เหยื่อแก๊งค้าคนโผล่อีก โจ๋16ถูกกระชากขึ้นรถ

"คืบหน้า แก๊งค้ามนุษย์"



ความคืบหน้ากรณีมีแก๊งค้ามนุษย์ดักล่อลวงเหยื่อชายวัยรุ่นต่างจังหวัดที่เข้ามาเผชิญโชคในเมืองหลวง

ด้วยรูปแบบอุกอาจเป็นภัยต่อสังคม

ทั้งใช้ยาสลบโปะ ใช้อาวุธปืนดักจี้ อุ้มตัวขึ้นรถตู้ นำไปขายต่อให้กับเรือประมง เป็นทาสแรงงาน ทำงานอยู่กลางทะเลล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พ.ค. พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม

รับผิดชอบงานด้านพิทักษ์สิทธิเด็กฯ

กับนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ประชุมหารือร่วมกันเกี่ยวกับการช่วยเหลือด้านการคุ้มครองและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อเหยื่อเด็กผู้ชายวัย 16 ปี รายหนึ่ง

ที่ถูกขบวนการแก๊งค้ามนุษย์ใช้รถปิกอัพ

เป็นพาหนะดักฉุดตัวอุ้มขึ้นรถไปกักขังเตรียมส่งขายต่อให้กับเรือประมง โดยมีพนักงานสอบสวนจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ปดส.)

เข้าร่วมซักถามสอบปากคำเพื่อหาข้อมูล

ซึ่งเด็กชายเหยื่อแก๊งนรกมีอาการหวาดผวาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา จนต้องให้นักจิตวิทยารักษาทำการบำบัดสภาพจิตใจ



รายละเอียดเบื้องต้นทราบว่า

ช่วงเวลาประมาณ บ่าย 3 โมง ขณะเหยื่อออกจากบ้านพักของญาติ รอขึ้นรถประจำทางไปขนส่งหมอชิตใหม่ อยู่ป้ายรถประจำทาง ริมถนนพระราม 2 ย่านเมืองมหาชัย จ.สมุทรสาคร

เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา ที่ จ.อุดรธานี

มีรถปิกอัพคันหนึ่ง มีผู้ชายวัยกลางคน ผิวเนื้อดำแดงเป็นคนขับ และผู้หญิงไว้ผมยาว ผิวเนื้อดำแดง จอดเทียบและสอบถามว่าจะไปไหน เมื่อเหยื่อตอบไปว่ากำลังจะกลับบ้าน ผู้หญิงที่นั่งอยู่ได้ลงมากระชากตัวผลักขึ้นไปบนรถ

พร้อมนั่งประกบคู่กันไป ระหว่างทางผู้ชาย

คนขับชักปืนขึ้นมาขู่ไม่ให้ส่งเสียงร้อง และใช้ผ้าปิดตาพาไปบ้านหลังหนึ่งใช้เวลาเดินทางไม่นาน ปรากฏว่ามีผู้ชายวัยรุ่นอยู่ 3-4 คน ถูกหลอกมาขังอยู่ก่อน

นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคม

และความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเด็กผู้ชายวัยรุ่นถูกล่อลวง ลักพาตัวไปเพื่อเป็นทาสแรงงานอยู่บนเรือประมงหลายราย ทางเราได้เข้าช่วยเหลือคุ้มครองดูแลเด็กเหล่านี้อยู่ 2-3 กลุ่ม

กลุ่มหนึ่งมีประมาณ 2-3 คน ถูกล่อลวง

ในลักษณะแตกต่างกันไป แต่จุดประสงค์ เป้าหมายของมิจฉาชีพเพื่อนำไปขายให้กับพวกสำนักงานจัดหางานเถื่อน และส่งขายต่อให้กับเจ้าของกิจการทำเรือประมง ได้ประสานข้อมูลให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดำเนินการ



ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงและเป็นภัยต่อสังคม

จะต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งให้ความรู้กับประชาชนทั่วไปที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ให้ ระมัดระวังตัวจากการถูกล่อลวงหรือลักพาตัวไป คาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้าคงจะได้ข้อสรุป

ซึ่งมีรายงานว่า ทางด้าน พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์

รอง ผบ.ตร. มีหนังสือสั่งการด่วนไปยัง พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.ปดส. ให้เร่งดำเนินการสืบสวนจับกุมแก๊งค้ามนุษย์รายนี้แล้ว

ขณะเดียวกัน ที่ บก.ปดส. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์

ผบก.ปดส. เรียกประชุมนายตำรวจที่ถูกตั้งเป็นคณะทำงานคลี่คลายในคดีเด็กถูกล่อลวงไปเป็นทาสแรงงานบนเรือประมง ประกอบด้วย พ.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม ผกก.1 บก.ปดส. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน

พ.ต.ท.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ รอง ผกก.1 บก.ปดส.

