สั่งประหารชีวิต “เต้ย หอมชง” ก่อเหตุสะเทือนขวัญ จ้างวานฆ่าพ่อ-แม่ พี่ชาย

ศาลอาญาธนฯ สั่งประหารชีวิต “เต้ย หอมชง” ก่อเหตุสะเทือนขวัญ จ้างวานฆ่าพ่อ-แม่ พี่ชาย รวม 3 ศพ ส่วนเพื่อนชายและทีมฆ่ารับสารภาพ โดนคุกตลอดชีวิต

เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ศาลอาญาธนบุรี ถนนเอกชัย ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ 2277/2557

ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาธนบุรี2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กิตตินันท์ หรือเต้ย หอมชง อายุ 23 ปี นายศักรินทร์ หรือกอล์ฟ พันธกุล อายุ 23 ปี นายฉลาด หรือป๊อด เที่ยงธรรม อายุ 54 ปี นายสุระพงษ์ หรือแอ๊ด ชูพันธ์ อายุ 48 ปี และนายสิริชัย หรือป้อม เพิ่มพูนศักดิ์ อายุ 43 ปี เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานใช้ให้ฆ่าบุพการี, ร่วมกันใช้ให้ฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันลักทรัพย์, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของบุคคลอื่นที่ได้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบ ครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในตัวเมืองและที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและไม่ได้รับ อนุญาต ฝ่าฝืนข้อกำหนดตามประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

โจทก์ ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.57 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 3 เม.ย. 57 เวลาคืนก่อนเที่ยงต่อเนื่องกัน

นายกิตตินันท์ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบุตรของ พ.อ.วิชัย หอมชง อายุ 63 ปี นายทหารนอกราชการ และนางวนิดา หอมชง อายุ 57 ปี อาจารย์โรงเรียนราชวินิตบางแค บิดามารดา ได้ร่วมกับนายศักรินทร์ จำเลยที่ 2 จ้างวานให้ จำเลยที่ 3 -5 ฆ่าพ.อ.วิชัย และนางวนิดา รวมทั้ง ร.ต.ท. ธรรมณัฐ หอมชง อายุ 24 ปี พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน พี่ชาย ของนายกิตตินันท์ จำเลยที่1 โดยจำเลยที่ 3-5 ร่วมกันใช้ปืนพกออโตเมติกขนาด 9 มม. ยิงพ.อ.วิชัย บริเวณใบหน้าและลำตัว อย่างละ 1 นัด ยิงนางวนิดา บริเวณใบหน้า 1 นัด และยิงศีรษะของ ร.ต.ท.ธรรมณัฐ 2 นัดจนถึงแก่ความตาย สมดังเจตนาของจำเลยทั้งห้าที่ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

นอกจากนี้ จำเลยที่ 3-5 ยังได้ร่วมกันปล้นเอาทรัพย์สินเป็นเงินสด จำนวน 53,000 บาท ของ ร.ต.ท. ธรรมณัฐ ไป

โดยในการปล้นดังกล่าวจำเลยที่ 3-5 ได้ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายทำให้ผู้เสียชีวิตถึงแก่ความตาย และร่วมกันใช้รถยนต์เป็นพาหนะเพื่อกระทำผิดและเพื่อให้พ้นจากการจับกุม เหตุเกิดที่แขวงห้วยขวาง เขตดินแดง และแขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. เกี่ยวพันกัน ในชั้นสอบสวนและในชั้นศาลจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ 2-5 ให้การรับสารภาพ

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยที่ 2 -5 แล้ว เห็นว่า จำเลยทั้งห้ากระทำผิดจริงตามฟ้อง

พิพากษาว่านายกิตตินันท์ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานใช้ให้ฆ่าบุพการี และร่วมกันใช้ให้ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลงโทษประหารชีวิตสถานเดียว ส่วนนายศักรินทร์ จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ให้ประหารชีวิต และฐานใช้ให้ผู้อื่นร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จำคุก 3 ปี แต่จำเลยรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง ให้จำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิต

ขณะ ที่นายฉลาด จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลงโทษประหารชีวิต

และความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 ปี ฐานร่วมกันพาอาวุธไปในทางสาธารณะฯ และร่วมกันฝ่าฝืนประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จำคุก 6 เดือน แต่ให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 3 ไว้ตลอดชีวิต ส่วนนายสุระพงษ์ และนายศิริชัย จำเลยที่ 4 และ 5 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พิพากษาลงโทษประหารชีวิต และความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองฯ จำคุก 1 ปี ฐานร่วมกันพาอาวุธไปในทางสาธารณะฯ และร่วมกันฝ่าฝืนประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จำคุก 6 เดือน และความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จำคุกคนละ 3 ปี แต่จำเลยที่ 4-5 ให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงเหลือจำคุกตลอดชีวิต พร้อมริบของกลาง และให้จำเลยที่ 2, 4 และ 5 ร่วมกันชดใช้เงินสด 53,000 บาท คืนให้กับทายาทของ ร.ต.ท.ธรรมณัฐ ด้วยส่วนคำขออื่นให้ยก.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์