ชิงทอง 2 ล้านเศษ โจรบินเดี่ยวลงมือเร็ว

"บินเดี่ยว ปล้นชิงทอง 2 ล้านเศษ"



เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 พ.ค. พ.ต.ท.ภูมี อีคะละ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองขอนแก่น

รับแจ้งมีคนร้ายเข้าไปชิงทองรูปพรรณ

ที่ร้านเพชรทองกาญจนา เลขที่ 163/5-6 ตลาดสดเทศบาล 1 ถนนกลางเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้ทองรูปพรรณไปจำนวนมาก จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉลอง ภาคย์ภิญโญ รอง ผบก.ภ. จ.ขอนแก่น

พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร ผกก. พ.ต.ท.อนุกูล ดาวลอย

รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.นพเก้า โสมนัส สว.สส. พ.ต.ท.จินดา เทพยศ สวป. เจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 23 ขอนแก่น ไปตรวจสอบ พบเจ้าของร้านและพนักงานขายยืนรออยู่ด้วยอาการตกใจหน้าซีด ในที่เกิดเหตุพบรอยรองเท้าข้างซ้ายของคนร้ายบนตู้กระจก

นางจุฬารัตน์ บูรณไมตรี อายุ 30 ปี

เจ้าของร้านให้การว่า ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. มีพนักงานขายหน้าร้าน 6 คน ก่อนเกิดเหตุได้เปิดร้านตามปกติ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีคนร้ายเป็นชายสูงราว 160 ซม.

สวมหมวกกันน็อกสีน้ำเงิน

ไม่ปกปิดใบหน้า สะพายกระเป๋าสีแดงเลือดหมูตะเข็บสีขาว มีเลข 23 ติดด้านหน้ากระเป๋า ถือปืนพกสั้นเข้ามาในร้านตะโกนขู่ว่าห้ามยุ่ง จากนั้นคนร้ายกระโดดข้ามตู้กระจก กวาดเอาทองรูปพรรณเป็นประเภทสร้อยคอ



ที่แขวนไว้ในถาดภายในตู้โชว์ด้านหลัง

เป็นสร้อยคอทองคำเส้นละ 5 บาท 5 เส้น สร้อยคอทองคำเส้นละ 3 บาท 27 เส้น สร้อยคอทองคำเส้นละ 1 บาท 100 เส้น น้ำหนักรวม 206 บาท คิดเป็นมูลค่า 2,678,000 บาท ตนและพนักงานตกใจมาก ต่างก็หลบเอาตัวรอด และกดกริ่งสัญญาณเตือนภัยทันที หลังได้ทองคนร้ายก็เดินออกจากร้านหลบหนีไป

นางจุฬารัตน์กล่าวต่ออีกว่า

ทางร้านป้องกันภัยไว้อย่างรอบคอบด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วร้านถึง 8 ตัว เพราะเปิดจำหน่ายทั้งทองรูปพรรณ และเครื่องเพชร เพียงแต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ รปภ.เฝ้าหน้าร้านเท่านั้น

ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์

ทั้งหมดเอาไว้ได้อย่างชัดเจน เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รู้ว่าแม้จะพยายามป้องกันมากขนาดไหนก็ไม่อาจจะป้องกันโจรผู้ร้ายได้ หลังเกิดเหตุทางร้านได้แจ้งให้บริษัทไพบูลย์ประกันภัย จำกัด สาขาขอนแก่น

ซึ่งทางร้านได้ทำประกันภัยกรณี

ทรัพย์สินสูญหายทราบแล้ว สำหรับทองรูปพรรณที่คนร้ายได้ไปมีทั้งหมด 6 ลาย คือ ลายซีตรองโปร่ง ลายสี่เสาตัน ลายห่วงคู่โปร่งขั้นปล้อง ลายสุโขทัย ลายกระดูกงู