เป็นรองหัวหน้าชุดสืบสวน และ พ.ต.ท.ปัญญา ชะเอมเทศ สว.งาน 1 บก. ปดส.เป็นชุดพนักงานสอบสวน จากนั้นได้สอบปากคำเหยื่อที่หนีรอดจากการถูกล่อลวงไปกักขังหน่วงเหนี่ยว เพื่อรอส่งต่อไปลงเรือประมง และเหยื่อที่ถูกส่งไปลงเรือแล้วกระโดดลงทะเลหนีรอดมาได้

พ.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม ผกก.1 บก.ปดส.

เปิดเผยว่า กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องแล้ว และผู้เสียหายบางคนรู้แหล่งที่ถูกนำตัวไปกักขังหลายแห่ง เตรียมขอหมายค้นไว้หลายจุด มีทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด



สำหรับเครือข่ายแก๊งนี้แบ่งกันทำงานเป็นขั้นตอน

เริ่มจากกลุ่มนายหน้าจะตระเวนหาเหยื่ออยู่ตามสถานีขนส่ง ท้องสนามหลวง และหัวลำโพง เมื่อล่อลวงเหยื่อได้จะนำส่งไปขายให้กับสำนักงานเถื่อน จะได้ค่าหัว หัวละ 500-1,000 บาทอีกทอดหนึ่ง จากนั้นทางสำนักจัดหางานเถื่อนจะไปเสนอขายให้กับเจ้าของกิจการเรือประมงในราคาหัวละ 5,000-10,000 บาท

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน เวลา 13.00 น.

โรงแรมปรินซ์ พาเลซ มีการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพิจารณาแนวทางปฏิบัติที่ดีของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบ ปรามการค้ามนุษย์จังหวัด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

โดย พล.ต.ต.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์

รองผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บรรยายเรื่อง วิธีพิจารณาการเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ว่า เมื่อก่อนเหยื่อการค้ามนุษย์มักพูดถึงผู้หญิงกับเด็กเป็นสำคัญ

แต่วันนี้มีเรื่องของผู้ชายเกิดขึ้น

ซึ่งผู้ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์มีความสำคัญเยี่ยงพยานวัตถุของคดีสำคัญๆ เช่น การค้ายา หรือค้าอาวุธ รูปแบบการค้ามนุษย์มีอยู่ 2 เรื่องคือ ทางเพศและแรงงาน ทางเพศ ก็มีทั้งสู่บริการทางเพศเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น

เพื่ออนาจารและเพื่อการค้าประเวณี

ส่วนแรงงานจะมีทั้งแรงงานทาสและแรงงานเด็ก เป็นการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก เช่น แรงงานเด็ก รวมถึงการตัดเอาอวัยวะของเด็ก สำหรับผู้ชายมักจะเป็นการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน จะเข้าข่ายการเอาคนลงเป็นทาส



ส่วนเรื่องทางเพศมักจะเป็นกะเทยมากกว่า

ซึ่งถ้าเป็นการสมัครใจไม่ได้ถูกหลอกก็ไม่ถือเป็นการค้ามนุษย์ สำหรับการค้าประเวณี กรณีเด็กทำโดยสมัครใจอยากค้าประเวณีเอง ไม่มีใครได้รับผลประโยชน์ โดยมีการโฆษณา

กรณีนี้ถือว่าไม่เป็นการค้ามนุษย์

แต่จะเข้าข่ายผิดกฎหมายการค้าประเวณี ถ้าเด็กสมัครใจเหมือนกัน แต่มีคนจัดหา ตามออเดอร์แบบนี้จะเข้าข่ายการค้ามนุษย์ และเด็กจะตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์

จากกรณีที่เป็นข่าวนั้น

ผู้กระทำการล่อลวงมีความผิดเอาคนลงเป็นทาส ในกฎหมายอาญา มาตรา 312 มีโทษจำคุกหลายปี แต่ปัญหาคือยังไม่มีคนมาแจ้งความ เลยไม่มีข้อมูลเรื่องนี้และเป็นการทำงานในทะเลยิ่งยากไม่

ค่อยเปิดเผยเท่าไหร่

แต่ได้ยินว่ามีพฤติกรรมแบบนี้ เช่นเดียวกับเรื่องการส่งกะเทยไปค้าประเวณี ที่ส่วนใหญ่เป็นแบบสมัครใจ ไม่ได้ถูกหลอก จึงไม่ค่อยมีเรื่องเข้ามาร้อง เรียน พล.ต.ต.ชัชวาลย์กล่าว



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์