โรฮีนจา ป่วน!! ทำลายของ-ที่พัก หลังจนท.ไม่ให้นำอาหารเข้ากินเรือนนอน

"โรฮีนจา" ป่วน!! ทำลายของ-ที่พัก หลังจนท.ไม่ให้นำอาหารเข้ากินเรือนนอน

ป่วนหนัก!! ชาว "โรฮีนจา" ก่อความวุ่นวาย คว้าก่อนหินทุบกระจก ทำลายข้าวของ-ที่พัก หลัง จนท. ไม่ให้นำอาหารเข้ากินเรือนนอน-การขอไปประเทศที่สาม "มาเลเซีย" ไม่ใช่"สหรัฐฯตามที่เป็นข่าว ขณะ จนท.ระงับเหตุวุ่น พบกระดาษเบอร์โทรตกเกลื่อน คาด!! โยงค้ามนุษย์??

เมื่อเวลา08:30 น.วันที่ 2 มิ.ย.58 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปกครองและเจ้าหน้าที่สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ เข้าตรวจค้นภายในเรือนนอนของบ้านศรีสุราษฎร์ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมีชาวโรฮีนจา ที่เป็นเด็กและสตรี พักอาศัยอยู่กว่า 90 คน หลังกลุ่มชาวโรฮีนจา ก่อเหตุความวุ่นวายเมื่อช่วงดึกคืนที่ผ่านมา จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าระงับเหตุและสอบสวนในเช้าวันนี้

จากการตรวจสอบอาคารนอน พบกระจกหน้าต่างของอาคารแตกเสียหาย และจากการเข้าตรวจค้นภายในอาคารนอนพบถุงพลาสติกใส่ก้อนหิน จำนวนหนึ่ง

ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้ก่อเหตุใช้ในการปาใส่กระจก และทำลายข้าวของ   นอกจากนั้นยังพบหมายเลขโทรศัพท์ จำนวนมากในเศษกระดาษ  แผ่นกระดาษ และข้างลังใส่ของใช้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจสอบ ว่ามีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่ากลุ่มโรฮีนจาไม่พอใจเจ้าหน้าที่ เนื่องจากไม่ให้นำอาหารเข้าไปรับประทานในอาคารนอน รวมไปถึงการขอไปประเทศที่สามคือมาเลเซีย ไม่ใช่สหรัฐอเมริกาตามที่เป็นข่าวออกไป


ด้านนางสุดารัตน์  ปานสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ หรือบ้านศรีสุราษฎร์  เปิดเผยว่า ชาวโรฮีนจา กลุ่มนี้มาจากหลายพื้นที่

 ทั้งจาก อ.สะเดา จ.สงขลา และ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช โดยทั้งหมด มี 94 คน เป็นเด็ก ประมาณ 30 คน ที่เหลือเป็นผู้หญิง  โดย บ้านศรีสุราษฎร์ฯ เริ่มรับชาวโรฮิงญามาดูแลตามหลักมนุษยธรรม ตั้งแต่ ปี 2556 และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยชาวโรฮิงญา ชุดที่อยู่ในปัจจุบัน เข้ามาตอนปลายปี 2557  ต่อเนื่อง ต้นปี 2558

ส่วนเหตุที่เกิดขึ้น  เกิดจากชาวโรฮีนจา ขอนำอาหารเข้าไปรับประทานในเรือนนอน แต่เเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต

 เนื่องจากได้วางระเบียบในการดูแลชาวโรฮิงญาไว้ อย่างเป็นระบบ จึงเกิดความไม่พอใจ และ ก่อเหตุทำลายข้าวของ และทุบกระจกของตัวอาคารเรือนนอน  สำหรับชาวโรฮีนจาที่ก่อเหตุ เป็นกลุ่มที่เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ โดยมีแกนนำประมาณ 5 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการระงับเหตุค่อนข้างนาน เนื่องจากไม่มีล่าม จึงมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร  โดยเจ้าหน้าที่ได้แยกชาวโรฮีนจาที่เป็นแกนนำออกไปไว้อีกอาคารหนึ่ง เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ


ที่มา social.tnews

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์