อาละวาดหนักโจรจตุคาม-วัดนครฯโดนอีก

วันเดียว2รายซ้อนสุราษฎร์ก็ลักด้วย



โจรจตุคามรามเทพอาละวาดหนัก ก่อเหตุขโมยรายวัน ที่เมืองคอนฯ วันเดียว 2 รายซ้อน

รายแรกเจ้าของแผงขายวัตถุมงคลในวัดวังตะวันออก

โดนงัดเหล็กดัดหน้าต่างเข้าโจรกรรม กวาดจตุคามรามเทพหลากรุ่นไปกว่า 100 องค์ มูลค่า 2.5 แสนบาท อีกรายแผงในตลาด คนร้ายตัดกุญแจขาดเข้าไปลักจตุคาม 20 องค์ และพระเครื่องอีกกว่า 100 องค์ สุราษฎร์ก็มีแก๊งลักทรัพย์ ออกตระเวนก่อเหตุตามบ้าน ขโมยทั้งทรัพย์สินและจตุคามฯ ตร.โชว์ฝีมือรวบได้ยกแก๊ง

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 14 พ.ค. ร.ต.ต.มนตรี วรรณคง

ร้อยเวรสภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งว่า มีเหตุคนร้ายงัดแงะร้านจำหน่ายวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ ภายในวัดวังตะวันออก ต.ท่าวัง จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบว่า ที่เกิดเหตุเปิดเป็นแผงวัตถุมงคล

เช่าที่ของวัด ปลูกสร้างด้วยคอนกรีตชั้นเดียว ภายในร้านมีร่องรอยรื้อค้นกระจัดกระจาย ส่วนเจ้าของแผงทราบชื่อว่านายเทวี ไชยพล อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ซอยก้าวหน้า 4 ต.ในเมือง

นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในร้าน

พบว่าหน้าต่างเหล็กดัดถูกคนร้ายงัดแงะจนพังเสียหาย แล้วเข้ามาทุบตู้กระจกกวาดเอาวัตถุมงคลหลบหนีไป ประกอบด้วยวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ รุ่นโคตรเศรษฐี เงินไหลมา 1-2 ราชันย์ดำ และอีกหลายรุ่นรวมนับ 100 องค์ มูลค่าประมาณ 2.5 แสนบาท



นายเทวีให้การว่า ตนไม่ได้พักอยู่ที่แผง

ตอนเย็นทุกวันจะปิดแผงแล้วกลับบ้าน แต่ก็ได้ล็อกประตูไว้เป็นหนาแน่น กระทั่งเช้าวันนี้มาเปิดแผง ก็พบว่าถูกคนร้ายงัดเข้ามาขโมยวัตถุมงคลไปจำนวนมาก

ขณะที่ตำรวจกำลังสอบสวนผู้เสียหายรายแรก

เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุสภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้แจ้งกำลังตำรวจชุดเดิมว่าที่แผงวัตถุมงคลแยกริมวัง ต.ท่าวัง อ.เมือง ห่างจากจุดเกิดเหตุเดิมประมาณ 100 เมตร ถูกคนร้ายงัดแงะขโมยจตุคามรามเทพอีกราย

จึงไปตรวจสอบพบเจ้าของแผงคือนายประจักษ์ ภักดี

อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/45 ซ.เสรีภาพ ต.ท่าวัง อ.เมือง นครศรีธรรมราช และพบว่า ที่แผงดังกล่าวกุญแจขนาดใหญ่ที่ใช้ล็อกประตูถูกตัดจนขาด

นายประจักษ์ให้การว่า หลังจากเดินทางมาเปิดร้าน

พบกุญแจโดนตัด เมื่อเข้าไปตรวจดูในแผงพบว่า วัตถุมงคลจตุคามรามเทพรุ่นสรงน้ำ 50 จำนวน 20 องค์ มูลค่าประมาณ 10,000 บาท ในตู้กระจกถูกโจรกรรมไปจนหมด และยังมีวัตถุมงคลรุ่นอื่นๆ อีกนับ 100 องค์

เจ้าหน้าที่กองวิทยาการได้ทำการเก็บรอยลายนิ้วมือแฝง

และหลักฐานของคนร้าย เพื่อนำไปตรวจสอบและติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ส่วนคนร้ายคาดว่า น่าจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพที่คอยสังเกตการณ์แผงต่างๆ ที่ไม่มีคนอยู่ตอนกลางคืนก็จะเข้าไปงัดแงะขโมยวัตถุมงคล



เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 3

ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.เบญจมันต์ จันทร์เกิด ผกก.สภ.อ.เคียนซา พ.ต.ท.ปฏิยุทธ ศรีประดิษฐ์ รองผกก.ป พ.ต.ต.กิตติพงศ์ ไพเมือง สวป.

ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแก๊งลักทรัพย์

ผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นายวีรยุทธ ชูณรงค์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170 ม.3 ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นายสิทธิชัย สุวรรณภูมิ อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 121 ม.1 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี

นายชัชรินทร์ กรมภักดี อายุ 27 ปี

บ้านเลขที่ 201 ม.9 ต.ปากแพรก และนายอากร ไม้ค้าง อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 77 ม.3 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช

พร้อมของกลางประกอบด้วย

รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรลล่า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน วฐ 1621 กทม. โทรศัพท์ 1 เครื่อง สร้อยคอสีทองลายโซ่ 2 เส้น สร้อยข้อมือทอง 4 เส้น แหวนทอง 6 วง ตุ้มหูทอง 2 คู่

วัตถุมงคลจตุคามรามเทพ

และพระเครื่องอื่นๆ เกือบ 100 องค์ อุปกรณ์งัดแงะจำนวนหนึ่ง โดยกล่าวร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด



การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเย็นวันเดียวกัน

ขณะเจ้าหน้าที่ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ รับแจ้งจากนายสมชัย ไทยเกิด ผู้เสียหายว่ามีคนร้าย 4 คน เข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 124/8 ม.1 ต.พ่วงพรมคร อ.เคียนซา

โดยผู้เสียหายไล่ติดตามไปตามถนนภายในหมู่บ้าน

คนร้ายได้วิ่งไปขึ้นรถเก๋งพยายามจะขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ที่รับแจ้งมาทันและจับกุมคนร้ายไว้ได้ทั้งหมด เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันใช้รถยนต์เก๋งตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือนชาวบ้านใน

อ.เคียนซาและพื้นที่ใกล้เคียง

โดยเฉพาะจตุคามรามเทพ และพระเครื่องอื่นๆ เมื่อได้ทรัพย์สินมาก็จะนำไปขายนำเงินมาแบ่งกัน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.อ.เคียนซาดำเนินคดี

ขณะเดียวกันเกิดอุบัติเหตุซึ่งผู้ประสบเหตุ

เชื่อว่าจตุคามรามเทพคุ้มครอง เมื่อเวลา 00.30 น. พ.ต.ท.จีวัฒน์พงษ์ เรืองดี พนักงานสอบสวนสภ.อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งมีเหตุรถไฟชนรถยนต์มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนสายบ้านทุ่งกราด-หนองพังพวย ม.4 ต.บางละมุง หลังรับแจ้งจึงนำกำลังพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์พัทยารุดไปสอบสวน

ที่เกิดเหตุเป็นถนนตัดข้ามทางรถไฟสายทุ่งกราด-หนองพังพวย

ห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 5 ก.ม. พบรถยนต์ยี่ห้อซูซูกิ แคริบเบียน สีขาว ทะเบียน ง 2213 ชลบุรี พลิกหงายท้องอยู่ข้างทาง สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน ส่วนผู้บาดเจ็บมี 2 ราย เป็นสามีภรรยากัน



มีผู้นำส่งร.พ.บางละมุงไปก่อนหน้านี้

จึงตามไปสอบสวนทราบชื่อคือ นายพูนพล นครภักดี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 ม.2 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย และ น.ส.ศศิมา ทองสุข อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211/9 ม.12 ต.ทุ่งศุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ศีรษะแตก

มีแผลถลอกตามร่างกาย ส่วนรถไฟทราบว่าเป็นรถบรรทุกแก๊ส 22 โบกี้ จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้านิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง

นายพูนพลให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถยนต์พาน.ส.ศศิมา

ภรรยาไปเยี่ยมมารดาที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังจากเสร็จธุระจึงเดินทางกลับบ้านพัก ในเครือสหพัฒน์ที่ อ.ศรีราชา โดยใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อเป็นทางลัดกลับบ้าน ขณะขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นถนนข้ามทางรถไฟ

มีแสงไฟส่องสว่างเพียงเล็กน้อย

ขณะนั้นแผงกั้นทางรถไฟก็พาดลงมาพร้อมเปิดไฟแดง เป็นสัญญาณว่ามีรถไฟมา แต่ตนเห็นว่าแผงกั้นมีช่องพอให้รถแล่นผ่านไปได้ จึงเร่งเครื่องขับรถข้ามทางรถไฟ ขณะนั้นได้ยินเสียงภรรยาร้องตะโกนด้วยความตกใจว่ารถไฟมา



จึงเข้าเกียร์ถอยหลังเพื่อถอยกลับ แต่ไม่ทัน

จึงถูกขบวนรถไฟบรรทุกแก๊สชนรถฝั่งที่ภรรยานั่งอยู่อย่างแรงเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้รถกระเด็นพลิกคว่ำหลายตลบหงายท้องตกลงข้างทาง

นายพูนพลให้การต่อไปว่า

หลังจากรถคว่ำจึงร้องเรียกภรรยาแล้วพากันคลานออกจากตัวรถ เพราะเกรงว่ารถจะเกิดไฟไหม้ และต้องประหลาดใจมากที่ตนเองและภรรยารอดตายราวปาฏิหาริย์ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

เชื่อว่าเป็นเพราะปาฏิหาริย์ขององค์จตุคามรามเทพรุ่นรักพ่อ

ที่ทางสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยจัดสร้างขึ้น และตนได้เช่าบูชาต่อมาจากเพื่อนผู้สื่อข่าวนำมาคล้องคอไว้ ทำให้พวกตนรอดตายในครั้งนี้อย่างเหลือเชื่อ พร้อมกันนั้นนายพูนพลได้นำจตุคามรามเทพรุ่นรักพ่อโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์