และมีทั้งหมด 6 ยี่ห้อ

คือ แต้จิบฮุย พุดเซ้ง จินไถ่เฮง ซินเจี้ยเชียง ซินคเซียง และไต่ฮั่วเซ่ง จึงอยากขอความร่วมมือ หากร้านทองร้านใดพบว่ามีผู้นำทองดังกล่าวไปขาย ขอให้แจ้งตำรวจทราบด้วย



พนักงานขายคนหนึ่งให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า

ขณะที่ตนและเพื่อนๆกำลังตรวจเช็กรายการสินค้า และเช็กบัญชีลูกค้า ซึ่งครบกำหนดต่อดอกเบี้ยสร้อยทองที่นำมาจำนำไว้ จู่ๆคนร้ายเดินผลักประตูเข้ามา ในมือขวาถือปืนสั้นสีดำ เล็งปืนมาที่ตนพร้อมทั้งบอกห้ามขัดขืน

ฟังจากสำเนียงการพูดน่าจะเป็นคนอีสาน

เพราะพูดกลางไม่ค่อยชัด ด้วยความกลัวตายจึงหลบอยู่ใต้ตู้กระจก แต่ขณะที่คนร้ายเดินเข้ามา ตนเห็นหน้าคนร้ายชัดเจน ถึงจะสวมหมวกกันน็อก แต่ไม่ได้ปกปิดใบหน้า ส่วนการแต่งตัวและลักษณะบุคลิกท่าทาง

อายุไม่น่าจะเกิน 30-35 ปี ดั้งจมูกหัก

ใบหน้าเหลี่ยม หากเห็นอีกครั้งสามารถชี้ตัวยืนยันได้ และพอคนร้ายเดินออกจากร้านแล้ว จึงวิ่งตามคนร้ายไป เห็นคนร้ายขี่รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 100 สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

ซึ่งจอดไว้ริมถนนกลางเมือง

ห่างจากหน้าร้านไปประมาณ 10 เมตร ขี่หลบหนีไปตามเส้นทางถนนกลางเมือง เลี้ยวซ้ายตรงถนนรื่นจิตร มุ่งหน้าไปทางบึงแก่นนคร

จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด

ที่ทางร้านบันทึกภาพเอาไว้พบว่า คนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วม สูงประมาณ 160 ซม. ผมสั้น สวมเสื้อแขนยาวสีฟ้าอ่อนคล้ายเสื้อยีนสีซีด สวมกางเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ เชือกผูกรองเท้าสีขาว



สวมหมวกกันน็อก สีน้ำเงินครึ่งใบ

ไม่ได้ปิดใบหน้า อายุราว 30 ปีเศษ สะพายกระเป๋าสีแดงเลือดหมูตะเข็บสีขาว หลังได้รับทราบเบาะแสทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกระจายกำลังออกตามล่า แต่ยังไม่มีวี่แวว

พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร ผกก.สภ.อ.เมืองขอนแก่น

กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จากการสอบถามเจ้าของร้าน พนักงานขาย รวมทั้งตรวจสอบพยานที่เห็นหน้าคนร้ายขณะหลบหนี พบว่าคนร้ายมีเพียงคนเดียว จอดรถ จยย. ไว้ตั้งแต่เวลา 8 นาฬิกาเศษ

เดินไปเดินมาสอบถามร้านค้าใกล้เคียง

ว่าร้านทองเปิดกี่โมง ซึ่งพฤติกรรมของคนร้ายไม่ได้ปกปิดหน้าตา พูดคุยอย่างเปิดเผย เห็นร้านทองเปิดให้บริการก็เข้าไปก่อเหตุทันที ใช้เวลาเพียง 20 วินาทีเท่านั้น ส่วนรถ จยย. เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน รุ่นเวฟ 100

หรือ 125 มีสติกเกอร์แอร์บัสติดอยู่ที่ตัวถังรถชัดเจน

หากประชาชนพบเห็น สามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะมีรางวัลนำจับให้ 2 แสนบาท สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนสั้นออโตเมติก ส่วนจะเป็นปืนปลอม หรือของจริงไม่อาจจะตอบได้

พ.ต.ท.อนุกูล ดาวลอย รอง ผกก.(ป.)

