ฆ่า3ศพ8ขวบไม่เว้นช่างปั้นแค้นถูกกีดกันรัก

"ฆ่าสยอง 3 ศพ แค้นถูกกีดกันรัก"



หนุ่มช่างปั้นงานศิลป์โหดฆ่าเพื่อนบ้าน 3 ศพ เหตุเป็นอริกันเรื่องเขตแดน แต่กลับหลงรักหลานสาวเขา

แค้นถูกกีดกัน ซุ่มปาดคอยายวัย 79

ตายคาห้องน้ำ ยังใจเย็นดักรอแม่สาวกลับเข้าบ้าน เชือดคอตายคาบันได น้องสาวคนสุดท้องวัย 8 ขวบสุดซวย กลับจากโรงเรียนเลยถูกเชือดคอตายทั้งชุดนักเรียน

เหตุสะเทือนขวัญฆ่า 3 ศพ

ทั้งคนแก่และเด็ก รายนี้เปิดเผยขึ้น โดย พ.ต.อ.จำกัด กอสูงเนิน ผกก.สภ.อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี ว่า ศาลได้อนุมัติหมายจับ นายสุหว่าง สายฝา อายุ 34 ปี อยู่บ้านแก่งเค็ง เลขที่ 23 หมู่ 12 ต.แก่งเค็ง อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี

ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุฆ่าเพื่อนบ้าน 3 ศพ

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ส่วนการติดตามตัวได้สั่งการให้ตำรวจเร่งไล่ล่า โดยเฉพาะในพื้นที่เป้าหมาย จ.หนองคาย และ จ.สกลนคร ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อกัน รวมทั้งได้จัดตำรวจเฝ้าตรวจสอบตามท่าข้ามแม่น้ำโขงที่สำคัญ เพื่อป้องกันผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ

พ.ต.อ.กำจัด เปิดเผยเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้ว่า

ในวันเกิดเหตุ พ.ต.ท.ชุมพล โพธิ์ศิริ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.อ.กุดข้าวปุ้น ได้รับแจ้งจาก นายอุทัย กำไลงาม ผู้ใหญ่บ้าน บ้านแก่งเค็ง หมู่ 12 ต.แก่งเค็ง อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานีว่า มีลูกบ้านถูกฆ่า 3 ศพ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 239 ซึ่งเป็นราษฎรในหมู่บ้านแก่งเค็ง จึงเข้าตรวจสอบ



พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้

ที่ประตูหน้าบ้านพบศพ ด.ญ.อรปวีณา ท่วงที อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 ถูกปาดคอและแทงตามร่างกายหลายแผลเสียชีวิตในชุดนักเรียน มีเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวคลุมอยู่ ห่างไปประมาณ 5 เมตร

บริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 ของบ้านพบศพ

นางบุญมี ท่วงที อายุ 49 ปี มารดาของ ด.ญ.อรปวีณา เสียชีวิตสภาพลำคอถูกเชือดเป็นแผลยาวลึก และที่ใต้ราวนมซ้ายกับแขนถูกแทงหลายแผล นอกจากนี้ บริเวณห้องครัวมีรอยเลือดลากเป็นทางยาวไปที่ห้องน้ำหลังบ้าน

ตรวจสอบพบศพนางพิลา ท่วงที อายุ 73 ปี

บริเวณลำคอมีร่องรอยถูกรัด และถูกเชือดเป็นแผลยาวเหวอะหวะ ราวนมด้านซ้ายและตามลำตัวถูกแทงหลายแผล ใกล้กันมีลวดแขวนเสื้อผ้า ซึ่งคาดว่าใช้รัดคอนางพิลา ตกอยู่

เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าคนร้ายรายนี้น่าจะเป็น

นายสุหว่าง สายฝา ช่างปั้นงานศิลปะ เพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นคู่อริกับคนในบ้านหลังนี้มานาน หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป โดยขโมยรถจักรยานยนต์คาวาซากิสีดำคาดเขียว ทะเบียน กงษ 708 สระบุรี ของผู้ตายหลบหนีไปด้วย

พ.ต.ท.ชุมพล ผู้รับผิดชอบคดีนี้ กล่าวว่า

ได้นำตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านของนายสุหว่าง พบมีดสั้นปลายแหลมเปื้อนเลือด คม บาง ยาวประมาณ 24 ซม. 1 เล่ม วางอยู่บนท่อนไม้ข้างเปลญวน ซึ่งเป็นที่พักผ่อนของผู้ต้องหา จึงยึดไว้ตรวจสอบ



ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สอบสวนนายชาลี ท่วงที

อายุ 73 ปี เจ้าของบ้าน ทราบว่า อาศัยอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุทั้งหมด 5 คน ได้แก่ นายชาลีและนางพิลา ภรรยา และครอบครัวของนางบุญมี ลูกสาว หลังจากเลิกกับสามี ได้พา น.ส.ภัทรภรณ์ แสงวงศ์ อายุ 16 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.5 สถาบันศึกษาแห่งหนึ่งที่อยู่ต่างอำเภอ และ ด.ญ.อรปวีณา อายุ 8 ขวบ ลูกสาวนางบุญมีมาอยู่ด้วย

ส่วนคนร้ายรายนี้ ได้มีปากเสียงกับคนในครอบครัวมานาน

เรื่องของแนวเขตที่ดิน กระทั่งนายชาลีได้ให้ช่างสร้างรั้วคอนกรีตกั้นแนวเขตแดนระหว่างบ้าน สร้างความไม่พอใจให้นายสุหว่างอย่างมาก ถึงกับเคยกล่าวอาฆาตว่า จะฆ่าล้างครัว แต่ครอบครัวนายชาลีคิดว่าเป็นคำขู่ จึงไม่สนใจ ประกอบกับระยะหลัง นายสุหว่างมีท่าทีมาชอบพอ น.ส.ภัทรภรณ์ จึงได้กีดกันมาตลอด

ในวันเกิดเหตุ นายชาลีไปทุ่งนา

มีเพียงนางพิลา อยู่ที่บ้าน คาดว่า นายสุหว่างลักลอบเข้าไปแล้วลงมือทำร้ายนางพิลาก่อนเป็นรายแรก โดยใช้ลวดแขวนเสื้อรัดคอจากห้องครัว แล้วลากไปที่ห้องน้ำ ใช้มีดแทงลำตัวก่อนจะปาดคอซ้ำจนเสียชีวิต

จากนั้นมาซุ่มรอจนนางบุญมี กลับเข้าบ้าน

และกำลังจะเดินขึ้นบนบ้าน ย่องเข้าไปปาดคอและแทงจนเสียชีวิต ระหว่างนั้น ด.ญ.อรปวีณา กลับจากโรงเรียนเข้าบ้านจึงถูกฆ่าปิดปากไปด้วย ส่วน น.ส.ภัทรภรณ์ รอดตายหวุดหวิด เพราะยังไม่กลับจากโรงเรียน

ด้าน นายอุทัย กล่าวว่า สองครอบครัวนี้

เคยมีปากเสียงกระทบกระทั่งกันหลายครั้ง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเขตแดนระหว่างบ้านพัก แต่ครั้งหลังสุดเมื่อไม่นานมานี้ ครอบครัวผู้ตายได้กล่าวหาผู้ต้องหาว่าเป็นคนขโมยเงินไป 2 หมื่นบาท

สร้างความโกรธแค้นให้นายสุหว่างอย่างมาก

และตนก็พยายามไกล่เกลี่ย ปลอบใจอยู่เรื่อยมา เพราะไม่ต้องการให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน แต่แล้วก็เกิดเหตุสลดใจขึ้นจนได้



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์