ดูทักษิณเปิดใจ เถียงกัน-ยิงตาย1

ดูทักษิณเปิดใจ เถียงกัน-ยิงตาย1

ดู "ทักษิณ" เปิดใจผ่านรายการ กรองสถานการณ์ หนุ่มใหญ่เมืองสองแควปะทะคารมรุ่นน้อง เหตุฝ่ายหลังเชียร์ออกนอกหน้า ก่อนกลับบ้านยังตามไปชกถึงลานจอดรถ อายุมากสู้ไม่ได้ ชักปืน.38 ยิงดับ จากนั้นจึงเข้ามอบตัว ส่วนกรณียิงกลางวงเหล้าที่พัทลุง เพราะพูดใต้ไม่ได้ ได้เบาะแสสองฝ่ายเปิดศึกยิงใส่กันเอง

สองหนุ่มดูรายการ "กรองสถานการณ์" ที่ถ่ายทอดสด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เปิดใจหลังเลือกตั้ง กระทั่งเป็นที่มาของความขัดแย้งและตัดสินกันด้วยชีวิต เปิดเผยเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 4 เมษายนร.ต.อ.รณฤทธิ์ ใจว่อง ร้อยเวร สภ.อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต หน้าร้านอาหารอัสมา เลขที่ 50/1หมู่ 3 ต.วงฆ้อง อ.พรหมพิราม หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ

จากนั้นจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.วรรณรัตน์ พร้อมมูล ผกก.สภ.อ.พรหมพิราม พ.ต.ท.เชาวลิตร วงศ์พิทักษ์ รอง ผกก.สส. และแพทย์เวรประจำโรงพยาบาลพรหมพิราม

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริเวณลานจอดรถหน้าร้านอาหาร พบศพนายบุญทัน ทองทัน อายุ 40 ปี ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 3 ต.วงฆ้อง อ.พรหมพิราม มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่บริเวณหน้าท้อง 1 นัด กระสุนฝังใน ส่วนคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุคือ นายอำนวย แก้วเวียงชัย อายุ 59 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ศรีภิรมณ์ อ.พรหมพิราม หลังก่อเหตุจึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายบุญทัน ซึ่งเป็นลูกค้าของร้านเข้ามานั่งดื่มสุราอยู่ภายในร้านตามลำพัง ต่อมานายอำนวยซึ่งเป็นมือปืนจึงเข้ามานั่งในร้านเช่นเดียวกัน ขณะนั้นร้านอาหารเปิดโทรทัศน์ถ่ายทอดรายการ "กรองสถานการณ์" ที่สัมภาษณ์เปิดใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย

หลังชมรายการ "กรองสถานการณ์" และต่อด้วยการรายงานผลการเลือกตั้ง จากนั้นนายบุญทันพูดและส่งเสียงเชียร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้ นายอำนวย เกิดความไม่พอใจและโต้เถียงกันไปมา จนเกือบมีเรื่องทะเลาะกันภายในร้านอาหาร แต่เจ้าของร้านเข้าห้ามปรามเสียก่อน

จากนั้นชายทั้งสองแยกย้ายกันไปนั่งดื่มสุราต่อ จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ นายอำนวยเรียกเก็บเงินและเดินออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ทันใดนั้นนายบุญทันเดินเข้าไปพูดจาหาเรื่องจนชกต่อยที่บริเวณลานจอดรถหน้าร้าน นายอำนวยซึ่งมีอายุมากกว่าสู้ไม่ได้ จึงชักอาวุธปืนขนาด .38 ที่พกพามายิงใส่ร่าง นายบุญทัน 1 นัด ทำให้นายบุญทันล้มฟุบกองกับพื้นและเสียชีวิตทันที ส่วนนายอำนวยขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน นายอำนวยผู้ต้องหารายนี้ติดต่อขอมอบตัวต่อ ร.ต.อ.รณฤทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.อ.พรหมพิราม เบื้องต้น นายอำนวย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยระบุว่าสาเหตุที่ต้องใช้อาวุธปืนยิงนายบุญทัน เพราะว่าเกิดความโมโหที่นายบุญทันซึ่งอยู่ในอาการเมาสุราเข้ามาหาเรื่องตน หลังจากชมรายการกรองสถานการณ์เปิดใจนายกรัฐมนตรี แม้ว่าตนจะเลิกราและเตรียมตัวกลับบ้านพักแล้ว แต่นายบุญทันยังเดินตามมาหาเรื่องชกต่อย แต่ตนมีอายุมากกว่าและสู้ไม่ได้ จึงใช้อาวุธปืนที่พกมาด้วยยิงใส่ 1 นัด ก่อนจะหลบหนีไป ส่วนอาวุธปืนขนาด .38 เป็นปืนเถื่อนไม่มีทะเบียน ตนขว้างทิ้งระหว่างหลบหนี ซึ่งจำไม่ได้ว่าบริเวณใด เมื่อกลับไปบ้านแล้วจึงคิดว่าควรมอบตัว เจ้าหน้าจึงตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในที่ สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ที่ จ.พัทลุง จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทภายในวงเหล้ากลางงานศพ ที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ถึงขั้นใช้อาวุธปืยิงใส่กัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 5 คน พ.ต.ต.เมธาพงศ์ นาคปลัด พนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงจำนวน 5 คน เรื่องของคดีนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนอยู่ อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนเบื้องต้นได้ข้อมูลบางอย่างมาบ้างแล้ว

โดยเฉพาะผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงนั้นทราบชื่อคือ นายจันทร์แก้ว ศักดา พื้นเพเป็นคน จ.เชียงราย แต่มีภรรยาเป็นชาว อ.ป่าบอน จ.พัทลุง และอยู่ จ.พัทลุง มานานหลายปี ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์ โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากได้รับบาดเจ็บเนื่องจากถูกนายปรีชา กิ่งทองมาก ชาว จ.พัทลุง ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่เช่นกัน ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ จนต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บ

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายปรีชา ยังให้การปฏิเสธ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนในการเอาผิด ดังนั้นจึงต้องรอผลการสอบสวนขยายผลใหม่อย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามที่มาของเรื่องนี้มีชนวนมาจากวงเหล้าที่มีนายปรีชานั่งอยู่ด้วยและต้องการนายจันทร์แก้วพูดภาษาใต้ให้ฟัง แต่นายจันทร์แก้วซึ่งเมาสุราปฏิเสธ กระทั่งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงใส่กัน

พนักงานสอบสวนรายเดิม ระบุอีกว่า ผู้บาดเจ็บที่เหลืออีก 3 คน คือ นายชัยวุฒิ พูลเกตุ นายสมยศ พูลเกตุ ทั้งสองคนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ แต่นายสมยศนั้นแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนนายแมน กิ่งทองมาก ยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางแก้ว จ.พัทลุง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์