ดูชัดๆ ขั้นตอนขอพระราชทานเพลิงศพ - ศพอภิวันท์ สมควรได้รับเกียรติหรือไม่

ดูชัดๆ ขั้นตอนขอพระราชทานเพลิงศพ - ศพอภิวันท์ สมควรได้รับเกียรติหรือไม่

ปมการเสียชีวิตอภิวันท์ กลายเป็นประเด็นร้อนแรงอีก เฉพาะอย่างยิ่งจากประเด็นที่มีการพูดถึงเรื่องของการขอพระราชทานเพลิงศพก็กลายเป็นเรื่องที่นำไปสู่ปมขัดแย้งของขั้วการเมืองอีกครั้งหนึ่ง

โดยเรื่องดังกล่าวนั้นก็เริ่มต้นจาก เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา  นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเสียชีวิตของ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะทำหน้าที่ประสานกับสำนักพระราชวัง เพื่อขอพระราชทานเพลิงศพให้ หากทางญาติของ พ.อ.อภิวันท์ ร้องขอมา ขณะเดียวกันนั้นก็ได้เตรียมเงินกองทุนค่าทำศพ เพื่อมอบให้กับญาติแล้ว จำนวนเงิน 1 แสนบาท


และในวันนี้นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ มีจดหมายถึงราชเลขาธิการ เรื่องการงดพระราชทานเพลิงศพ พันเอกอภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ที่หนีไปอยู่ต่างประเทศหลังถูกศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับในความผิดตามประมวลอาญามาตรา 112 โดยในเนื้อหาของจดหมายระบุว่า ผู้ที่หมิ่นสถาาบัน ไม่ควรขอพระราชทานเพลิงศพ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ข้าราชการไทยต่อไป


ทั้งนี้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นก็ได้ระบุว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี

ส่วนทางด้านของนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ก็ได้เปิดผยถึงกรณีที่นายเทพมนตรี ลิมปพยอม ว่า ตนก็เห็นว่า พ.อ.อภิวันท์ ได้เสียชีวิตไปแล้วก็ไม่เคยทำอะไรให้ใคร จึงถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเป็นการทำให้ราชเลขาธิการอึดอัดใจ ส่วนเรื่องการขอพระราชทานเพลิงศพ ก็เห็นว่า พ.อ.อภิวันท์ ก็เป็นคนไทยคนหนึ่งแล้วยังได้รับพระราชทานสายสะพายก็เป็นสิทธิที่ควรได้รับพระราชทานเพลิงศพ และข้อกล่าวหาที่ถูกตั้งขึ้นก็ยังไม่มีการตัดสินของศาลว่าผิดจริงหรือไม่ จึงไม่อยากให้อาฆาตพยาบาทกันคนก็เสียชีวิตไปแล้ว

อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องนี้เกี่ยวกับการพระราชทานเพลิงศพทางทีมข่าวสำนักข่าวทีนิวส์นั้นก็ได้โทรศัพท์ไปสอบถาม นายวันชัย เจริญนนทสิทธิ์ อดีตส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย คนสนิท พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัยกรณีที่จะมีการขอพระราชทานเพลิงศพพ.อ.อภิวันท์ โดยได้ข้อมูลว่าว่าจะไม่มีการขอพระราชทานเพลิงศพ

ว่าด้วยเรื่องของการขอพระราชทานเพลิงศพ มันไปใช่ประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์เท่านั้นแต่ตามหลักเกณฑ์ของสำนักพระราชวังก็มีข้อระเบียบกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าบุคคลที่จะขอพระราชทานเพลิงศพจะต้องมีคุณสมบัติยังไงบ้าง

โดยหลักเกณฑ์ในการขอพระราชทานเพลิงศพผู้มีสิทธิ์ได้รับพระราชทานเพลิงหลวง และหีบเพลิงต้องมีตำแหน่งและชั้นยศ ดังต่อไปนี้

1. พระสมณศักดิ์ ตั้งแต่ชั้น “พระครูสัญญาบัตร” ขึ้นไป

2. พระราชวงศ์ ตั้งแต่ชั้น “หม่อมเจ้า” ขึ้นไป

3. ผู้ที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์

4. ข้าราชการพลเรือนสามัญตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป

5. ข้าราชการฝ่ายทหาร ตำรวจ ยศชั้นร้อยตรี ขึ้นไป

6. พนักงานเทศบาลตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป

7. ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตั้งแต่ “เบญจมดิเรกคุณาภรณ์” (บ.ภ.) และ “เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย” (บ.ม.) ขึ้นไป

8. ผู้มีเกียรติที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ “จุลจอมเกล้า” (จ.จ.) หรือ “ตราสืบตระกูล” (ต.จ.) ขึ้นไป


9. ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญ “รัตนาภรณ์” รัชกาลปัจจุบัน

10. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล ที่ถึงแก่กรรมในขณะดำรงตำแหน่ง

11. รัฐมนตรีที่ถึงแก่อนิจกรรม

12. ผู้ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นกรณีพิเศษ

นอกจากนี้ก็ยังมีหลักเกณฑ์ในการขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ โดยที่ผู้ที่สมควรได้รับการพิจารณาในการขอพระราชทานเพลิงศพกรณีพิเศษ ควรอยู่ในหลักเกณฑ์ ดังนี้

