แจ้งจับ´ครูยุ่น´ พรากผู้เยาว์ฯ

"ร้อง แจ้งความจับ ครูยุ่น พรากผู้เยาว์"



เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 เม.ย. นายสุวรรณ ขอสงวนนามสกุล อายุ 48 ปี พร้อม น.ส.โป่ง (นามสมมติ) อายุ 18 ปี

บุตรสาว เข้าพบ พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.ปดส.

เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก และนายเตชาติ์มีชัย เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ

ในข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี

ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล กักขังหน่วงเหนี่ยว และใส่ร้าย ทำให้ต้องโทษทางคดีอาญา

นายสุวรรณกล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2544

ขณะ ที่ลูกสาวเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เชียงรากน้อย จ.ปทุมธานี ได้มีนายเตชาติ์ มีชัย เจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองเด็ก มาพาตัวไปที่มูลนิธิฯ อ้างว่าจะพาไปพบนางปิยาภรณ์ ผู้เป็นแม่

หลังมีผู้โทรศัพท์แจ้งมูลนิธิฯว่า น.ส.โป่งถูกตนกระทำอนาจาร

และล่วงละเมิดทางเพศทั้งนี้ ยังให้ น.ส.โป่งเซ็นชื่อในกระดาษ แต่ไม่ยอมให้อ่านข้อความ ก่อนกักตัวเอาไว้นานกว่า 3 เดือนครึ่ง แม้ทางบ้านมาขอรับตัวกลับ แต่มูลนิธิฯกลับไม่อนุญาต



ทำให้ น.ส.โป่งเสียเวลาเรียนไป 1 ปี

ขณะที่ตนถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 3 ปี 4 เดือน แต่ได้รับอนุญาตประกันตัวออกมาอุทธรณ์ต่อสู้คดี ต่อมาตนไปเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้คนรู้จักฟัง ได้รับคำแนะนำให้มาแจ้งความ เพราะไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา

น.ส.โป่งกล่าวยืนยันว่า นายสุวรรณไม่ได้ข่มขืน

หรือล่วงละเมิดทางเพศ แต่ตอนนั้นตนคิดถึงแม่มาก จึงเซ็นชื่อลงไปในเอกสาร จากนั้นนายเตชาติ์ได้พาไปที่ สภ.อ. คลองหลวง แจ้งความลงบันทึกประจำวัน ก่อนพาตัวกลับมูลนิธิฯ ตลอดเวลา 3 เดือน

ที่อยู่ในมูลนิธิฯทำแต่งานบ้านเล็กๆน้อยๆ

เช่น กวาดพื้น เช็ดกระจก แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกมูลนิธิฯเด็ดขาด ส่วนร่องรอยการถูกข่มขืน ทางโรงพยาบาลบอกว่าไม่พบ เช่นเดียวกับนางปิยาภรณ์ทราบภายหลังจากบิดาว่าไม่ใช่แม่ที่แท้จริง เป็นแค่แม่เลี้ยงเท่านั้น

พล.ต.ต.วิมลกล่าวว่า จะรับเรื่องร้องทุกข์ไว้ก่อน

โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.มนัส ทองสีม่วง พงส.(สบ3) กลุ่มงานสอบสวน บก.ปดส. นำนายสุวรรณ และ น.ส.โป่ง ไปสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไปโดยจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

ต่อมานายเตชาติ์ มีชัย หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย

มูลนิธิคุ้มครองเด็ก เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.มนัส เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง รวมถึงมอบเอกสารที่จะเป็นประโยชน์ ต่อการตรวจสอบ แต่เมื่อนายเตชาติ์มาปรากฏตัวต่อหน้าพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.มนัส



ได้แจ้งข้อกล่าวหา รวมทั้งทำประวัตินายเตชาติ์ไว้

เบื้องต้นนายเตชาติ์ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังสอบสวนเบื้องต้นเสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว โดยนายเตชาติ์กล่าวว่า คงต้องแจ้งความกลับ

ในข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จให้ผู้อื่น

ได้รับโทษทางคดีอาญา และข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ส่วนจะไปแจ้งความที่ใด จะตัดสินใจอีกครั้ง ส่วนทางมูลนิธิฯจะดำเนินการอย่างไรต่อไป อยากให้ไปสอบถามจากนายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่นเอาเอง

ด้านนายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น เผยว่า

การที่นายสุวรรณแจ้งความดำเนินคดีกับตน ถือว่าเป็นสิทธิสามารถทำได้ แต่ต้องรับผิดชอบสิ่งที่แจ้งความด้วย อย่างไร ก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้นมูลนิธิฯยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับครอบครัวผู้เสียหายแต่อย่างใด

และหากผู้เสียหายไม่ยินยอมให้

มูลนิธิฯช่วยเหลือตั้งแต่แรก คงไม่สามารถเข้าไปดำเนินการอะไรได้ นอกจากนี้ระหว่างที่คดีมีการพิจารณาในชั้นศาล ก็ไม่สามารถบังคับให้ผู้เสียหายพูดอะไรได้อยู่แล้ว

การทำงานของมูลนิธิฯเป็นธรรมดา

ที่จะต้องได้รับผลกระทบแต่เพื่อให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษตามกฎหมาย แม้จะต้องเจ็บตัวบ้างก็ไม่เป็นไร ว่ากันไปตามกฎหมาย




ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์