ข่าวคราวของการรับน้องโหดนั้นมีออกมาให้เร็วเห็นได้อยู่ทุกปี ซึ่งแม้ว่าบางมหาวิทยาลัยจะมีการออกระเบียบควบคุม แต่ก็เหมือนจะไม่มีใครสนใจที่จะเข้ามาดูแล ควบคุมอย่างจริงจังนัก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา ชาวสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพร่องรอยบาดแผลฟกช้ำของนักศึกษาสาวคนหนึ่ง กำลังถูกแชร์ส่งต่อและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
โดยเจ้าของบทสนทนานั้นอ้างว่าเป็น "ผู้ปกครอง" ของนักศึกษาคนหนึ่ง ได้นำมาร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมการรับน้องของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคเหนือ โดยกล่าวในทำนองว่า กิจกรรมรับน้องของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่แจ้งในใบกำหนดการว่าเป็นทำกิจกรรมเพื่อสังคม บริจาคเสื้อผ้า-หนังสือ และทาสีอาคารเรียน
แต่เมื่อไปถึงสถานที่จริง นักศึกษาถูกยึดโทรศัพท์มือถือ ให้ยืนตากแดดตั้งแต่เที่ยงวันถึงสี่ทุ่ม ส่วนนักศึกษาคนใดทำสีผม ให้เอาสีสเปรย์ดำมาฉีดทับ พร้อมสั่งให้ล้างสีเล็บออก ก่อนสั่งให้ออกไปวิ่งล้มกลิ่งรอบสนาม ลงโทษสารพัดอย่าง ทั้งผู้ชายและผู้หญิง หากใครเป็นลม รุ่นพี่ก็จะให้ออกมาพัก เมื่อดีขึ้นก็ให้กลับเข้าไปทำกิจกรรมต่อ
ขณะเดียวกัน บัญชีเฟซบุ๊กที่ชื่อ Chinly Moby ก็ได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวเช่นกัน โดยใจความนั้นกล่าวทำนองเดียวกับผู้ปกครองคนข้างต้น โดยระบุว่า
อยากจะแฉตำนานค่าย 12 ปี ที่มีการรับน้องเถื่อนโดยการเอากิจกรรมอาสามาบังหน้า งานนี้หลอกลวงกันชัดๆ นี้ก็งงเหมือนกันว่า 12 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครออกมาแฉกันเลยสักคน ถามจริงๆ ค่ายนี้มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ต้องการให้คนรักกันสามัคคีกันโดยการใช้วิธีที่รุนแรงไร้การศึกษาเข้ามาจัดการคือคิดว่าถูกต้องแล้ว? ใช้อะไรคิดกัน
สถาบันไม่ได้แย่ แต่นักศึกษาเป็นฝ่ายที่เอาชื่อเสียงของมหาลัยมาย่ำยีเอง สงสัยคนที่เข้าคงโดนล้างสมองจิตวิทยาล้วนๆ สงสารผู้ปกครองที่ลูกต้องถูกหลอกมาเข้าค่ายที่ป่าเถื่อนโหดร้าย ใครจะออกมารับผิดชอบ งานนี้ไม่จบแน่ถ้าปีหน้ายังมีการกระทำแบบนี้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
