จับสาวขโมยกินยารักษามะเร็งเต้านม

"สุดรันทด สาวป่วยมะเร็งเต้านมไม่มีเงิน ต้องขโมยยารักษา"



สาวสุรินทร์โชคร้าย เรียนจบทำงานได้ปีกว่า ตรวจพบมะเร็งเต้านม แต่ไม่มีเงินผ่าตัด ต้องเจียดเงินเดือนซื้ออาหารเสริมบริษัทที่ตัวเองทำงานหวังรักษาโรค

แต่เงินเกิดขาดมือตัดสินใจขโมยยากินจนถูกบริษัทจับได้

แจ้ง ตร.ดำเนินคดี เจ้าตัวก้มหน้ารับกรรม เผยทุกข์หนัก แม่ยืมเงินมาช่วยรักษาจนหนี้ท่วม วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือเงินค่าผ่าตัดหวังยืดชีวิต เพื่อจะได้ตอบแทนคุณพ่อแม่

เรื่องราวน่าสลดใจครั้งนี้เกิดขึ้นกับ

- น.ส.ลัดดารัตน์ ทุมมาลี อายุ 23 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 10 ต.กระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเดินทางพร้อมกับญาติเข้าพบ พ.ต.ต.สัญชัย พิสัยพันธ์ สารวัตรสอบสวน สภ.อ.เมืองนครราชสีมา ตามหมายเรียกของ สภ.อ.เมืองนครราชสีมา



ในคดีที่ น.ส.เบญจมาศ ดำกลาง

ผู้แทนบริษัท มาร์เก็ตติ้ง ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด สาขานครราชสีมา แจ้งความดำเนินคดี น.ส.ลัดดารัตน์ ที่นำอาหารเสริมซึ่งเป็นสินค้าของบริษัทไปโดยทุจริต รวมเป็นเงิน 65,838.25 บาท โดย น.ส.ลัดดารัตน์ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

น.ส.ลัดดารัตน์ กล่าวว่า เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีที่ จ.นครราชสีมา

เมื่อปี 2549 แล้วเข้าทำงานที่บริษัทแห่งนี้ ในตำแหน่งพนักงานขายสินค้าประเภทเครื่องสำอาง อาหารเสริม และเครื่องใช้ในครัวเรือน ได้ค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน 6,000 บาท และหากทำยอดขายได้เกิน 4 แสนบาทก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นเพิ่มอีก ระยะแรกรายได้เท่านี้ก็พอใช้จ่าย

แต่ต่อมารู้สึกเจ็บหน้าอก จึงไปพบแพทย์พร้อมตรวจอาการ

จนพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม หลังจากนั้นก็ไปพบหมอที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรุงเทพฯ เพื่อตรวจรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งโดยตรง หมอตรวจพบว่า มะเร็งได้ลุกลามรวมทั้งหมดที่หน้าอก จำนวน 6 ก้อน และให้ยามารับประทาน โดยแพทย์นัดตรวจอีกครั้งในวันที่ 19 มิถุนายนนี้


ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวใดๆ ทั้งสิ้น




ระหว่างนั้นได้เจียดเงินเดือนซื้ออาหารเสริมของบริษัท

ที่ทำงานอยู่ ราคากระปุกละ 1,300 บาท เพราะเห็นว่ามีสรรพคุณตามที่ระบุไว้ในฉลากว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ อีกทั้งตอนที่วิทยากรมาอบรมพนักงานขายก็ระบุสรรพคุณไว้เช่นนั้น จึงอยากลองรับประทานดูหวังจะช่วยให้อาการป่วยหาย

เหมือนเคราะห์กรรมซ้ำเติม ถูกโจรงัดห้องพัก

แล้วขโมยเงินที่เป็นค่าจำหน่ายสินค้ากว่า 2 หมื่นบาทไป ซึ่งเตรียมนำส่งให้บริษัทในวันรุ่งขึ้น ทางบริษัทให้ตนกับเพื่อนร่วมงานอีกคนรับผิดชอบ โดยผ่อนจ่ายเป็นรายเดือน ทำให้ความเป็นอยู่ลำบากยิ่งขึ้น ประกอบกับทำยอดขายไม่ถึงเป้าเลยไม่ได้ค่าคอมมิชชั่น ส่งผลให้ขาดรายได้มาซื้ออาหารเสริมของบริษัทกิน จึงตัดสินใจขโมยยาไปกินตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา

ต่อมามีเจ้าหน้าที่ของบริษัทจากสำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ

มาตรวจสต็อกสินค้า ก็พบว่าอาหารเสริมหายไป รวมเป็นเงิน 65,838.25 บาท พอสอบสวนก็ยอมรับผิดว่าขโมยไปกินเพียงเพื่อต้องการรักษาโรคมะเร็งให้หาย เนื่องจากไม่มีเงินซื้อ บริษัทจึงเชิญผู้ปกครองมาเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งตนยินดีผ่อนชำระเป็นรายเดือน แต่ผู้แทนบริษัทที่มาเจรจาไม่ยินยอม และเข้าแจ้งความดำเนินคดี




"ที่ขโมยก็หวังกินให้หายจากโรคมะเร็งเพื่อรักษาชีวิตไว้เท่านั้น

เพราะทุกวันนี้สงสารแม่มาก ใครบอกมียาดี ยาต้ม สมุนไพร หรือหมอที่ไหนว่าดี แม่ก็จะหายืมเงินพาไปหาหมอ ไปซื้อยา จนมีหนี้สินมากมาย สงสารแม่มาก แทนที่หนูจะได้เลี้ยงแม่ กลับต้องเป็นภาระให้แม่ดูแลอีก ตอนนี้อยากรักษาด้วยการผ่าตัดเต้านมทิ้ง แต่ต้องจ่ายเงินประมาณแสนบาท จึงขอวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือเพื่อจะได้มีชีวิตอยู่ทดแทนพระคุณพ่อแม่บ้าง" น.ส.ลัดดารัตน์ กล่าว

พ.ต.ต.สัญชัย สารวัตรเจ้าของคดี กล่าวว่า

เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ น.ส.ลัดดารัตน์ อย่างมาก เพราะจากการสอบปากคำ พบว่าไม่มีเจตนาที่จะขโมยสินค้าเพื่อหาประโยชน์ แต่ทางกฎหมายเจ้าของบริษัทก็ยืนยันที่จะดำเนินคดี ตำรวจจึงต้องสอบปากคำทั้งสองฝ่าย และสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการและศาลตามกระบวนการกฎหมายต่อไป ซึ่งได้แนะนำว่า หาก น.ส.ลัดดารัตน์ จะขอความเมตตาจากศาล ก็ต้องหาหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบรับรองแพทย์ รวมทั้งยารักษาโรคมะเร็งมายืนยันถึงเจตนา เพื่อขอความปรานีจากศาลต่อไป



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์