่องประเด็นการสอบปากคำบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดตอนนี้สอบไปหมดแล้ว หากพบหลักฐานหรือมีประเด็นใหม่ขึ้นมา ต้องเรียกมาสอบเพิ่มอีก ส่วนประเด็นโทรศัพท์ของผู้ตายที่ติดต่อกับใครก่อนเสียชีวิตรวบรวมหลักฐานข้อมูลต่างๆไว้แล้ว บุคคลที่ทราบว่าผู้ตายจะไปที่ร้านเกิดเหตุนั้นมีเพียง 3 คนคือ ผู้ตายเอง ภรรยาผู้ตาย และนางศุภนิดา หรือก้อย นรรัตน์ แต่ยังมีบุคคลอื่นที่ติดต่อผู้ตายอีก ยังไม่ทราบว่าเป็นใครอยู่ระหว่างตรวจสอบ สำหรับการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีของคนร้าย แต่ยังไม่มีจุดสิ้นสุดต้องทำต่อไปเรื่อยๆ สำหรับเรื่องกลุ่มมือปืนยังไม่ได้เจาะจงว่าเป็นกลุ่มมือปืนจากซุ้มใด ในการประชุม บก.สส.บช.น. เชิญตำรวจกองปราบปรามมาร่วมด้วย โดยให้กองปราบฯรับเรื่องนี้ไปดำเนินการ เนื่องจากมีบัญชีกลุ่มมือปืนอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องที่ว่าเจ้าหน้าที่ได้เชิญนายเอกผู้จัดการส่วนตัวของ "ดาว มยุรี" นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ที่สนิทสนมกับผู้ตายมาสอบปากคำ เพราะอาจรู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับความขัดแย้งของผู้ตาย แต่จากการสอบปากคำเจ้าตัวให้การว่า รู้จักกันตั้งแต่สมัยที่ผู้ตายทำคาเฟ่ แต่ไม่ได้สนิทสนมอะไรมาก เพียงแค่ติดต่อให้นักร้องมาร้องเพลงเท่านั้น ส่วนนายวิศิษฎ์ สัจพจน์นุกูล เจ้าของสนามไดรฟ์กอล์ฟนัมเบอร์วันในซอยสหการประมูล ยังไม่เข้ามาให้ปากคำ แต่พูดคุยข้อมูลเบื้องต้นไว้แล้วจะเรียกสอบปากคำต่อไป

มีรายงานว่า จากการตรวจสอบไดอารี่ของนายสมยศ หลักฐานสำคัญที่ผู้ตายเขียนเรื่องราวต่างๆ บันทึกเอาไว้เป็นหลักฐานก่อนถูกสังหาร โดยบันทึกคดีที่ช่วยเหลือและวิ่งเต้นต่างๆ 20 คดี ตามที่ชุดสืบสวนตั้งประเด็นไว้ว่าอาจจะเป็นชนวนให้ผู้บงการจ้างมือปืนมายิง ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.ตรวจสอบคดีทั้งหมดแล้วพบว่ามีอยู่ 2 คดีที่ชุดสืบสวนให้ความสนใจเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และเรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพื่อวิเคราะห์หามูลเหตุการสังหาร คดีแรกชุดสืบสวนจะเชิญนายชนม์สวัสดิ์ หรือเอ๋ อัศวเหม อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ นักการเมืองดังแห่ง จ.สมุทรปราการ อดีตสามี เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ดาราชื่อดัง เพื่อขอข้อมูล หลังตรวจสอบสมุดบันทึกนายสมยศระบุว่า นายชนม์- สวัสดิ์ให้ช่วยเหลือคดีที่กำลังจะถูกตัดสินกรณีตัดสิทธิ์ให้เว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี เป็นเงินจำนวน 5 ล้านบาท มีข้อเท็จจริงรายละเอียดเป็นอย่างไร ส่วนอีกคดีนักโทษคดียาเสพติดที่ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี ติดต่อให้ช่วยเหลือเรื่องคดีและจ่ายเงินล่วงหน้ามาแล้วถึง 18 ล้านบาท ทั้ง 2 คดี เป็นส่วนหนึ่งใน 20 คดีที่นายสมยศบันทึกไว้ในไดอารี่

ส่วนความคืบหน้าที่ สน.คลองตัน พ.ต.ท.กู้เกียรติ จันทร์พุ่ม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.คลองตัน เผยว่า เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) เชิญตัวนายปริญญา หรือปีเตอร์ ปิยะภาค เพื่อนชายคนสนิทของนางศุภนิดา หรือก้อย นรรัตน์ มาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมในประเด็นเดิม ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม ส่วนพยานอีก 2 คน บก.สส.บช.น.จะเชิญตัวไปสอบปากคำ โดยประสานพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เข้าร่วมสอบปากคำด้วย อยู่ระหว่างรอการประสานงาน สำหรับพยานรายใหม่หากมีข้อมูล บก.สส.บช.น.จะเป็นผู้สอบปากคำเอง แต่จะเรียกพนักงานสอบสวนของ สน.คลองตัน ไปด้วย เพื่อให้ข้อมูลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน รวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายตั้งแต่ร้านเกิดเหตุไปตามเส้นทางหลบหนีถึงซอยเสรีไทย 11 เพื่อนำไปให้บริษัทภาพยนตร์แห่งหนึ่งใช้โปรแกรมพิเศษทำภาพให้ชัดขึ้น เพื่อจะนำมาเปรียบเทียบดูว่า คนร้ายที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นคนเดียวกับคนที่ก่อเหตุหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้มีเพียงแค่หมวกเท่านั้นที่คล้ายคลึงกับหมวกที่คนร้ายใส่ในวันเกิดเหตุ ส่วนรถ จยย.ที่ใช้ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบดูว่ารถ จยย.เป็นยี่ห้อและรุ่นใด ชุดคลี่คลายคดีคาดว่าคนร้ายน่าจะเปลี่ยนรถหรือมีรถเก๋งมารับไปหลังก่อเหตุ เป็นที่น่าสังเกตว่า คนร้ายไม่น่าจะใช่มืออาชีพ เนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุใช้เวลามาดักรอนานเกินไป และไม่ยอมลงมือตั้งแต่นายสมยศมากินข้าว เหมือนจะรอความชัดเจนอะไรบางอย่าง และระหว่างที่คนร้ายรอนายสมยศเข้าไปรับประทานอาหารมีท่าทางกระวนกระวาย ส่วนคนชี้เป้าน่าจะเป็นคนขี่รถ จยย. และปรกตินายสมยศมาที่ร้านจอดรถด้านหน้า

 แต่ในวันเกิดเหตุนำรถมาจอดหลังร้านทั้งที่ด้านหน้าร้านยังมีที่จอดอยู่ นอกจากนี้ยังเดินลงมาบอกให้ รปภ.เปิดประตูรถให้ด้วย จนมาถูกยิงเสียชีวิต


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์