พริ้ตตี้ ร้องปวีณา ถูก ‘ร.ต.ท.’ ขี้หึง เหยียบหน้า-จับแก้ผ้า-ถ่ายรูปข่มขู่!!

พริ้ตตี้ ร้องปวีณา ถูก ‘ร.ต.ท.’ ขี้หึง เหยียบหน้า-จับแก้ผ้า-ถ่ายรูปข่มขู่!!

นศ.สาวพริ้ตตี้ ร้องปวีณา ถูก ‘ร.ต.ท.’ ขี้หึง เหยียบหน้า-จับแก้ผ้า-ถ่ายรูปข่มขู่!! ฉุนคุยไลน์กับรุ่นน้อง

 เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 พ.ย. น.ส.เจนนี่ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
 
และมีอาชีพเป็นสาวพริ้ตตี้ถ่ายแบบงานต่างๆ ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ที่สำนักงานมูลนิธิ เลขที่ 84/14 ถนนรังสิต-นครนายก(คลอง 7) ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี ปทุมธานี กรณี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ยศ ‘ร.ต.ท.’ ชื่อ แก๊ส (นามสมมติ) ซึ่งคบหาเป็นแฟนกัน ทำร้ายร่างกาย พยายามข่มขืน และทำให้อับอาย

 น.ส.เจนนี่ ให้การว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา

โดย ‘ร.ต.ท.’ คนนี้ อยู่สน.แห่งหนึ่งใน กทม. จะขับรถไปรับที่ทำงานย่านถนนเกษตร-นวมินทร์ และพาไปที่บ้านของ ‘ร.ต.ท.’ ซึ่งอยู่ในเคหะร่มเกล้า เมื่อไปถึงตนนอนพักผ่อน ในที่สุดก็เผลอหลับไป โดยวางโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ มารู้สึกตัวตื่นอีกที ตอนที่ ‘ร.ต.ท.’ ใช้มือกระชากผม จากนั้นก็ได้ฉีกเสื้อผ้าและใช้กรรไกรตัดเสื้อผ้าขาด จนล่อนจ้อน

 ซึ่งตัว ‘ร.ต.ท.’ ก็อยู่ในสภาพร่างกายเปลือยเปล่าเช่นกัน จากนั้นก็ใช้ปากดูดกัดตามคอและเนินอก จนมีรอยเขียวเป็นจ้ำๆ

พร้อมกับบอกว่า ต้องการให้ตนได้รับความอับอาย โทษฐานที่คุยไลน์กับเพื่อนรุ่นน้อง ซึ่งคนที่ตนคุยด้วย เป็นน้องนักศึกษาชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยเดียวกัน และยังเป็นคนบ้านเดียวกันอีกด้วย หลังจากที่กระทำต่อตนร่างกายเป็นจ้ำๆ แล้ว ก็จะข่มขืนตน  แต่แล้วทาง ‘ร.ต.ท.’ ก็เปลี่ยนใจ แล้วใช้เท้าเหยียบบริเวณใบหน้าซ้ายของตน และใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปไว้ พร้อมกับพูดข่มขู่ว่า “หากมึงไปบอกใคร จะเผยแพร่ภาพ ให้อับอาย และไม่สามารถทำงานไม่ได้”        

 น.ส.เจนนี่ ให้การอีกว่า จากนั้น ‘ร.ต.ท.’ ได้ใช้มือจิกผมลากตนออกจากบ้านในสภาพเปลือยเปล่าและไล่ให้กลับที่พักของตนเอง

 ซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 3-4 กิโลเมตร ระหว่างนั้น ตนคว้าเสื้อเชิ้ตมาได้ตัวหนึ่ง พอจะปกปิดร่างกายได้บ้าง แต่ก็เป็นเพียงแค่ท่อนบน ส่วนท่อนล่างไม่มีอะไรปกปิดสักชิ้นเดียว รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ได้วิ่งออกมาโดยไม่คิดชีวิต เมื่อวิ่งออกจากบ้านดังกล่าวสักพักหนึ่ง มีแท็กซี่พลเมืองดีจอดรับและบอกไม่ต้องกลัว เดี๋ยวจะไปส่งให้ถึงที่พักในมหาวิทยาลัยให้ ตนจึงกระโดดขึ้นแท็กซี่ทันที โดยแท็กซี่คันดังกล่าวพาตนมาถึงที่พักในมหาวิทยาลัย ด้วยความปลอดภัยและไม่เก็บค่าโดยสารแม้แต่บาทเดียว

 น.ส.เจนนี่ ให้การต่อว่า เมื่อเพื่อนๆ เห็นสภาพของตน จึงรีบพาส่ง รพ. ลาดกระบัง เพื่อรักษาบาดเจ็บ เมื่ออาการทุเลา ตนตัดสินใจจะไปแจ้งความ แต่ก็เกิดกลัวเพราะ ‘ร.ต.ท.’ เป็นตำรวจในท้องที่ดังกล่าว ต่อมาตนตัดสินใจที่จะเข้า ร้องทุกข์นางปวีณา

 น.ส.เจนนี่ ยังเล่าต่ออีกว่า ตนรู้จักกับ ‘ร.ต.ท.’ ได้ประมาน 1 ปี หลังจากที่ตนเข้าไปแจ้งความเรื่องถูกชิงทรัพย์ และได้คบหาเป็นแฟนกัน

 นางปวีณา กล่าวว่า หลังจากได้พบ น.ส.เจนนี่ รู้สึกสงสารมาก และตามตัว น.ส.เจนนี่ ซึ่งยังมีร่องรอยที่ถูกทำร้ายเหลืออยู่ หลังจากที่ถูกทำร้ายมา 2 วันคดีนี้ ตำรวจเป็นผู้พิทักษ์กฎหมาย ไม่ควรกระทำความผิดเช่นนี้ ควรที่ต้องได้รับผิด 2 เท่า เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ซึ่งในปัจจุบัน ความรุนแรง ในเด็กและสตรี ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 อันดับที่ 1 คือ การข่มขืน ฉะนั้นต้องให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการเอาผิดทางวินัย และดำเนินคดีทางกระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้จะมอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ มูลนิธิปวีณาฯ พา น.ส.เจนนี่ เข้าแจ้งความที่กองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์