บั้งไฟหมื่นระเบิดดอกสว่านพุ่งเจาะคอตัดหลอดลมช่างดับ

"บั้งไฟระเบิด ดอกสว่านพุ่งเจาะคอดับสยอง"



ช่างทำบั้งไฟเมืองอุบล เร่งมือทำบั้งไฟหมื่นให้ทันงานประเพณีบุญบั้งไฟ ใช้สว่านเจาะเหล็กพลาดเกิดประกายไฟ

บึ้มสนั่นหมู่บ้าน หัวสว่านขนาด 4 หุนหัก พุ่งปักลำคอดับอนาถ ส่วนพ่อโดนสะเก็ดระเบิดหวิดดับ เผยขอเลิกยุ่งเกี่ยวกับบั้งไฟเด็ดขาด หลังเสียลูกชายสุดที่รัก

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 พฤษภาคม

พ.ต.ท.อาคม บุตรวงศ์ สารวัตรเวร สภ.อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี รับแจ้งเหตุบั้งไฟระเบิด มีผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 5 บ้านเวียง ต.กระเดียน อ.ตระการพืชผล จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิจิตร ตันติเศรษฐ์ ผกก.สภ.อ.ตระการพืชผล และกำลังอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมรถดับเพลิงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ

บริเวณที่เกิดเหตุเป็นลานดินข้างบ้านพบศพ

นายธีระพงษ์ อินทร์อุดม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ดังกล่าว นอนเสียชีวิต ที่ลำคอมีหัวสว่านแบบมือถือเสียบคา เป็นที่สยดสยองแก่ผู้พบเห็น ใกล้กันพบบั้งไฟทำด้วยเหล็กตกอยู่

สอบสวนทราบว่า นายธีระพงษ์ ผู้ตาย

มีอาชีพรับจ้างทำบั้งไฟเพื่อใช้ในการแข่งขันตามงานบุญบั้งไฟในประเพณีบุญเดือน 6 โดยบั้งไฟที่ทำขึ้นจะเป็นบั้งไฟหมื่น มีน้ำหนัก 12 กิโลกรัม ก่อนเกิดเหตุขณะผู้ตายใช้สว่านเจาะรูให้เป็นช่องสำหรับใส่สายชนวนบริเวณท้ายบั้งไฟ

โดยใช้น้ำเป็นตัวช่วยระบายความร้อน

แต่เกิดพลาดดอกสว่านไปโดนท่อเหล็กที่ใช้บรรจุดินปืน ทำให้เกิดประกายไฟและเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงอัดจากการระเบิดดันหัวสว่านจนหักและพุ่งปักลำคอตัดหลอดลมและเส้นเลือดใหญ่จนเสียชีวิตดังกล่าว



นายสุรพล อินทร์อุดม อายุ 48 ปี พ่อผู้ตาย

ให้การด้วยน้ำตานองหน้าว่า มีบุตร 4 คน ผู้ตายเป็นบุตรคนที่ 2 ขณะเกิดเหตุกำลังเร่งรีบช่วยลูกชายทำบั้งไฟ เนื่องจากวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ หมู่บ้านจะมีประเพณีบุญเดือน 6 หรือบุญบั้งไฟ

ซึ่งชาวบ้านได้ลงขันรวบรวมเงินให้ตน

ไปซื้ออุปกรณ์มาทำบั้งไฟเข้าแข่งขัน ปรากฏว่าระหว่างที่ลูกชายกำลังใช้สว่านเจาะเหล็กอยู่ได้เกิดประกายไฟขึ้น กระทั่งประกายไฟพุ่งตกลงไปในรูเหล็กทำให้ดินประสิวที่อัดไว้ระเบิดเสียงดังสนั่น ทำให้หัวสว่านขนาด 4 หุน หลุดและพุ่งเข้าเสียบลูกกระเดือกทะลุหลอดลมของลูกชายจนขาดกระจุยเป็นรูโบ๋

นายสุรพล ให้การอีกว่า นอกจากนี้สะเก็ดระเบิด

ยังพุ่งลงมาตกที่ศีรษะตนจนผมไหม้และแสบไปทั่วบริเวณและสลบไปในที่สุด จนกระทั่งภรรยาที่นอนอยู่ใต้ถุนบ้านวิ่งออกมาดูและเรียกชาวบ้านให้ช่วยนำตนส่งโรงพยาบาลตระการพืชผล

ซึ่งมาฟื้นอีกครั้งเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.

หลังเกิดเหตุมีตำรวจและแพทย์เวรจากโรงพยาบาลตระการพืชผลออกมาชันสูตรพลิกศพลูกชาย และมอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

"เหตุการณ์ที่เกิดเหตุไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเกิดขึ้นกับครอบครัว

เพราะที่อาสาทำบั้งไฟก็เพื่อจะนำไปจุดขอฝนตามประเพณี แต่บุตรชายก็ต้องมาจบชีวิตลงด้วยการทำบั้งไฟ นับจากนี้ไปจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับบั้งไฟอีกต่อไป เพราะได้สูญเสียลูกชายสุดที่รักไป" นายสุรพล กล่าว



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์