เชือดปลัดหญิงยัดรถขับซิ่งต่อ3วันกลิ่นหึ่งสุดท้ายจนมุม

หวังชิงทรัพย์ แต่ค้นไม่พบของมีค่า ลากตัวขึ้นรถพาไปกดเอทีเอ็มข้ามจังหวัด ก่อนปาดคอตายยัดศพท้ายรถเก๋ง พาแฟนกับเพื่อนเที่ยว 3 วันจนศพส่งกลิ่น ลากทิ้งใกล้ฟาร์มหมู ตำรวจตามรวบได้ที่อยุธยา สารภาพฆ่าปิดปาก เพราะรู้จักกันดี

ฆาตกรรมสาวใหญ่ปลัดเทศบาลอย่างโหดเหี้ยมรายนี้

เปิดเผยเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 18 มิถุนายน พ.ต.ท.สรวิศ มาอินทร์ รอง ผกก.(ป.) สภ.อ.เมืองชัยภูมิ หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี นางชนากานต์ วงศ์ศิริ อายุ 43 ปี ปลัดเทศบาลตำบลลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ถูกอุ้มหายตัวไปจากบ้านพักเลขที่ 383/381 หมู่บ้านโชคนานาภัณฑ์ ถ.นิเวศรัตน์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา พร้อมด้วยรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ศฉ 9005 กรุงเทพมหานคร

โดยเข้าจับกุม นายกฤษฎากรณ์ ศรีสงคราม

อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 383/390 หมู่บ้านโชคนานาภัณฑ์ ซึ่งอยู่ติดกับบ้านผู้ตาย ที่หอพักทิพย์เฮ้าส์ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมรถยนต์คันดังกล่าว จึงควบคุมตัวมาสอบสวน โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นคนลงมืออุ้มปลัดเทศบาลสาวใหญ่ไปฆ่าทิ้งเพื่อชิงทรัพย์

รู้จักกับนางชนากานต์เป็นอย่างดี เพราะนอกจากบ้านอยู่ติดกันแล้ว แม่ก็เป็นครูสอนอยู่ตำบลเดียวกับผู้ตายที่ทำงานเป็นปลัดเทศบาล โดยวันเกิดเหตุนัดเพื่อนหญิงไว้ว่าจะพาไปเที่ยว แต่ไม่มีเงิน แม่ก็ไม่อยู่บ้าน เมื่อเห็นนางชนากานต์นั่งรับประทานอาหารอยู่ในบ้านเพียงลำพัง จึงตัดสินใจเดินเข้าทางหน้าบ้าน แล้วใช้ไม้ตีหัวจนสลบ จากนั้นได้รื้อค้นทรัพย์สินในบ้านหวังจะเอาไปขาย แต่กลับไม่พบของมีค่า จึงอุ้มนางชนากานต์ที่ยังสลบอยู่ขึ้นรถยนต์ขับมุ่งหน้าไปทางกรุงเทพฯ

ระหว่างมาถึง จ.สระบุรี นางชนากานต์ฟื้นขึ้น

จึงใช้มีดจี้บังคับให้บอกรหัสเอทีเอ็ม จากนั้นได้มัดผู้ตายไว้ในรถ ก่อนจะไปกดเงินได้มา 8,900 บาท ตัดสินใจจะไปหาเพื่อนและแฟนสาวที่กรุงเทพฯ จึงใช้มีดปาดคอจนตาย เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระ แล้วเอาศพยัดใส่ท้ายรถเก๋งขับไปเรื่อยๆ เพราะไม่รู้จะเอาศพไปทิ้งที่ไหน เมื่อขับรถพาแฟนกับเพื่อนไปเที่ยวหลายวันทั้งที่ศพยังอยู่ท้ายรถและเริ่มส่งกลิ่นเหม็น จึงตัดสินใจวกกลับมาที่ จ.ชัยภูมิ และเอาศพไปทิ้งใกล้ฟาร์มหมู หวังให้กลิ่นมูลหมูช่วยกลบกลิ่นศพ กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุม

ได้รับแจ้งจาก นายประยูร วงศ์ศรี อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 3 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และนายคณิต เขียนเขว้า นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ว่า นางชนากานต์หายออกจากบ้านพร้อมรถส่วนตัวตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา สอบพยานทราบว่ามีชาวบ้านใกล้เคียงเห็นปลัดสาวรายนี้ก่อนหายตัวไปเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 7 มิถุนายน โดยได้ยินเสียงร้องภายในบ้านพัก จากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย

ตรวจสอบภายในบ้านพบเพียงรอยหยดเลือดจำนวนหนึ่ง

อาหารบนโต๊ะภายในบ้านบูดเน่า เหมือนว่าก่อนหายตัวไปปลัดสาวรายนี้กำลังรับประทานอาหารอยู่ แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ข้าวของภายในยังอยู่ครบปกติ จากการสืบสวนพบหลักฐานการกดเงินจากบัตรเอทีเอ็ม หลังหายตัวไป 1 วัน ที่ จ.สระบุรี ต่อมามีคนเห็นรถยนต์ของผู้ตายขับวนเวียนบริเวณบ้านช่อระกา ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ซึ่งมีงานแสดงคอนเสิร์ตที่เทศบาลเมืองชัยภูมิ และวันที่ 11 มิถุนายน เห็นที่ ต.ชีลอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงตามแกะรอยกระทั่งพบผู้ต้องสงสัยและบุกรวบได้ที่หอพักทิพย์เฮ้าส์ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ กล่าวว่า

ผู้ต้องหารายนี้ลงมือกระทำอย่างเลือดเย็น ส่วนประวัติเคยถูกจับข้อหาขโมยรถ อยู่ระหว่างรอลงอาญา 2 ปี ผู้ต้องหาสารภาพว่ายัดศพใส่ท้ายรถเก๋งของผู้ตายไว้ เพื่อหาที่ทิ้งศพนานถึง 3 วัน ทั้งยังนำรถผู้ตายตระเวนรับแฟนสาวและเพื่อนอีก 3 คน ที่รู้จักกันได้เพียง 1 เดือน พาไปเที่ยวทั่วกรุงเทพฯ และ จ.พระนครศรีอยุธยา จนศพส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วรถ

ซึ่งแฟนสาวทุกคนที่ขึ้นรถไปด้วยพากันผิดสังเกต

ผู้ต้องหารายนี้จึงนำศพกลับมาทิ้งข้างทาง ห่างจากถนนสายชัยภูมิ-บ้านเขว้าประมาณ 500 เมตรเยื้องฟาร์มหมู ติดสหกรณ์ครูบ้านหนองบัวขาว ต.ชีลอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่ออำพรางคดีและให้กลิ่นฟาร์มหมูช่วยกลบกลิ่นศพ ก่อนกลับไปรับแฟนสาวไปเที่ยวที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อีกครั้ง จนจับกุมตัวได้ และยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหาชิงทรัพย์ และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ปิดบังซ่อนเร้น (ศพ) เพื่อปกปิดพยานหลักฐาน จากนั้นได้ไปตรวจสอบยังจุดทิ้งศพ เพื่อนำศพกลับมาชันสูตรและให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก