จับแก๊งชาวฟิลิปปินส์ฉ้อโกงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น

ตำรวสจท่องเที่ยวแถลงจับแก๊งชาวฟิลิปปินส์ 3 คน ออกอุบายชักชวนนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเล่นไพ่แบล็คแจ็ค

โดยอ้างตัวเป็นเศรษฐีบรูไนหลอกจนสูญเงินกว่า 2 แสนบาท

สุดท้ายหนีไม่รอดถูกรวบพร้อมของกลางเงินสดและไพ่ เหยื่อยอมความ หลังได้เงินคืน ขณะตำรวจวอนเหยื่อคนอื่นรีบเผยตัวเพื่อเอาผิดก่อนลอยนวลไปหากินต่อ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 พฤษภาคม พล.ต.ต.ชูชาติ สุวรรณาคม ผบก.ทท.

แถลงผลเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกองกำกับการ 1 บก.ทท.จับกุมแก๊งต่างชาติชาวฟิลิปปินส์ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น โดยออกอุบายชักชวนเล่นไพ่แบล็คแจ็ค หลอกลวงเอาเงินเศรษฐีชาวบูรไน

แต่สุดท้ายก็ถูกหลอกลวงเสียเองจนสูญเงินไป 2.4 แสนบาท

โดยมีผู้ต้องหา 3 คน ได้แก่ นายอันโตนีโอ เบอร์นาเบ อายุ 27 ปี นายไดออสดาโด เดเวร่า อายุ 47 ปี และ น.ส.อีร่า ฟีคิล อายุ 27 ปี ทั้งหมดเป็นชาวฟิลิปปินส์ ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ

ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์

โดยจับกุมได้ภายในบ้านไม้ 2 ชั้น ซอยพระราม 9 ที่ 49 ถนนพระราม 9 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พร้อมเงินสดของกลางเป็นธนบัตรดอลลาร์คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2 แสนบาท และไพ่ 2 สำรับ

พล.ต.ต.ชูชาติ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าว

ต่อเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นว่าถูกกลุ่มคนร้ายชาวต่างชาติใช้อุบายหลอกลวงฉ้อโกงทรัพย์ โดยมีหญิงสาวชาวฟิลิปปินส์เป็นนกต่อทำทีชักชวนนักท่องเที่ยวและผู้เสียหายมาเที่ยวที่บ้านพักย่านรัชดา หลังจากรู้จักกันได้ไม่นาน

โดยอ้างว่ามีเพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่นเหมือนกัน

เมื่อผู้เสียหายตกลงเดินทางมาที่บ้านพัก ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นไม่มีเลขที่ อยู่ซอยพระราม 9 ที่ 49 ถนนพระราม 9 แขวงและเขตสวนหลวง กทม.เพื่อมาเล่นไพ่แบล็คแจ็ค โดยผู้ต้องหาอีกคนเป็นผู้เล่น ซึ่ง น.ส.อีร่า อ้างว่าไม่รู้จักเหมือนกัน

แต่ชักชวนมาเล่นเช่นเดียวกัน

และมีผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 3 คนเป็นผู้เล่น 1 คน เป็นเจ้ามือ 1 คนและแอบอ้างว่าเป็นเศรษฐีบ่อน้ำมันที่บรูไนอีก 1 คน โดยทั้งหมดร่วมเล่นไพ่กันนานหลายชั่วโมง โดยหลอกลวงผู้เสียหายให้ทุ่มเงินแทงจำนวนมาก แต่สุดท้ายก็ต้องเสียจนหมดตัว กระทั่งตาสุดท้าย ผู้เสียหายทุ่มเงินที่มีอยู่แทงจนหมดตัว แต่ก็ถูกกลุ่มผู้ต้องหากินเงินอีก จึงแน่ใจว่าถูกหลอกและเข้าแจ้งความดังกล่าว

ผบก.ทท.กล่าวอีกว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนพบว่า

กลุ่มคนร้ายเป็นชาวฟิลิปปินส์ แต่มีหน้าตาเหมือนคนไทยทำให้ผู้เสียหายชาวญี่ปุ่นเข้าใจว่าถูกกลุ่มคนไทยหลอกลวง ทำให้เสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และเมื่อทราบว่าเป็นชาวต่างชาติ จึงขออนุมัติหมายจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 โดยชุดสืบสวนได้ซุ่มอยู่บริเวณทางเข้าออกบ้านพักที่ผู้เสียหายระบุว่าถูกหลอกลวงมาและพบผู้ต้องหาทั้ง 3 เดินอยู่ภายในซอยดังกล่าว

จึงแสดงตัวเข้าจับกุม

และขอตรวจสอบหนังสือเดินทางก็พบว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับที่ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 รับสารภาพว่ากระทำการดังกล่าวจริง และทำมาหลายครั้งแล้วโดยนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน

"เมื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาได้และได้เงินของกลางคืน

ผู้เสียหายก็ไม่ติดใจเอาความเพราะเป็นคดีที่สามารถยอมความกันได้ จึงอยากฝากให้สื่อช่วยประชาสัมพันธ์ ให้ผู้เสียหายรายอื่นมาแจ้งความเพื่ออายัดตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ไว้ เพราะเชื่อว่ายังมีการหลอกลวงนักท่องเที่ยวคนอื่นอีกไม่ใช่เฉพาะชาวญี่ปุ่นอย่างเดียว หากไม่มีผู้เสียหายรายอื่นมาแจ้งความคดีนี้คงจบ โดยเจ้าหน้าที่จะต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาไปและคงจะไปหลอกลวงคนอื่นในลักษณะเดียวกัน" พล.ต.ต.ชูชาติ กล่าว

ด้านผู้เสียหายชาวญี่ปุ่น ที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อกล่าวว่า

อยากฝากไปถึงนักท่อเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่มาเที่ยวเมืองไทยว่าอย่าได้หลงเชื่อชาวต่างชาติที่เข้ามาตีสนิท ให้ใช้ความรมัดระวังเป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นจะถูกหลอกเหมือนตัวเองจนเสียเงินเป็นจำนวนมาก เพราะความโลภที่อยากได้เงินคนอื่นและไว้ใจชาวต่างชาติด้วยกันมากเกินไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก