พลทหารเมาเหล้าใช้ปืนเอชเคยิงในตลาดทุ่งสง

"พลทหารเมาเหล้า ใช้ปืนสงครามยิงกลางตลาด"



พลทหารแบกปืนเอชเคไปกินเหล้าในตลาด เมาได้ที่ยิงปืนขึ้นฟ้า 3 นัด ชาวบ้านระทึกแจ้งตำรวจตรวจ

พบเพียงเจ้าของบ้านระบุ

หลังยิงปืนขึ้นฟ้า พลทหารมือยิงกระโดดขึ้น จยย.หนีไปแล้ว ตร.สกัดจับแต่ไร้วี่แวว

เหตุระทึกขวัญผู้คนกลางตลาดทุ่งสงรายนี้

เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ต.ท.ชัยภัทร ศรีเรือง สารวัตรเวร สภ.อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุว่า มีวัยรุ่นแต่งกายแบบทหาร ใช้อาวุธปืนเอชเค ยิงขึ้นฟ้าหลายนัด โดยเสียงปืนดังมาจากหน้าบ้านเลขที่ 12/42 ถ.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จึงรุดไปตรวจสอบ

ถึงบ้านที่เกิดเหตุ ทราบว่า

ชายคนที่ยิงปืนฟ้าได้ขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนติดเครื่องยนต์รอหลบหนีไปทางถ้ำตลอด พ.ต.ท.ชัยภัทร จึงแจ้งศูนย์วิทยุประสานตำรวจสายตรวจสกัดจับแต่ไม่พบ ต่อมาตำรวจได้ควบคุมตัวนายมนูญศักดิ์ หนูเจียม อายุ 25 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุเอาไว้ได้ และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.อ.ทุ่งสง

จากการสอบสวนนายมนูญศักดิ์ ให้การว่า

ผู้ที่ใช้อาวุธปืนเอชเค 33 แบบยาว ก่อเหตุยิงขึ้นฟ้า คือพลทหารลือพงษ์ คงหวาน อายุ 22 ปี เป็นทหารสังกัดกองพันกระสุน ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ต.กะปาง อ.ทุ่งสง ซึ่งรู้จักสนิทสนมกัน



ก่อนเกิดเหตุ ตนได้นั่งรวมกลุ่มดื่มสุรากับเพื่อนอยู่หน้าบ้าน

ต่อมาพลทหารลือพงษ์ได้เข้าร่วมดื่มด้วย โดยถือสิ่งของมีผ้าขนหนูสีแดงห่อทับไว้ มาทราบภายหลังว่าเป็นปืนเอชเค 33 หลังจากนั่งดื่มสุราจนเมาได้ที่ จู่ๆ พลทหารลือพงษ์ ลุกขึ้นคว้าห่อขนหนูเปิดออก

จากนั้นยกปากกระบอกปืนยิงขึ้นฟ้า 3 นัด

เสียงดังสนั่นหวั่นไหว สร้างความตกตะลึงให้กลุ่มเพื่อนที่นั่งดื่มสุราอยู่อย่างมาก แต่หลังสิ้นเสียงปืน ก็เห็นพลทหารลือพงษ์กระโดดขึ้นท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีนายอมรติดเครื่องรออยู่แล้วขี่หายไปในความมืด มุ่งหน้าไปทางถ้ำตลอด

เห็นดังนั้นตนจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์ตามไป

เพื่อห้ามปรามเพราะเกรงว่าจะเอาอาวุธสงครามไปก่อเหตุร้ายด้วยความคึกคะนอง แต่ไม่พบตัว เมื่อย้อนกลับบ้านก็ถูกตำรวจจับมาสอบสวน

ต่อมาเวลา 09.10 น. วันที่ 17 พฤษภาคม

มีนายทหารจากกองพันกระสุน 3 นาย เข้าพบ พ.ต.ท.ชัยภัทร เจ้าของคดี เพื่อขอทราบรายละเอียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ขอผู้สื่อข่าวอย่าเผยแพร่เรื่องนี้ เพราะเกรงทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยแจ้งว่าพร้อมที่จะนำตัวพลทหารลือพงษ์ ผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวกับตำรวจ

พ.ต.ท.ชัยภัทร เจ้าของคดี กล่าวว่า

ในทางคดีเอาผิดได้ในประเด็นนำอาวุธปืนมาก่อเหตุในที่สาธารณะ ซึ่งได้ให้รายละเอียดกับต้นสังกัดของพลทหารรายนี้ไปแล้ว ต้องรอผู้บังคับบัญชานำเข้ามอบตัวเพื่อสอบสวนต่อไป



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์