ล่าบงการฆ่าผู้พิพากษาสมทบ โทรถามมือปืน-งานสำเร็จไหม

มือปืนฆ่าเศรษฐินีโรงไม้และผู้พิพากษาสมทบอย่างอุกอาจกลางวันแสกๆ กลางเมืองนครปฐม


แต่ตำรวจก็ตามรวบตัวได้ทันควัน มิหนำซ้ำยังเตรียมล่าตัวผู้บงการ ที่หลังก่อเหตุโทรถามมือปืนว่า งานสำเร็จไหม

นับตั้งแต่พ้นโทษออกมาจากเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรีเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน "สมบัติ ภมรวงศ์" วัย 42 ปี อดีตผู้ต้องขังคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น ก็ไม่ได้มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ตรงกันข้ามเขากลับทำในสิ่งที่ผิดมากขึ้นไปอีก เมื่อตบปากรับคำลูกพี่ใหญ่ให้ทำงาน "รับจ้างฆ่าคน" ในวงเงินค่าจ้างเพียง 3 หมื่นบาท

15 เดือนก่อนหน้านี้ สมบัติต้องย้ายที่อยู่จากบ้านเลขที่ 255 ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

เข้าไปอยู่ในแดนกำแพงกรรม เพราะไปทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้รู้จักกับขาใหญ่ในเรือนจำคนหนึ่งที่ใครๆ ก็เรียกขานนามว่า "โก๊ะ" โดยสมบัติให้ความเคารพยำเกรงในฐานะลูกพี่คนหนึ่ง

โก๊ะพ้นโทษก่อนหน้าสมบัติจะได้รับอิสรภาพไม่นานนัก!?!


เมื่อตบปากรับทำงานให้ลูกพี่ใหญ่สมบัติได้ชักชวน "คณิต สังข์ทอง" หลานชายวัย 20 ปี ชายหนุ่มจาก ต.ดอนแฉลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ให้ช่วยทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ จากนั้นจึงเดินทางจากกาญจนบุรีเข้าพักที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม

ก่อนลงมือเพียง1 วัน ลูกพี่ใหญ่พาสมบัติกับคณิตไปตระเวนดูตัวเหยื่อ ภายในร้านทวีกิจพาณิชย์ เลขที่ 180/8 ถนนราชวิถี ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม หญิงสาววัยกลางคน กำลังง่วนอยู่กับงานตรงหน้า เธอเป็นเจ้าของกิจการ มีชื่อว่า "สุกัญญา ยงพิศาลภพ" อายุ 50 ปี นอกจากนี้ ยังเป็นผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดราชบุรีอีกด้วย

เธอคือเป้าหมายการลงมือของสมบัติ เมื่อจดจำรูปร่างหน้าตาได้แม่นยำแล้ว ทั้งสามคนตรงไปหาสุราดื่มกินย้อมใจ กระทั่งบ่าย 4 โมง 15 นาที วันที่ 23 มิถุนายน สุกัญญากำลังสาละวนนั่งทำบัญชีอยู่ที่โต๊ะทำงานภายในร้าน คณิตขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็กซ์วัน สีแดงดำ ตรงมาจอดหน้าร้าน สมบัติก้าวลงเดินเข้าร้านถามซื้อตะปู 2 นิ้วครึ่ง 1 กิโลกรัม สุกัญญาก้มหยิบตะปูใส่ถุงก่อนชั่งน้ำหนัก ก็ได้

"เจ๊ เจ๊" !?! ... ทันทีที่สุกัญญาหันกลับมาตามเสียงเรียกซึ่งคนที่เรียกก็คือสมบัตินั่นเอง


พลันบังเกิดเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวกลบสรรพสำเนียงแวดล้อม เรียกความสนใจแก่ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา จนต้องหยุดหันมอง และต่างก็ตกตะลึงที่พบเห็นเหตุฆาตกรรมตรงหน้า สุกัญญาล้มลงฟุบนิ่งกองอยู่กับพื้น ส่วนสมบัติวิ่งกลับมาขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไปมุ่งหน้าวงเวียนน้ำพุ หน้าพระราชวังสนามจันทร์

สุกัญญาเสียชีวิตด้วยลูกกระสุนปืน.357 ที่เข้ากลางหลังทะลุสีข้าง กับท้ายทอยขวา รวม 2 นัด พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์วิ่งไปแจ้งตำรวจจราจรที่ป้อมแยก รร.เมลล์ เสียงวิทยุสกัดจับรถคนร้ายดังระเบ็งเซ็งแซ่แทรกด้วยเสียงสอบถามความคืบหน้าเป็นระยะ

จ.ส.ต.สุรินทร์สุขมาก กับ จ.ส.ต.สมศักดิ์อาภานันท์ สายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.อ.เมืองนครปฐม ออกตรวจผ่านวงเวียนน้ำพุก็ได้ยินวิทยุสกัดจับเช่นกัน แตกต่างเพียงว่าครั้งแรกพนักงานวิทยุแจ้งว่าเป็นเหตุ 200 อาวุธปืนแค่นั้น แล้วทั้งสองก็สังเกตเห็นรถต้องสงสัยยามาฮ่า เอ็กซ์วัน สีแดงดำ เลขทะเบียนถูกบดบังด้วยป้ายวงกลม ส่วนคนซ้อนท้ายสวมหมวกแก๊ปจึงเรียกให้หยุด

เหตุ200 คือ เหตุทำร้ายร่างกายนั่นเอง แต่ระหว่างขอตรวจใบอนุญาตขับขี่ สายตรวจรถจักรยานยนต์อีกคันก็วิ่งผ่านมาจึงตรงเข้าสมทบ เห็นคนซ้อนท้ายเลี่ยงออกไปและกำลังหย่อนอาวุธปืนลงข้างกระถางต้นไม้ จึงตรงเข้าไปจับกุมตัวเอาไว้ หลังจากนั้นไม่นานจากเหตุ 200 ก็กลายเป็นเหตุ 241 หรือเหตุฆาตกรรม !

