ไฟใต้โชนอีก ยิงหัว4ทหาร ระเบิดซ้ำ ที่ปัตตานี เจ็บ8นาย



ไฟใต้ลุกโชน! คนร้ายยิงถล่มรถเก๋งเจ้าหน้าที่ทหาร ชุด ฉก.ยะลา ดับสยอง 4 นาย กลางถนนที่ อ.รามัน

ขณะขับรถกลับจากร่วมงานแข่งขันกีฬา ลงมือเหี้ยมโหด ลากลงมาจ่อยิงศีรษะทีละนาย ก่อนราดน้ำมันเตรียมเผา แต่มีรถชาวบ้านผ่านมาเสียก่อน หลังก่อเหตุขโมยปืนเอ็ม16 จำนวน 3 กระบอก และปืนสั้นอีก 1 กระบอกไปด้วย ตกค่ำมีเหตุบึ้มรถบรรทุกทหารที่หนองจิก ก่อนปะทะดังสนั่น เจ้าหน้าที่เจ็บ 8 นาย ส่วนความคืบหน้า คดีบึ้มป่วนเทศบาลยะลา เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 22 ราย เข้าสู่กระบวนการซักถาม ล่าสุดรับแล้ว 3 ราย อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลต่อไป

เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 3 มิ.ย. สภ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงถล่ม รถเก๋งเจ้าหน้าที่ทหาร ชป.ร้อย ร.15221 ฉก.ยะลา 12
บริเวณบ้านปาลูกาปาลัส ม.7 ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 4 นาย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ไปถึงพบรถเก๋งโตโยต้า โคโรลล่า สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ก 3912 ปัตตานี

จอดอยู่กลางถนน สภาพถูกยิงด้วยกระสุนปืน ที่กระจกหน้าหลัง และกระจกข้างและตัวถังจนพรุน ที่พื้นถนนฝั่งคนขับพบศพเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย ส่วนที่ประตูฝั่งซ้ายยังพบศพ เจ้าหน้าที่อีก 1 นาย โดยทั้งหมดสวมชุดไปรเวต เสื้อยืดกางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูก ยิงที่ศีรษะและลำตัว เบื้องต้นทราบชื่อคือ จ.ส.อ.ทนง มีชัยชนะ จ.ส.อ.อดิศร แสงโกศา พลทหาร จิระคม ไกรฤทธิ์ และพลทหาร ธีรนัย ล้วนเส้ง

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เจ้าหน้าที่ทหารชุดดังกล่าว เดินทางด้วยรถเก๋งส่วนตัว เพื่อไปร่วมงานแข่งขันกีฬาฟุตบอล วอลเลย์บอลสันติสุขของ ศอ.บต.


 ที่สนามกีฬากลางหน้าที่ว่าการ อ.รามัน จ.ยะลา ระหว่างเดินทางกลับถูกคนร้ายตามประกบยิงจนเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม หลังก่อเหตุคนร้ายได้นำอาวุธปืน เอ็ม-16 เอ 2 จำนวน 3 กระบอก และปืนพกขนาด.380 จำนวน 1 กระบอก ของผู้เสียชีวิต หลบหนีไปด้วย ต่อมาเจ้าหน้าที่ส่งชุดลาดตระเวน กระจายกำลังตรวจสอบบริเวณใกล้เคียง แต่ยังไม่พบกลุ่ม ผู้ต้องสงสัย เบื้องต้นคาดเป็นการก่อเหตุ ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่ดักทำร้ายเจ้าหน้าที่ เพื่อสร้างความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งจะได้เร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ต่อมาพ.ต.ท.ชาญวุฒิ รักษาพราหมณ์ รอง.ผกก.ป.สภ.รามัน พร้อมด้วย พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบ ปลอกกระสุนปืน สงครามเอเค102 และ เอชเค 33 เกลื่อนทั่วบริเวณกว่า 50 ปลอก นอกจากนี้ยังพบแกลลอนน้ำมัน และรอยน้ำมันบนพื้นรอบ ตัวรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คน แฝงตัวมากับรถบรรทุกทราย 10 ล้อ ขับตามประกบ ใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่รถของเจ้าหน้าที่

ก่อนที่จะลงจากรถ แล้วนำตัวลงมายิงซ้ำที่ศีรษะจนเสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบว่า หลังคนร้ายลากทหารทั้ง 4 นาย ลงมายิงซ้ำ ได้เตรียมน้ำมันเบนซินไปราดรถและร่างผู้เสียชีวิตเพื่อจุดไฟเผา แต่เป็น จังหวะที่มีรถกระบะชาวบ้านแล่นผ่านมาพอดีพวกคนร้ายจึงได้หลบหนีไป ก่อนนำอาวุธปืนประจำกายของผู้เสียชีวิตไปด้วย โดยหลังก่อเหตุคนร้ายยังได้โปรยตะปูเรือใบ ตามเส้น ทางเพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือของกลุ่มคนร้าย ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่าง ต่อเนื่อง

ส่วนความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา ในระหว่างวันที่ 14-16 พ.ค.

 พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เปิดเผยที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา ว่าทาง กอ.รมน.ภาค 4 และทางศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ประชุมวางแผนงานร่วมกัน 5-6 ครั้ง เพื่อติดตาม กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ พิจารณาจากวัตถุพยาน โดยเฉพาะกล้องวงจรปิด ที่สามารถพิจารณาเป้าหมายกลุ่มคนร้ายเอาไว้ แต่ว่าในช่วงระหว่างดำเนินการมีเหตุซ้ำซ้อนเกิดขึ้น คือคนร้ายปล้นรถยนต์กระบะฟอร์ด จากพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุม รวมทั้งตรวจยึดรถคืนเอาไว้ได้ ในพื้นที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 31 พ.ค. และจากการปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมาย ย่านตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ ผ่านมา จำนวน 9 เป้าหมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหอพักบ้านเช่านักศึกษา โดยได้เชิญตัว ผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับกรณีปล้นรถยนต์กระบะที่ อ.ยะหา และเหตุวางระเบิดก่อกวน รวม 22 ราย มาเข้าสู่กระบวนการซักถาม ซึ่งใน 22 ราย ที่ควบคุมตัวเอาไว้นั้น มี 3 ราย ให้การรับสารภาพแล้ว ว่าร่วมในการก่อเหตุลอบวางระเบิด ในวันที่ 14-16 พ.ค. จริงแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้

สำหรับการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 22 ราย ขอยืนยันว่าจะรีบทำการซักถาม และถ้าซักถามแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็จะรีบปล่อยตัวทันที

 โดยได้แจ้งทางญาติของทุกคนเอาไว้แล้ว ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวเอาไว้ได้นั้น มีผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิ อาญา รวมอยู่ด้วย 1 ราย คือ นาย อับดุลฟาริด สะกอ อายุ 27 ปี ชาว อ.รามัน จ.ยะลา ตามหมายจับเลขที่ 175/58 ลงวันที่ 18 พ.ค. 58 ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลนครยะลา ระหว่างวันที่ 14-16 พ.ค. และยังร่วมกันปล้นรถจากพื้นที่ อ.ยะหา ด้วย นอกจากนั้นยังมีผู้ต้องหาตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 ราย คือ นายสุกรี นิเลาะ อายุ 22 ปี เป็นชาว อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งตามวัตถุพยานและสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ พบว่าตรงกับที่พบในที่เกิดเหตุ ซึ่งจะต้องนำตัวมาซักถาม เพื่อขยายผลต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 20.40 น. พ.ต.อ.สาธิต กาญจนภูวดล พงส.ผทค. สภ.หนองจิก

รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ลอบวางระเบิดทหารชุด ชป.ร้อย ร.2533 ฉก.ปัตตานี 24 ขณะลาดตระเวนเส้นทาง ใกล้ปากทางเข้า ร.พ.หนองจิก ถ.418 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เบื้องต้นมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวน 8 นาย โดยก่อน เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทหารชุดดังกล่าว ทำการลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบด้วยรถบรรทุก 2 ตันครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นเอฟทีเอส ถูกคนร้ายนำวัตถุระเบิดไม่ทราบภาชนะบรรจุ มาไว้ข้างทางก่อนจุดระเบิด ขณะที่รถของ เจ้าหน้าที่ขับผ่านมา แรงระเบิดทำให้รถได้รับความเสียหายเกิดเพลิงลุกไหม้ และมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่มีการยิงปะทะกับกลุ่มคนร้าย ก่อนที่คนร้ายจะอาศัยความมืดล่าถอยไป หลังสิ้นเสียงปืนจึงรีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่ง ร.พ.หนองจิก เบื้องต้นทราบชื่อผู้บาดเจ็บมี จ.ส.ท.ดนัย ใจทาวงษ์ อาการสาหัส ส.อ.ชลชาติ มีชนะ ส.ท.ศักดา เจริญทรัพย์ ส.ท.อุกิจ ช่วยเกิด และยังมีทหารอีก 4 นาย ซึ่งยังไม่ทราบชื่อ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์