สิ้นใจอีก 1 ศพสังเวยเห็ดพิษเมืองน่าน

สังเวยเห็ดพิษเพิ่มอีกราย โดยเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 พ.ค. นพ.นิวัติชัย สุจริตจันทร์ รอง ผอ.โรงพยาบาลน่าน

เปิดเผยถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ป่วย

กินเห็ดไข่ห่านขาวตีนตันที่มีพิษร้ายแรงจนล้มป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 5 รายว่า หลังจากรับรักษาอาการป่วยมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 3 รายคือ นายสุข วงศ์อุด นางจอด ใจปิง น.ส.ณัฐ กานต์ วงศ์อุด และกลางดึกที่ผ่านมาเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 รายชื่อ นายสาย วงศ์อุด

ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ญาติมาขอรับศพ

กลับไปแล้ว ยังเหลือ นายสมพงษ์ ใจปิง คนสุดท้ายที่แพทย์กำลังระดมช่วยชีวิตเต็มที่ แต่อาการทรุดหนักเพราะตับถูกทำลายหมดแล้ว ต้องนำเข้าห้องไอซียูใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา

รอง ผอ.โรงพยาบาลน่าน ฝากเตือนประชาชนด้วยว่า

ในช่วงหน้าฝนควรระมัดระวังในการรับประทานเห็ดป่าเป็นพิเศษ หากไม่แน่ใจอย่าบริโภคเข้าไปเป็นอันขาด รวมทั้งประชาชนที่ซื้อเห็ดจากท้องตลาดควรสอบถามที่ไปที่มาให้แน่ชัดก่อนเพื่อความปลอดภัย ทางที่ดีเลือกซื้อเห็ดจากฟาร์มเพาะจะปลอดภัยมากที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเห็ดพิษที่ผู้ป่วย

กินเข้าไปแล้วเสียชีวิตนั้น ลักษณะคล้ายไข่สีขาว มีโคนยาว ดอกสีขาว พบมากในป่าลึก ชาวบ้านนิยมเรียกตามลักษณะว่า เห็ดไข่หรือเห็ดไข่ห่านขาวตีนตัน หรือเห็ดระโงกหิน

รูปร่างคล้ายเห็ดโม่งโก้งที่ชาวบ้านนิยมเก็บมากินกัน

ในระยะอ่อน ๆ ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นชนิดใด ผู้ที่กินเข้าไปจะมีอาการปวดท้อง อาเจียน ถ่ายเหลว การทำงานของตับและไตล้มเหลวเฉียบพลัน ทำให้อัตราการเสียชีวิตมีสูงมาก

ด้าน นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน เปิดเผยถึงผลการเฝ้าระวังว่าแต่ละปีมักมีผู้ป่วยจากกินเห็ดพิษจำนวนมากในช่วงเดือน พ.ค. ของทุกปี ในปี 2545 อ.ปัว มีผู้ป่วย 19 ราย ตาย 3 ราย ปี 2546

ป่วย 8 ราย ตาย 1 ราย และใน อ.นาหมื่น

ป่วย 10 ราย ตาย 1 ราย ปี 2549 อ.บ่อเกลือ ตาย 2 ราย และปี 2550 ป่วยถึง 33 รายในเขต อ.บ่อเกลือ กับ อ.ท่าวังผา เสียชีวิตแล้ว 4 ราย เหลือรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 1 ราย อาการน่าเป็นห่วง

อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดน่านประกาศ

เตือนประชาชนให้ระมัดระวังบริโภคเห็ดพร้อมแนะนำวิธีสังเกต ให้นำข้าวสารต้มกับเห็ด หากข้าวสารสุกจะไม่มีอันตราย หากสุก ๆ ดิบ ๆ ให้ใช้ช้อนเงินจุ่มดู หากช้อนดำแสดงว่าเป็นเห็ดพิษหรือใช้หัวหอมต้มกับเห็ด หากหัวหอมสีดำแสดงว่ามีพิษ ไม่ควรบริโภค.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์