4 พี่น้องปล่อยโฮ แม่ติดคุกเพราะป้องกันตัว ชูป้ายผ้าร้องขอความเป็นธรรม

4 พี่น้องปล่อยโฮ แม่ติดคุกเพราะป้องกันตัว ชูป้ายผ้าร้องขอความเป็นธรรม

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 กรกฎาคม  ที่ศาลจังหวัดตรัง 4 พี่น้องครอบครัวชีนะพันธ์  ซึ่งประกอบไปด้วย  น.ส.ปาจรีย์ อายุ 18 ปี

ซึ่งเพิ่งจะจบการศึกษาจากโรงเรียนสภาราชินี โรงเรียนประจำจังหวัดตรัง นายวรินทร์ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ น.ส.สิรีธร อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนสภาราชินี และด.ช.วรุฒม์ อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนวิเชียรมาตุ โดยทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 165/3 ซ.สวนพริก ถ.ตรัง-ปะเหลียน ในเขตเทศบาล ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เดินทางมายังหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้กับ นางปิยพร ขุนนุ้ย อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นแม่ โดยก่อนหนานี้ ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษา พิพากษาจำคุกนางปิยพร ขุนนุ้ย อายุ 54 ปี ผู้เป็นมารดา อาชีพขายมะพร้าวขูดอยู่ในตลาดสดเทศบาลย่านตาขาว  ข้อหาทำร้ายร่างกายให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หลังฟังคำพิพากษา พี่น้องทั้ง 4 คน พร้อมนายประจำ ชีนะพันธุ์ อายุ 48 ปี ผู้เป็นพ่อ พร้อมญาติๆ อีกประมาณ  5-7 คน กอดคอกันร้องไห้

เนื่องจาก เมื่อเดือนมกราคม 2555 นางปิยพร ขุนนุ้ย ผู้ต้องขัง มีเรื่องทะเลาะกันกับพ่อค้าขายมะพร้าวขูด ซึ่งมีแผงขายอยู่ใกล้กันซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ จำนวน 5 คน


โดยถูกพ่อค้าเหล่านั้นรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บ และขณะชุลมุนนางปิยพรได้ถือมีดพร้าอยู่ในมือและได้เหวี่ยงไปถูกหน้าอีกฝ่าย จึงถูกรุมหนักขึ้น
และหลังเกิดเหตุต่างฝ่ายต่างก็แจ้งความข้อหาว่าถูกอีกฝ่ายทำร้ายร่างกาย โดยที่อีกฝ่ายแจ้งความว่าผู้ต้องขัง คือนางปิยพร พยายามฆ่าพวกเขา และผู้ต้องขังก็มีการแจ้งความกลับไปว่า ถูกชาย 5 คนรุมทำร้ายร่างกาย และมีการสู้คดีกันกว่า 3 ปี โดยศาลชั้นต้นตัดสินนางปิยพร จำคุก 4 เดือน ปรับ 31,000 บาท ศาลอุทรณ์ ลดโทษลง สั่งจำคุก 2 เดือน 20 วัน และสุดท้ายวันนี้ (2 ก.ค.58 ) ศาลฎีกา ตัดสินจำคุกยืนตามศาลอุทรณ์

นายประจำ กล่าวอีกว่า ตนยอมรับในคำตัดสินของศาลแต่รู้สึกข้องใจในสำนวนของพนักงานสอบสวน

ที่ขาดความรอบคอบจนทำให้เมียของตนต้องติดคุกตอนนี้ชีวิตครอบครัวตนและลูกๆทั้ง4 คน ลำบากมาก หลังจากเกิดคดีนี้ต้องเป็นหนี้เป็นสินกว่า  4 แสนบาท ตนอยากทราบว่า ความยุติธรรมมีอยู่จริงหรือไม่   เหตุผลที่ตนปล่อยให้เวลาเนิ่นนานโดยไม่ออกมาเรียกร้องใดๆ เพราะตนและครอบครัวคิดว่า ไม่ผิด และเคยเชื่อมาตลอดว่าความยุติธรรมมีจริง อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้หน่วยงานใดก็ได้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ เพื่อพยุงไว้ซึ่งความยุติธรรม

หลังจากฟังคำพิพากษา เด็กๆ ทั้ง 4 คน และครอบครัวมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์มีการนำป้ายผ้า พร้อมเขียนข้อความ ถามหาความยุติธรรม ไปยืนหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง
โดยมีนายธีรวุธ เขียวดี นิติกร สำนักงานยุติธรรม จ.ตรัง นายวิโรจน์ ทองแก้ว ทนายความที่ปรึกษา สนง.ยุติธรรม มาสอบถามข้อเท็จจริง พร้อมเชิญไปหารือที่สำนักงานฯ

นายธีรวุธ เขียวดี นิติกร สนง.ยุติธรรม จ.ตรัง กล่าวว่า  ตนต้องขอดูสำนวนคดีทั้งหมดก่อนว่าจะสามารถรื้อคดีได้หรือไม่ เนื่องจากคดีนี้ศาลฎีกาได้พิพากษาไปแล้วในทางคดีถือว่าสิ้นสุด แต่เบื้องต้นจะรับเรื่องไว้ก่อน

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์