สภ.อ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น มีร้านทองอยู่ 87 ร้าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประชุมทำความเข้าใจในด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน



อันดับแรก ทางร้านจะต้องมีกล้องวงจรปิด

และจะต้องพร้อมทำงานได้ตลอดเวลา เพราะบางร้าน เมื่อเกิดเหตุเทปไม่มี เทปไม่สมบูรณ์ ไม่ได้เปิดกล้องบ้าง รวมถึงการมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งทางร้านอาจจะคิดว่าไม่จำเป็น แต่หากคิดถึงมูลค่าความเสียหายแล้ว มีไว้บ้างก็ดี เพราะตำรวจเองก็มีกำลังไม่เพียงพอที่จะมาเฝ้าหน้าร้าน หรือตรวจทุกนาทีได้

ด้าน พ.ต.ท.นพเกล้า โสมนัส สว.สส.สภ.อ.เมืองขอนแก่น

เปิดเผยถึงสถิติการปล้นร้านทองในเขตเทศบาลนครขอนแก่นว่า ตั้งแต่ปี 47 เกิดเหตุที่ร้านทองวรรณศุภ หลังตลาด อ.จิระ คนร้ายเป็นพนักงานเก่า วางแผนปล้น และยกเครื่องซีพียูไป กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้

ตำรวจก็จับคนร้ายได้ทั้งหมด

มูลค่าความเสียหาย 2 แสนบาท ปี 48 คนร้ายใช้ปืนปลอมชิงเอาแหวนทอง 4 วง ที่ร้านทองวชิระ บ้านหนองใหญ่ ริมถนนสายขอนแก่น-เชียงยืน ต.ในเมือง ที่ร้านมีกล้องวงจรปิด และจับคนร้ายได้

ระยะห่างกันไม่นานก็เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีกที่ร้านเดิม

โดยคนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืนลูกซองยาวยิงขู่เจ้าของร้าน แล้วชิงเอาทองไป 40 บาท วงจรปิดไม่มีเทป จับคนร้ายไม่ได้ และคนร้ายก็สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ต่อมาก็เกิดเหตุขึ้นที่ร้านทองวชิระ

บ้านดอนหญ้านาง ถนนกสิกรทุ่งสร้าง

ต.ในเมือง จับคนร้ายได้ เพราะพยานเห็นหน้าคนร้ายและเป็นคนที่เคยพักอยู่ในหอพักใกล้กับร้านทอง



ต่อมาในปี 49 คนร้ายปีนหลังคาถอดกระเบื้องออก

เข้าไปขโมยทองที่ร้านทองกรุงเทพเยาวราช ริมถนนมิตรภาพ-บ้านกอก ต.ในเมือง จับคนร้ายได้ โดยการสืบจากประวัติเก่า และลายนิ้วมือแฝงตามผนังร้าน สำหรับปี 50 นั้น เมื่อวันที่ 26 เม.ย.

คนร้ายปล้นทองจากร้านทองเยาวราชไป 39 บาท

ทางร้านมีกล้องวงจรปิด แม้คนร้ายปิดบังอำพรางใบหน้ามิดชิด แต่ก็สามารถจับได้ทั้งหมด เพราะสืบจากเสื้อยืดที่คนร้ายทิ้งเอาไว้ เป็นเด็กวัยรุ่นแก๊งบีบอย ล่าสุด วันที่ 6 พ.ค. ก็เกิดเหตุขึ้นที่ร้านเพชรทองกาญจนาภิเษก ริมถนนกลางเมือง

คนร้ายได้ทองรูปพรรณไป 206 บาท

คนร้ายมีคนเดียว ใบหน้าเปิดเผยชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนติดตามอยู่ และขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สเกตช์ภาพใบหน้าคนร้ายจากปากคำพยานที่เห็นหน้าคนร้ายชัดเจน แจกจ่ายไปตามสถานที่สำคัญ ร้านทอง แหล่งชุมชน โรงพักในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และพื้นที่ใกล้เคียงแล้ว



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์