รวบหนุ่มอ้างตัวเป็นเลขาฯคสช. ซุกอาวุธสงครามโวขายกองทัพ

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม รวบหนุ่มอ้างตัวเป็นเลขาฯคสช. ซุกอาวุธสงครามโวขายกองทัพ

16 ก.ค.57 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร.

พร้อมด้วย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผบ.ตร. รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.ศ. ช่วยราชการบช.น. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รองผบช.น. พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ รองผบก.น.5 พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รองผกก.สส.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ธเนศ มีทอง พ.ต.ท.กฤษดา มานะวงศ์สกุล สว.สส.สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสน.ลุมพินี

ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายสัชญา สถิพงษะสุทธิ หรือขวัญ อายุ 39 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนเอ็ม 16 ขูดลบเลขประจำปืน

บรรจุแม็คกาซีนเปล่า 1 กระบอก อาวุธปืนเอ็ม16 ดัดแปลง ติดตั้งลำกล้องเก็บเสียง บรรจุแม็คกาซีน ภายในมีลูกกระสุนขนาด 5.56 บรรจุไว้ 27 นัด อาวุธปืนเล็กยาว ขนาด 7.62 มม. ดัดแปลง บรรจุแม็คกาซีน ภายในมีลูกกระสุนขนาด 7.62 บรรจุกระสุน 20 นัด อาวุธปืนยาวยี่ห้อรูเกอร์ ขนาด.22 ทะเบียน กท 5556591 หมายเลขประจำปืน 359-34743 บรรจุแม็คกาซีนภายในมีลูกกระสุนขนาด.22 จำนวน 25 นัด ลำกล้องปืน 1 ชุด

อาวุปืนสั้น 3 กระบอก กระสุนเอ็ม 79 จำนวน 19 นัด ลูกกระสุนขนาด 5.56 รวม 2,329นัด ลูกกระสุนขนาด 7.62 รวม 568 นัด

ลูกกระสุนขนาด.22 รวม 433 นัด ลูกกระสุนปืนขนาด.38 ซูปเปอร์ รวม 59 นัด ลูกกระสุนปืนขนาด .357 แม็กนั่ม จำนวน 12 นัด กระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 8 นัด รวม 3,401 นัด ปลอกกระสุนปืนแม็คกาซีนขนาดต่างๆ อุปกรณ์บรรจุกระสุนลูกโม่ 2 อัน กล้องส่องในเวลากลางคืน 1 ชุด เสื้อกันกระสุน 1 ตัว หมวกกันกระสุนสีดำ 1 ใบ โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้องพักเลขที่ 9/572 คอนโดมิเนียม ดิแอดเดรส ชิดลม อาคารบี ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน

พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ก.ค. เวลาประมาณ 21.00 น. ชุดสืบสวน สน.ลุมพินี

สืบทราบว่า นายสัชญา มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับอาวุธสงคราม และนำอาวุธสงครามไว้ที่ห้องพักเลขที่ 9/572 ดิแอดเดรส ชิดลม อาคารบี ซอยชิดลม จากการตรวจค้นห้องพักพบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และยุทธภัณฑ์อีกจำนวนมมากซุกซ่อนไว้ โดยของกลางทั้งหมดมีสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งในกรณีนี้เป็นรายล่าสุดที่พึ่งจับได้และไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาคดีที่ยิงเอ็ม 79 ที่ได้ออกหมายจับไป7 ราย และสามารถจับกุมได้แล้ว 3 ราย

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า อาวุธดังกล่าวเป็นของตนเองจริง
โดยเป็นอาวุธปืนที่นำมาใช้ซ้อมยิงเพื่อติดต่อค้าขายกับทางกองทัพ ประกอบกับตัวเองเป็นคนชอบเล่นปืนและสะสมอาวุธปืน ยืนยันว่า จะไม่แถลงข่าวและไม่ให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ต้องการที่จะพบทนายเพียงเท่านั้น เนื่องจากเป็นสิทธิ์ตามกฎหมายของคนไทย ซึ่งจากการตรวจสอบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนทั้งหมดไม่ได้มีการจดทะเบียนและขึ้นทะเบียนไว้ตามกฎหมาย เพราะไม่มีใบอนุญาต รวมทั้งระหว่างที่เข้าทำการควบคุมตัวนั้น นายสัชญา ได้อ้างตัวเองว่าเป็นเลขานุการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ด้วย และพยายามจะชักอาวุธปืนสั้นที่พกติดตัวยิงต่อสู้ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างเข้าทำการจับกุม

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศยืนยันว่า ดีเอ็นเอลายนิ้วมือที่พบบนอาวุธสงครามเป็นของนายสัชญา

และมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพได้ รวมถึงพยานบุคคลผู้เห็นเหตุการณ์ขณะมีการส่งมอบอาวุธสงคราม เบื้องต้นแจ้งข้อหามีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและใช้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย มียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ดำเนินคดีต่อไป.