1. ผู้ที่อยู่ในราชสกุล ชั้นหม่อมราชวงศ์และหม่อมหลวง

2. พระสงฆ์ที่พระราชาคณะพิจารณาขอพระราชทานให้

3. พนักงานรัฐวิสาหกิจระดับสูง


4. ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญราชรุจิเหรียญกล้าหาญ และเหรียญชัยสมรภูมิ

5. ผู้ที่ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ เช่น ศิลปินแห่งชาติ นักกีฬาระดับชาติอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อดีตสภาร่างรัฐธรรมนูญ อดีตสมาชิกสภาจังหวัดหรืออดีตสมาชิกสภาเทศบาล

6. ผู้ที่ทำประโยชน์ เช่น บริจาคเพื่อการกุศล คิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 300,000 บาท บริจาคร่างกายหรืออวัยวะ


7. บิดามารดาของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับ 6 ขึ้นไป


8. บิดามารดาของผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ “ตติตาภรณ์ช้างเผือก” (ต.ช.) ขึ้นไป

9. บิดามารดาของพระสมณศักดิ์ ตั้งแต่ชั้น “พระครูสัญญาบัตร” ขึ้นไป

10. บิดามารดาของข้าราชการทหาร ตำรวจ ตั้งแต่ระดับพันโท นาวาโท นาวาอากาศโท และพันตำรวจโท ขึ้นไป

ในส่วนของขั้นตอนในการขอพระราชทานเพลิงศพ มีดังนี้

1. การขอพระราชทานเพลิงศพ : เจ้าภาพหรือทายาทผู้ประสงค์ขอพระราชทานเพลิงศพ จะต้องทำหนังสือแจ้งไปยังกระทรวงเจ้าสังกัดของผู้ถึงแก่กรรม โดยระบุ

- ชื่อ ตำแหน่ง ชั้น ยศ ของผู้ถึงแก่กรรม

- ถึงแก่กรรมด้วยโรคอะไร ที่ไหน เมื่อใด

- ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อะไรบ้าง

- มีความประสงค์จะขอรับพระราชทานเครื่องเกียรติยศประกอบศพอย่างใดบ้าง

- ระบุวัน เวลา สถานที่ที่ฌาปนกิจ

2. การขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ : เจ้าภาพหรือทายาท

ผู้ประสงค์ขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ต้องทำหนังสือถึงเลขาธิการสำนักพระราชวัง โดยระบุ

- ชื่อ - สกุล และประวัติโดยย่อของผู้ถึงแก่กรรม

- ถึงแก่กรรมด้วยโรคอะไร ที่ไหน เมื่อใด

- ระบุคุณงามความดีที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติหรือคุณสมบัติ

ส่วนในเรื่องของ หลักฐานที่ต้องนำมาแสดงในการขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษนั้น จะต้องนำหลักฐานมาแสดง แก่เจ้าหน้าที่ ดังนี้

- ใบมรณบัตรของผู้ถึงแก่กรรม

- ใบทะเบียนบ้านของทายาทผู้ถึงแก่กรรม

- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรข้าราชการของทายาทของผู้ถึงแก่กรรม

- หนังสือรับรองจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจใบอนุโมทนาบัตร ใบประกาศ เหรียญกล้าหาญ หรือเหรียญชัยสมรภูมิ ทั้งนี้ ต้องนำเอกสาร ต้นฉบับและสำเนาแนบมาพร้อมกับหนังสือด้วย

3. ติดต่อวัดเพื่อเตรียมการพระราชทานเพลิงศพ : ในการขอพระราชทานเพลิงศพ ทั้งตามเกณฑ์ที่ได้รับพระราชทานและกรณีพิเศษนั้นจะต้องไม่ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และวันเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติพระราชพิธีฉัตรมงคล และตามประเพณีนิยมไม่มีการเผาศพในวันศุกร์


แต่อย่างไรก็ตามสำหรับขั้นตอนการนำร่างของอภิวันท์ในการนำกลับมาประเทศไทยนั้นก็มีการเลื่อนออกไปจากวันที่ 10 ตุลาคม เป็นวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม
โดยที่หน้าเพจเฟซบุ๊คของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ได้โพสต์ข้อความว่า "ขอเชิญพี่น้องร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายให้กับพี่เปีย พันเอก ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย
ตามกำหนดการเบื้องต้นดังนี้ วันเสาร์ที่ 11 ต.ค.เวลา 15.20 น.ถึงประเทศไทยด้วย TG621 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันอาทิตย์ที่ 12 ต.ค.เวลา 13.00 น.รดน้ำศพ ณ วัดบางไผ่ จ.นนทบุรี"


ขณะที่นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีการกำหนดเลื่อนรับร่าง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกไปเป็นวันที่ 11 ต.ค.เวลา 15.20 น.เที่ยว TG621 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากเดิมวันที่ 10 ต.ค.เนื่องจากขั้นตอนการเตรียมเอกสารยังไม่พร้อม


