ฆ่าตัวพิสดาร ให้งูเห่าฉกตาย รอผ่าหาสาเหตุ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 4 พ.ค. พ.ต.ต.ณพงษ์ กปิตถัย พงส.(สบ 2) สน.ปทุมวัน รับแจ้งเหตุพบศพ

ภายในสภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์

แขวงและเขตปทุมวัน กทม. ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ หลักฐานและแพทย์สถาบันนิติเวชฯ บริเวณพงหญ้าริมกำแพงรั้วใกล้กับอาคารพัสดุ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บพักขยะด้านหลังสถานเสาวภา

พบศพนายวิทยา ภาณุมาภรณ์ อายุ 48 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 2 ถนนจอมทองซอย 3 แขวงและเขตจอมทอง ฝั่งธนบุรี ผอ.ตรวจสอบภายใน บริษัทเอสซีแอสเซท จำกัด บริษัทในเครือชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด

ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ญาติได้ประกาศตามหา

ทางรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งเมื่อบ่ายวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา นอนคว่ำหน้า สวมเสื้อคอกลมสีขาว สวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีม้าลายทางสลับขาว กางเกงสแลคสีน้ำเงิน รองเท้าหนังสีดำ มือขวากำร่มชนิดพับได้สีน้ำตาล

ส่วนมือซ้ายกำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท

ห้อยหยกรูปเจ้าแม่กวนอิมเลี่ยมทอง ตรวจสอบทรัพย์สินในตัวยังอยู่ครบถ้วน นิ้วนางซ้ายสวมแหวนทองฝังเพชร ข้อมือขวาสวมนาฬิกาไซโก้ ในกระเป๋ากางเกงมีเงินสด 50 บาท

และเช็คขีดคร่อมของธนาคารกรุงเทพจำนวน 1 แสนบาท

ข้างตัวพบแว่นสายตาตกอยู่กับตลับยา 1 กล่อง ข้างในมียาเม็ดสีเหลือง 1 เม็ด แพทย์ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว เสียชีวิตมาประมาณ 1-2 วัน โดยตามร่างกายไม่พบบาดแผลใดๆ ต้องผ่าพิสูจน์หาสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป

จากการสอบสวนนางภัทรวรรณ ภาณุมาภรณ์

อายุ 42 ปี ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 56 ถนนเจริญนคร 24 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน ฝั่งธนฯ ให้การว่า สามีหายตัวไปตั้งแต่เย็นวันที่ 2 พ.ค. โดยเมื่อเช้าวันที่ 2 พ.ค. ออกจากบ้านไปทำงานที่ตึกชินวัตร 3 ตามปกติ

และตอนเย็นได้โทรศัพท์ไปบอกลูกว่า

จะกลับไปกินข้าวที่บ้านด้วย แต่ก่อนกลับจะแวะทำบุญที่สภากาชาดไทยก่อน แต่ทุกคนรอจนค่ำก็ยังไม่กลับบ้าน เมื่อไปตรวจสอบที่สภา กาชาดไทย พบรถเก๋งโตโยต้าวิช สีขาว ทะเบียน ษย 5553 กรุงเทพมหานคร

จอดอยู่บริเวณศูนย์บริการโลหิตสภา

กาชาดไทย ภายในรถทรัพย์สินต่างๆยังอยู่ครบถ้วน ทั้งกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือ แต่เดินตามหาจนทั่วก็ไม่พบตัวนายวิทยา สอบถามก็ไม่มีใครรู้เห็น ด้วยความเป็นห่วงจึงแจ้งความคนหายไว้ที่ สน.ปทุมวัน

โดยนางภัทรวรรณระบุว่า

นายวิทยาสามีเป็นคนรักครอบครัว เลิกงานก็จะกลับบ้าน ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แต่มีโรคประจำตัวเป็นโรคหูแว่ว มีเสียงก้องดังในหู รักษามานาน 2 ปีแต่ยังไม่หาย ทำให้เครียดมาก ล่าสุดเพื่อนได้แนะนำให้รักษาโดยการฉีดสเต็มเซลล์

ซึ่งค่ารักษาแพงมาก จ่ายค่ารักษาไปแล้ว 2 แสนบาท

เช็คที่พบในกระเป๋าเตรียมนำไปจ่ายค่ายา นางภัทรวรรณให้การด้วยว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา รู้สึกเอะใจที่สามีเข้ามาสวมกอดแล้วพูดทำนองสั่งเสียว่า ตนจะต้องเป็นเสาหลักของครอบครัวดูแลเลี้ยงลูกต่อไป

แต่ก็ไม่ได้ถามว่าหมาย ความว่าอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ข้องใจในสาเหตุการตายของสามี เพราะจุดที่พบศพเป็นจุดอับ อยากให้แพทย์ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ต่อมา พ.ต.ท.อาคม จันทนลาช

รอง ผกก.สส. สน. ปทุมวัน ได้นำตัวนายยุรนันท์ คำใหล อายุ 21 ปี รปภ. สถานเสาวภา ประจำสวนงู มาสอบปากคำให้การว่า เย็นวันเกิดเหตุเข้าเวร 2 คน ตอน 6 โมงเย็นได้รับแจ้งว่ามีคนบุกรุกสวนงู

ซึ่งเป็นช่วงที่ปิดดำเนินการแล้ว

โดยใช้ไม้เล็กๆแหย่เข้าไปในกรงงูเห่า เมื่อไปตรวจสอบพบชายคนเดียวกับที่เป็นศพเดินอยู่ใกล้กับกรงงูเห่า สอบถามอ้างว่านัดญาติไว้ จึงเชิญให้ออกจากบริเวณดังกล่าวไปด้านนอก

ระหว่างทางชายดังกล่าวขอแวะเข้าห้องน้ำ

เสร็จแล้วถามหาศูนย์บริจาคโลหิตจึงชี้ให้ดู จากนั้นก็แยกทางกัน โดยยืนยันว่าขณะที่พูดคุยกันชายคนดังกล่าวมีอาการคล้ายกับคนเหม่อลอย อย่างไรก็ตาม รปภ.ยืนยันว่าลูกกรงบ่องูเห่าซึ่งสถานเสาวภาเลี้ยงไว้รีดพิษทำเซรุ่ม

แน่นหนาถึง 2 ชั้น

และชั้นนอกกับชั้นในก็อยู่ห่างพอสมควร ไม้แหย่อย่างไรก็ไม่ถึง อีกทั้งตาข่ายลูกกรงก็ถี่มือไม่สามารถรอดเข้าไปได้ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการตาย แต่ตั้งประเด็นไว้หลายสาเหตุ โดยอาจเป็นไปได้ที่ผู้ตายถูกงูเห่ากัด หรือมาจากการกินยารักษาโรคประจำตัวเกินขนาด รวมทั้งฆ่าตัวตายเอง

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่านายวิทยา ภาณุมาภรณ์

ผู้เสียชีวิต เป็น 1 ในผู้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ จะเรียกตัวไปสอบในฐานะพยานในคดีบริษัทกุหลาบแก้วเป็นนอมินีของต่างชาติที่เข้ามาซื้อหุ้นชินคอร์ป และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานของดีเอสไอด้วย

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