ตำรวจกระบี่เตือนแก๊งสกิมเมอร์อาละวาดหนัก - ผู้เสียหายร่วม 40 ราย

ตำรวจกระบี่เตือนแก๊งสกิมเมอร์อาละวาดหนัก - ผู้เสียหายร่วม 40 ราย

ตำรวจกระบี่เตือนแก๊งสกิมเมอร์อาละวาดหนัก - ผู้เสียหายร่วม 40 ราย

วันที่ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.นันทเดช  ย้อยนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่กล่าวว่า  ขณะนี้ได้มีกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาโจรกรรมข้อมูลในบัตรเอทีเอ็มในจังหวัดกระบี่กำลังระบาดและตนได้กำชับให้ตำรวจทุกโรงพักประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบและระมัดระวังในการใช้บัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิตสการ์ดของทุกธนาคาร  กลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ใช้เทคนิคพิเศษในการเข้ามาเจาะข้อมูลตามตู้เอทีเอ็มหลายวิธี ขอให้ประชาชนสังเกตกลุ่มชาวต่างประเทศที่อยู่กับตู้เอทีเอ็มนานๆ สงสัยว่าน่าจะกำลังติดตั้งเครื่องสกิมเมอร์ในการเจาะข้อมูลในบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตก็ขอให้แจ้งกับทางตำรวจไว้ก่อน และทราบว่ากลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้มาจากประเทศเพื่อนบ้าน มีการพัฒนาเทคโนยีพิเศษที่ทันสมัยเพื่อใช้ในการโจรกรรมข้อมูลอยู่ตลอดเวลา

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่กล่าวต่อไปว่า จึงขอเตือนให้ประชาชนอย่าใช้ตู้เอทีเอ็มที่ตั้งไว้ในที่ลับตาคนหรือที่เปลี่ยว ตู้ที่คนใช้น้อย จะมีความสุ่มเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมข้อมูล  และล่าสุดมีประชาชนในจังหวัดกระบี่มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเหตุดังกล่าวเกือบ 40 คน เงินสดหายจากธนาคารประมาณ 1 ล้านบาทเศษ และทราบว่ามีการนำข้อมูลไปกดบัตรเงินสดที่ประเทศไต้หวัน  ซึ่งมีการทำกันเป็นขบวนการที่แยบยน อาศัยช่องว่างของธนาคารเป็นการส่งข้อมูลจากในประเทศไปยังต่างประเทศ เช่น มาเก็บข้อมูลบัตรเดือนนี้แต่ไปกดเงินอีกเดือนหนึ่ง  จึงขอให้ประชาชนตื่นตัวและระมัดระวังเป็นการป้องกันไว้ก่อน ตำรวจกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปสู่การจับมิจฉาชีพกลุ่มนี้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้คนร้ายขยายวงความเสียงหายกว้างไปกว่านี้

ด้าน พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์  นุชนารถ  ผกก.สภ.เมืองกระบี่  เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมจนถึงขณะนี้ มีประชาชนผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ว่าถูกแฮ็กข้อมูลบัตรเอทีเอ็มแล้วจำนวน 40 ราย โดยในจำนวนดังกล่าว มีนายทวีพงศ์ เจริญรูป อายุ 31 ปี เป็นกัปตันทีมกระบี่เอฟซี ถูกกดเงินไป 323,868 บาท ถือเป็นรายที่มากที่สุดในขณะนี้ รวมวงเงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามประสานกับทางธนาคารเพื่อจะขอข้อมูลการใช้บริการตู้เอทีเอ็ม    และขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด  เพื่อดูว่าคนร้าย หรือผู้ต้องสงสัยแอบมาทำการแฮ็กข้อมูลในช่วงเวลาใด  เพื่อจะได้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว  แต่ขณะนี้ทางธนาคารยังไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูล  ขณะที่ยอดผู้เสียก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่องคาดว่าแก็งสคิมเมอร์รายนี้มาจากประเทศมาเลเซีย คาดว่าเข้ามาคัดลอกข้อมูลจากตู้เอทีเอ็มในตัวเมืองกระบี่ ได้ประมาณ 1 เดือนก่อนปลอมแปลงบัตรกดเงินใช้ในต่างประเทศ

“ยอมรับว่าหนักใจเนื่องจากยังไม่ได้ข้อมูลจากธนาคารเพราะขั้นตอนยุง่ยาก  อย่างไรก็ตามทางธนาคารที่มีลูกค้าถูกแก็งสคิมเมอร์แฮ๊กข้อมูล แจ้งว่า ยินดีที่จะรับผิดชอบให้ลูกค้าทุกราย ที่ไปแจ้งความไว้แล้วที่สภ.เมืองกระบี่ โดยให้นำหลักฐานต่างๆไปยื่นที่ธนาคาร เพื่อจะได้บรรเทาความเดือดร้อนให้ลูกค้าที่ถูกแฮ๊กข้อมูล"


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์