เดนนรกฆ่าโหด จ่อยิง3ศพ ไม่เว้นเด็ก1ขวบ

มีอุบัติเหตุรถชนคนเสียชีวิตบนถนนสายสระบุรี-หล่มสัก ระหว่างหลัก กม.ที่ 56-57 ฝั่งตรงข้าม ร.ร.บ้านทุ่งตาแก้ว หมู่ 5 ต.ม่วงค่อม ไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยพ้งไล้ 16 ลำนารายณ์ ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลนคู่ขนาน ฝั่งขาเข้าเมืองสระบุรี บริเวณคอสะพานคอนกรีตข้ามห้วยทุ่งตาแก้ว พบรถ จยย.สามล้อพ่วงข้างแบบซาเล้ง สีแดง จอดชิดกับราวสะพาน

ใกล้รถซาเล้งพบศพนายสมจิตร์ จีนปู่ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1 หมู่ 6 บ้านหงษ์ไทย ซอย 1 ต.เขาแหลม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี

นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต มีบาดแผลที่ศีรษะและลำตัวเลือดไหลนองถนน ห่างจากรถซาเล้งไปกลางถนนพบศพ นางซ่อนกลิ่น ภูมิเมือง อายุ 42 ปี ภรรยาของนายสมจิตร์ เสียชีวิตในสภาพศีรษะเละจำใบหน้าเดิมไม่ได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจดบันทึกที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ศพ ส่งไปให้ แพทย์ชันสูตรที่ รพ.ชัยบาดาล จากการชันสูตรร่วมกันของตำรวจและ แพทย์เวรอย่างละเอียดพบว่าสาเหตุการเสียชีวิตไม่ใช่อุบัติเหตุรถชนธรรมดา เนื่องจากแพทย์พบว่าศพนายสมจิตร์มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืน .38 เข้าที่ลำตัว แขนซ้าย และแผ่นหลังรวม 4 นัด ส่วนศพนางซ่อนกลิ่น ถูกยิงด้วยปืนลูกซองที่ศีรษะจนใบหน้าหายไปทั้งแถบ
จากการสอบปากคำนายพอเจตต์ จีนปู่ อายุ 24 ปี ลูกชายนายสมจิตร์ และเป็นพ่อของ ด.ช.อรรถพล ให้การว่า

นายสมจิตร์มีอาชีพหาเก็บของเก่าและรับจ้างทั่วไป เลิกกับแม่ตนและมาได้นางซ่อนกลิ่นเป็นภรรยาใหม่ ก่อนเกิดเหตุเวลา 01.00 น. ด.ช.อรรถพล ผู้ตายทั้ง 2 คน เป็นผู้เลี้ยงดูอยู่ มีอาการเป็นไข้ตัวร้อนจัด นายสมจิตร์ และนางซ่อนกลิ่น เป็นปู่และย่า จึงนำตัวขึ้นรถซาเล้งไปหาหมอที่ รพ.ชัยบาดาล กระทั่งมีผู้ไปส่งข่าวให้ทราบว่าทั้ง 3 คนเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามาจากเรื่องอะไร แต่ในระยะหลังนี้นายสมจิตร์มักมีอาการเครียด และบ่นกลุ้มใจ เนื่องจากมีเพื่อนบ้านคนหนึ่งเข้าใจผิดเกี่ยวกับกรณีอุบัติเหตุที่มีผู้ขี่รถ จยย.ไปพลิกคว่ำเสียชีวิตด้วยตนเอง แต่ญาติของผู้ตายกลับกล่าวหาว่านายสมจิตร์ขี่รถซาเล้งตัดหน้า ทำให้รถ จยย.ล้ม ทั้งๆที่นายสมจิตร์ไม่ได้ทำ

คดีนี้คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงว่าคนร้ายที่จิตใจอำมหิตโหดเหี้ยมรายนี้เป็นใคร ลงมือฆ่าพ่อและลูกของตนรวมทั้งแม่เลี้ยงพร้อมกันถึง 3 ศพ อยากวิงวอน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ให้เร็วไวเนื่องจากคดีนี้คนฟร้ายมีจิตใจโหดเหี้ยมมาก ฆ่าได้แม้แต่เด็กตัวเล็กๆ ตาดำๆ ที่ไม่มีทางสู้

ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ท.วรชิต กอบกิจเกิดดี รอง ผกก.สภ.ต.ม่วงค่อม พ.ต.ท.มานัส จงวิมาณสินธิ์ สว.วท.ภ.จ.ลพบุรี และ ร.ต.ต.สำเริง แนวอินทร์ ร้อยเวร เจ้าของคดี เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ และรถซาเล้ง


เพื่อหารายละเอียดหลักฐานเพิ่มเติม ปรากฏว่าพบรอยเลือดหยดอยู่ที่เบาะนั่งคนขับ และพบหัวกระสุนปืน .38 ติดคาอยู่ที่เครื่องยนต์ใต้เบาะนั่ง 1 หัว ส่วนในกระบะรถซาเล้งพบตะกร้าใส่ผ้าอ้อม ขวดนม และของใช้เด็กเล็กวางอยู่ 1 ใบ จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ตรงจุดที่นายสมจิตร์ นอนเสียชีวิตพบว่ามีรอยเลือดกระเซ็นไปติดอยู่แผงเหล็กราวสะพานจำนวนมาก พร้อมทั้งมีรอยเลือดหยดเป็นทางย้อนจากจุดจอดซาเล้งไปตามพื้นถนนเป็นทางยาวราว 100 เมตร ใกล้กับศาลาที่พักผู้โดยสาร พบขวดเครื่องดื่มคาราบาวแดง และกาแฟกระป๋อง วางอยู่ริมถนน จึงเก็บไว้ เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายที่ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และคงใช้รถ จยย.เป็นพาหนะ

จอดคอยเหยื่ออยู่ที่ศาลาที่พักผู้โดยสารซึ่งเป็นที่เปลี่ยวเมื่อเห็นนายสมจิตร์ขับรถซาเล้งผ่านมาช้าๆเพราะมีเด็กเล็กมาด้วย จึงปรี่เข้าไปใช้ปืน .38 จ่อยิงใส่ในระยะประชิด กระสุนถูกลำตัวของนายสมจิตร์ทำให้หมดสติ เลือดไหลหยดไปตามทาง และรถซาเล้งวิ่งไหลไปหยุดจอดอยู่ที่ราวสะพาน จากนั้นคนร้ายจึงขี่รถ จยย. ตามไปยังจุดที่ ซาเล้งหยุด เพื่อดูให้แน่ใจว่านายสมจิตร์เสียชีวิต และใช้ปืนลูกซองยิงใส่นางซ่อนกลิ่นที่พยายามจะวิ่งหลบหนี ก่อนหันมายิง ด.ช.อรรถพลเพื่อเป็นการฆ่าปิดปาก เพราะเกรงเด็กจะจำหน้าได้ ส่วนสาเหตุการสังหารโหดครั้งนี้ คาดว่าอาจมาจากความแค้นส่วนตัว ซึ่งตำรวจจะเร่งสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