เราข้ามมาดูปฎิกริยาของทางอีกฝ่ายหนึ่งซี่งนายนิพิฎฐ์  อินทรสมบัติ  รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ออกมากล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย โดยนายนิพิฎฐ์  อินทรสมบัติ  ก็กล่าวว่าตนนขอแสดงความไว้อาลัย การเสียชีวิตของ พ.อ.อภิวันท์ แต่ตนก็มีความเห็นต่างในทางการเมืองกับกลุ่มคนบางกลุ่ม และบางคน


ที่ผ่านมาตนก็ต่อสู้กับความคิดที่อยู่ในตัวคน ต่อสู้ตามกรอบกติกาที่อยู่ในสังคมเดียวกัน  ร่วมสร้างกันขึ้นมา  ตนไม่ได้ต่อสู้ทางกายภาพกับตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของความคิดนั้น เมื่อตัวบุคคลเจ้าของความคิดล้มหายตายจากไป ตนก็ไม่ได้ยินดีในการที่เขาจากไป มีแต่เสียใจและขอให้เราอโหสิซึ่งกันและกัน ดังนั้นจึงขอแสดงความไว้อาลัยต่อครอบครัวของ พ.อ.อภิวันท์ด้วย


อย่างไรก็ตามก็ยังมีคนเสื้อแดงและกลุ่มนักการเมืองกลุ่มหนึ่งก็ได้พยายามที่จะใช้ความตายของ พ.อ.อภิวันท์ มาเป็นเงื่อนไขในการต่อสู้ทางการเมืองถึงขั้นที่มีการกล่าวว่าถ้าต้องการให้ดวงวิญญาณของ พ.อ.อภิวันท์ นั้นไปสู่สุขติจะต้องออกมาต่อสู้และก็เอาชนะอำมาตย์ให้ได้


โดยเริ่มกันที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความอาลัยถึง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่าได้ติดต่อกับ พ.อ.อภิวันท์ มาโดยตลอด นับตั้งแต่มีการประกาศกฎอัยการศึก จนกระทั่งมีอาการป่วยหนัก ภาวนาขอให้หายจากอาการป่วยโดยเร็ว แต่ท้ายที่สุด พ.อ.อภิวันท์ ก็เสียชีวิตลง เมื่อ 22.38 น. วันที่ 6 ต.ค. 57 ที่ผ่านมา

และในตอนสุดท้ายนั้นนายจารุพงศ์ก็ได้กล่าวว่า ขอฝากผลงานท่านอภิวันท์คือการปราศรัยครั้งสุดท้ายที่ถนนอักษะเมื่อ 21 พค.57 เพื่อปลุกเร้าจิตใจที่สู้รบให้ลุกโชนตลอดไป


ทางด้านนายสุนัย จุลพงศธร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คเพจชื่อ "New free thai" โดยเนื้อหาของข้อความดังกล่าวเป็นการเรียกร้องให้คนเสื้อแดงเดินทางไปรวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรับร่างของพ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบัน ตามหมายจับศาลอาญา กลับมาบำเพ็ญกุศลที่ประเทศไทย  ส่วน ดร.เพียงดิน รักไทยก็ได้มีการโพสคลิปลงยูทูปโดยใช้ชื่อว่าตอน อำลาอาลัย ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย และการสานต่ออุดมการณ์ ปชต.

ในขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้มีการแต่งเพลงเพื่อไว้อาลัยให้กับการจากไปของ พล.อ.อภิวันท์ โดยใช้ชื่อเพลงว่า อภิวันท์ วิริยะชัย


ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์จัทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ได้กล่าวกล่าวถึงการเสียชีวิตของ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย


โดยพล.อ.ประยุทธ์ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเป็นคนไทย ก็สามารถกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาได้ตามปกติ เราไม่ได้มีปัญหาข้อขัดข้องอะไร แต่เรื่องความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ผ่านมา รัฐบาลยอมไม่ได้ หากผิดก็คือผิด และขณะนี้ พ.อ.อภิวันท์ ยังเป็นทหารอยู่ ก็เป็นเรื่องของราชการต้องดำเนินการตามขั้นตอน อย่าตีกันไปตีกันมา ตนคงไม่ได้ไปร่วมพิธีศพ ซึ่งคงจะเข้าใจ  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อาจจะมีคนที่ต้องเสียชีวิตในต่างประเทศในลักษณะนี้อีก พล.อ.ประยุทธ์ ถามกลับว่า แล้วเขาไปต่างประเทศทำไม ผู้สื่อข่าวตอบว่า เขาหนี เพราะไม่มั่นใจว่า คสช.จะเอาอย่างไรกับเขาใช่หรือไม่


ตนไม่ได้ไปเอาอะไรกับเขา เขาผิดกฎหมายมาตราอะไร กฎหมายอาญา หรือแพ่ง ก็ต้องขึ้นศาลก็จบแล้วก็สู้มา บางทีศาลตัดสินไปแล้วยังตัดสินไม่ได้เลย หนีไปทำไม คนไทยจะไปเรียกร้องอะไร จะไปแจ้งยมบาลหรือเปล่า


ขอบคุณข่าวจาก tnews

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์