ประจวบเหมาะกับตำรวจจราจรผ่านมาแล้วรายงานว่าทั้งสองคนคือมือปืนที่เพิ่งก่อเหตุสังหารสุกัญญา เจ้าของร้านทวีกิจพาณิชย์ นั่นเอง นับจากวินาทีที่ลั่นกระสุนจนถึงมือปืนจนมุมเกิดขึ้นรวดเร็วเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น ทั้งสมบัติและคณิตจึงถูกควบคุมตัวมาสอบปากคำ

พ.ต.อ.ภาสกรกลั่นหวาน ผกก.สภ.อ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ กะสีวัฒน์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ธานี ผูกพานิช พนักงานสอบสวน และ พ.ต.ต.วศิน พลายศิริ สว.สส.ร่วมกันสอบสวน แล้วความจริงก็ปรากฏออกมาแม้ในชั้นแรกสมบัติจะให้การปฏิเสธก็ตามที ด้วยระหว่างการสอบสวนโทรศัพท์มือถือของสมบัติดังขึ้น ชุดสืบสวนจึงรับสายแทน

"งานสำเร็จไหม ? " ปลายทางสอบถาม เมื่อชุดสืบสวนตอบกลับไปว่าเรียบร้อยแล้ว จึงวางสายไป

ชายเจ้าของเสียงนั้นแท้ที่จริงก็คือ"โก๊ะ" ขาใหญ่ลูกพี่ของสมบัตินั่นเอง ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามไล่ล่า เพื่อสาวไปถึงผู้อยู่เบื้องหลังจ้างวานฆ่าครั้งนี้ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นเกินไปนัก

อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนยังทำให้ทราบด้วยว่า หากสมบัติและคณิตไม่ถูกจับเสียก่อน ทั้งสองจะนำรถจักรยานยนต์ไปทิ้งน้ำแล้วนั่งรถประจำทางกลับกาญจนบุรี

แนวทางการสืบสวนมุ่งไปที่เรื่องคนทรงเจ้าคนหนึ่งที่กาญจนบุรี

เพราะนับตั้งแต่สามีไปพบคนทรงเจ้าคนนี้แล้วก็มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป จนเกิดมีปัญหาครอบครัว กับอีกประเด็นคือเรื่องการทำหน้าที่ผู้พิพากษาสมทบ พ.ต.อ.ภาสกรบอกกับ "คม ชัด ลึก"


ปัญหาครอบครัวที่ว่านี้เคยปรากฏเป็นข่าวสาธารณะมาเมื่อวันที่11 มิถุนายน ที่ผ่านมา น.ส.สุทธาพรมฤคพิทักษ์ นางกาญน์ลดามฤคพิทักษ์ หลานสาวและภรรยาของนายประสาร มฤคพิทักษ์ และกลุ่มเพื่อนมิตรนายสมชาติ ยงพิศาลภพ เข้ายื่นหนังสือต่อ น.พ.วัลลภ ไทยเหนือ รมช.สาธารณสุข ให้มาตรวจสอบอาการทางจิตของนายสมชาติ ที่ถูกภรรยา ส่งตัวเข้ารักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ทั้งที่ไม่มีอาการป่วย สมชาติคนที่ว่านี้เป็นสามีของสุกัญญา เรื่องราววุ่นๆ เกิดขึ้นนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา !?!

ครั้งนั้นสุทธาพร เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า เธอและเพื่อนๆ ในกลุ่มรู้จักกับสมชาติเป็นอย่างดี โดยเริ่มรู้จักจากการทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมร่วมกัน ทั้งช่วยช้างไทยกลับคืนจากออสเตรเลีย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคกลาง และอื่นๆ โดยสมชาติไม่ส่อแสดงอาการว่าจะมีอาการป่วยทางจิต

สุกัญญาในฐานะภรรยาเอง ก็ออกมาตอบโต้ โดยแฉเรื่องราวทรงเจ้าเข้าผีที่เป็นสาเหตุทำให้สามีเปลี่ยนไป จนต้องนำตัวเข้ารับการบำบัด

จนกรมสุขภาพจิตแต่งตั้งกรรมการจากบุคคลภายนอกขึ้นมาดูแลและร่วมกันวินิจฉัยว่าสมชาติป่วยทางจิตหรือไม่ป่วยกันแน่ และอีก 2 สัปดาห์ให้หลัง สุกัญญาก็มาถูกยิงเสียชีวิต

ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังความตายของเศรษฐินีและผู้พิพากษาสมทบคนนี้อีกไม่นานคงรู้กัน


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์